19 พฤษภาคม 2566
จากเด็กเกเรหนีเรียน เที่ยวขอเงินผู้คนไปหยอดตู้เกมตามห้างฯ สู่ฮีโร่ในซีเกมส์ที่พนมเปญ ในวัยเพียง 16 ปี "เบสท์ ศราวุธ นวลศรี" ผ่านเรื่องราวมากมายที่แทบไม่น่าเชื่อว่า จะเป็นชีวิตของเด็กอายุ 16 ปี นี่คือเรื่องราวชีวิตที่ยิ่งกว่าละครก่อนเข้าสู่การเป็นนักวิ่ง 400 เมตรทีมชาติไทย
จากกองขยะสู่สนามวิ่ง
แม้ว่าครูจะเห็นแววด้านวิ่งของเขามาตลอด แต่เบสท์ ศราวุธ นวลศรี ไม่เชื่อมั่นในสิ่งนั้น กลับใช้เวลาไปกับการหนีเรียน เล่นเกม ไปเดินห้าง แม้ครูจะเคี่ยวเข็ญให้ซ้อมวิ่ง เขาก็ไม่สนใจ "แม่กับพ่อผมแยกทางกันตั้งแต่เด็ก ผมอยู่กับย่า บ้านเกิดอยู่ที่สุราษฎร์ฯ มาวิ่งเพราะความบังเอิญที่ตัวสูง ตอนแรกขี้คร้านตลอด จนครูต้องมาตามที่บ้าน ผมก็เถียงกับครู หนีโรงเรียนตลอด ไปเที่ยวห้าง ไปขอตังคนแถวนั้นเล่นเกม 5 บาท 10 บาท"
จุดพลิกผันของเบสท์เกิดขึ้นตอนเลื่อนชั้นเข้ามัธยม อาจารย์สยาม พร้อมมูล จากโรงเรียนศรียาภัย จังหวัดชุมพร อดีตนักวิ่ง 100 เมตรทีมชาติไทย เห็นแววการวิ่งและขอตัวไปจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อซ้อมเยอะ เข้าระบบ ก็เริ่มแข่งชนะ และได้รางวัลตอบแทนเป็นเงิน จุดไฟให้กับเบสท์บนเส้นทางใหม่
"ซ้อมเยอะๆ ชนะก็ได้ตัง อยากดูแลครอบครัวตัวเองอยากดูแลย่า ก็เลยพยายามซ้อมต่อ อาจารย์สยามก็ดูแลผมเหมือนพ่อ แฟนอาจารย์ก็ดูแลผมเหมือนแม่ เพราะทุกคนรู้ว่าผมบ้านจน อาจารย์เคยบอกว่า ผมอยู่ในถังขยะ แกเก็บมา รื้อขึ้นมา จนเป็นคนดี ผมก็ตั้งใจมาตลอด"
จากวันนั้นเบสท์ก็ย้ายมาเก็บตัวที่บ้านอาจารย์สยาม ร่วมกับเพื่อนๆ นักกีฬาอีกหลายคน จากเด็กเกเร หันมาเรียนและซ้อมวิ่งเพื่อความเป็นเลิศ
ถ้าไม่มีย่าและอาจารย์ผมคงต้องไปสถานสงเคราะห์
ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเด็กผู้ชายทุกคนก็เสี่ยงที่จะหลงทางในชีวิต ไม่ติดเกม ก็ติดยาเสพติด เบสท์เองผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เพราะบุคคล 2 คน ในชีวิต คือ ย่า และอาจารย์สยาม "รักย่ามาก ถ้าไม่มีย่า ผมอาจไปอยู่ตามสถานสงเคราะห์ ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า การได้มาอยู่กับอาจารย์สยาม และได้มาวิ่ง คือจุดเปลี่ยนชีวิตผม"
เบสท์เล่าว่า สมัยที่ยังเกเร มีอยู่วันหนึ่งที่กลัวขึ้นมาว่าจะต้องติดคุก ติดยา โชคดีที่ได้มารู้จักกับการวิ่ง และเงินรางวัลแรกจากการวิ่ง เบสท์ก็มอบมันให้ย่า "วิ่ง 200 เมตรได้ที่ 1 ที่งานอปท.ระดับประเทศครั้งแรก ดีใจมาก ตอนนั้นยังอ้วนอยู่ เพราะไม่ได้ซ้อมมาก แต่ชนะได้เงินมา ก็เอาไปให้ย่า ผมรู้ว่าย่าภูมิใจมาก แต่ไม่ค่อยแสดงออก จากเมื่อก่อนเคยต้องขอตังย่า ตอนนี้ก็ไม่ต้องแล้ว"
จากวันนั้นเบสท์ตั้งใจซ้อม เพราะรู้ดีว่า แค่พรสวรรค์ไม่เพียงพอกับชัยชนะ แต่ต้องมีพรแสวงควบคู่กัน ช่วงที่ตั้งใจและมุ่งมั่นมาก เคยเจอปัญหาบาดเจ็บ แต่ก็ยังสู้ต่อ เพราะมีกำลังใจจากย่าและอาจารย์สยาม
"มีบางครั้งเหนื่อย ท้อกับการซ้อม เคยเจ็บ 1 ปี ท้อจนอยากเลิก แต่อาจารย์ให้กำลังใจ ผลักดันให้เราฮึดสู้ จนขึ้น ม.2 ได้แข่งกีฬาแห่งชาติครั้งแรก"
แจ้งเกิดที่ยุวชนเอเชีย อุซเบกิสถาน
30 เม.ย. 2566 ณ กรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน ปรากฎชื่อ ศราวุฒิ นวลศรี, ชุตินันท์ พฤกษ์สรนันท์, วีรยุทธ แดนขนบ และณัฐพล สุขเกษม ในรายการผลัดเมดเลย์ชาย กรีฑายุวชนอายุไม่เกิน 18 ปีชิงชนะเลิศแห่งเอเชียครั้งที่ 5 หรือ เอเชียน ยู-18 แอธเลติกส์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 เป็นการแข่งขันไฮไลต์ในวันสุดท้าย
เด็กชายอายุไม่เกิน 16 ปีทั้ง 4 คน สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าเหรียญทอง ด้วยสถิติ 1.52.59 น. เป็นการทำลายสถิติเดิมของทีมจีน ซึ่งก่อนหน้านั้นเบสท์ ศราวุธ เพิ่งจะคว้าเหรียญทองและทำลายสถิติ 400 เมตรชายรุ่นไม่เกิน 16 ปี
"ไปต่างประเทศครั้งแรก ไม่เคยวิ่งเวลาดีขนาดนี้มาก่อน (46 วินาที) เคยท้อ เคยกลัวจะวิ่งไม่ได้ อาจารย์ให้กำลังใจตลอด ก็ฮึดสู้ขึ้นมา ตอนวิ่งก็ซัดหมด พอทำได้ดีใจมาก วิ่งไปกอดแก" เป็นภาพความชื่นมื่นของศิษย์อาจารย์ ที่อาจารย์สยามได้ร่วมเดินทางไปที่อุซเบกิสถานด้วยตัวเอง
ความสำเร็จในวันนั้นยิ่งเพิ่มความฮึกเหิมให้กับเบสท์ เมื่อได้ลงสนามในการแข่งกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่นครสวรรค์ เขาก็ทำผลงานได้ดีแบบต่อเนื่อง จนเข้าตาสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย
สู่ฮีโร่ 2 เหรียญซีเกมส์ที่พนมเปญ
"อาจารย์เอาคลิปผมส่งให้ผู้ใหญ่ในสมาคม จากนั้นก็ติดซีเกมส์ ได้ไปพนมเปญ ดีใจมาก ผมเห็นชื่อตัวเองที่เขาประกาศ ตอนแรกไม่คิดเลยว่าจะติด ภูมิใจมาก มาไกลมาก อาจารย์ก็ดีใจมาก" เบสท์บอกว่า อาจารย์สยามทุ่มเทกับเขามากในทุกเรื่อง ทั้งการใช้ชีวิตและการฝึกซ้อม "อาจารย์เสียเงินกับผมไปเยอะมาก รวมถึงทีมกรีฑาของพวกเรา เลี้ยงข้าวทุกคน ทำทีมจนเป็นหนี้ กู้เงินมาดูแลพวกผม"
ณ สนามมรดกเดโช วันแรกของการแข่งขันกรีฑาประเภทลู่ ทีมผลัดผสม 4*400 เมตรทีมชาติไทย ลงสนามมาโดยมีนักกรีฑาขวัญใจคนไทย อย่างจอชชัว โรเบิร์ท แอทคินสัน, เบนนี่ โนนทะนำ และน่าน ศุภนิช โดยมีเบสท์ ศราวุธ เดินนำทุกคนลงสนามมา
"ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าจะเป็นตัวจริง มารู้ตอนจะแข่ง ตอนแรกตื่นเต้นมาก แต่ไม่เครียด" นี่คือการลงสนามซีเกมส์ครั้งแรกของเบสท์รับบทไม้แรก ออกบล็อก และส่งไม้ 2 ให้เบนนี่ เบสท์โชว์ฟอร์มได้ดี เปิดไม้แรกพาทีมไทยคว้าเหรียญเงินได้
เบสท์บอกว่า เขาไม่ได้กดดันมาก แต่รู้สึกกดดันกับการลงสนามครั้งที่ 2 ในรายการ 4*400 เมตรชาย รายการแข่งขันปิดท้ายของทัพกรีฑาไทยที่พนมเปญ "มาเครียดตอน 4*400 ชาย รู้สึกขาหนัก แต่พยายามฟรีที่สุด มาตื้อตอนท้ายนิดหน่อย แต่ทำได้ตามเป้า ประทับใจแล้ว เป็นที่ 2 ที่ภูมิใจมาก"
วันนี้เบสท์กลับมาพร้อมเหรียญเงิน 2 เหรียญ ส่งมอบมันให้อาจารย์สยามได้ภูมิใจ และโพสต์ถึงความสำเร็จของศิษย์รักเป็นรูปเหรียญสีเงินรูปสนามมรดกเดโช พร้อมแคปชั่นว่า "สวยเหมือนกันนะเนี่ยเหรียญซีเกมส์ ภูมิใจ ดีใจ กับสิ่งที่เด็กผมทำเองปั้นเอง หายเหนื่อย เบสท์ ศราวุฒิ นวลศรี"
ส่วนเบสท์ บอกว่า หลังจากนี้จะเดินทางต่อเพื่อล่าฝัน พัฒนาตัวเองให้มากขึ้น หากมุ่งมั่น ตั้งใจ มั่นใจว่าผลลัพธ์จะออกมาดี พนมเปญเป็นก้าวแรก ที่จะมีก้าวต่อไป และจะพัฒนาอีกหลังจากนี้
TAG ที่เกี่ยวข้อง