10 พฤษภาคม 2566
มหกรรมกีฬาซีเกมส์ไม่เพียงแต่เป็นเวทีแจ้งเกิดของบรรดาเหล่านักกีฬาดาวรุ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นรายการที่นักกีฬารุ่นเก๋าหลายคนใช้เป็นเวทีแสดงศักยภาพของตัวเองด้วยเช่นกัน และในซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ ก็มีนักกีฬาไทยหลายคนที่แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงท้ายของการเป็นนักกีฬาแล้ว แต่พวกเขายังคงดูแลสภาพร่างกายของตัวเองได้เป็นอย่างดี และมาลงแข่งขันด้วยความกระหายชัยชนะไม่แพ้เด็กรุ่นใหม่ ซึ่งจะมีใครบ้างติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่
พันจ่าเอกหญิง ทองสี ตะมะโคตร
สร้างชื่อให้กับวงการเปตองไทยด้วยการคว้าแชมป์โลกในประเภท shooting ตั้งปี 2004 จากนั้นตลอดระยะเวลา 20 ปี เธอเป็นกำลังสำคัญพาทีมเปตองสาวไทยคว้าแชมป์โลกมาครองได้ถึง 8 สมัย
ปัจจุบันในวัย 57 ปี ทองสี ตะมะโคตร ยังไม่หมดความท้าทายในการเล่นกีฬาเปตอง มีชื่อนำทัพเปตองไทยไปลุ้นเหรียญทองซีเกมส์ที่กัมพูชาอีกครั้ง โดยหนสุดท้ายที่เธอคว้าเหรียญทองได้เกิดขึ้นในซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์ ทำได้ 2 เหรียญทองจากประเภทคู่และประเภททีม
ส่วนซีเกมส์ 2023 เธอมีชื่อติดทีมอีกครั้งหลังเว้นวรรคหลายปีเพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ รุ่นใหม่ ซึ่งเธอจะคว้าเหรียญทองซีเกมส์ได้อีกครั้งหรือไม่ มาส่งใจเชียร์ไปพร้อมกัน
“ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา ภู่โอบอ้อม
นักสนุกเกอร์ระดับตำนานของโลก ถึงแม้ว่าในวัย 53 ปีเขาจะไม่ได้ไปวาดลวดลายในเวทีอาชีพที่ประเทศอังกฤษแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการสอยคิวในเมืองไทย
ผลงานในวงการสอยคิวโลกของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” นั้นไม่ต้องพูดถึง อย่างที่ทราบกันเขาเคยขึ้นไปถึงมือ 3 ของโลก ผ่านเวทีครูซิเบิลมาถึง 13 ครั้ง แต่ในฐานะตัวแทนทีมชาติไทยน่าเหลือเชื่อเหมือนกันว่า เหรียญทองซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม จะเป็นเหรียญทองแรกของเจ้าตัวในนามทีมชาติ ผลงานดีที่สุดก่อนหน้านี้คือการคว้าเหรียญเงินเอเชียน 1998 และเอเชียนอินดอร์เกมส์ 2007
“ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” เป็นพี่ใหญ่นำทัพสอยคิวไทยไปลุยซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา โดยเจ้าตัวขอป้องกันแชมป์สนุกเกอร์ 15 แดงประเภทบุคคลเอาไว้ให้ได้อีกครั้ง
“บอล” ภาคภูมิ สงวนสิน
นักตบลูกเด้งวัย 39 ปี ติดทีมชาติไทยครั้งแรกในเอเชียนเกมส์ 1998 แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ความพยายามเจ้าตัวทำให้เขาแจ้งเกิดได้ในซีเกมส์ 2001 ที่ประเทศมาเลเซีย
ในปีนั้น ภาคภูมิ สงวนสิน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าเหรียญทองประเภททีมชายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไทย และยังคว้าเหรียญเงินประเภทชายคู่ และเหรียญทองแดงในประเภทคู่ผสม
จากนั้น ภาคภูมิ ที่กำลังมีอายุครบ 40 ปี ในเดือนกรกฎาคมนี้ ได้ตัดสินใจอำลาทีมชาติไทยช่วงปี 2009 ก่อนจะหวนคืนทีมชาติอีกครั้งใน 13 ปีต่อมา นำทีมลูกเด้งไทยไปลุยซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม
การกลับมาของภาคภูมิเปรียบเหมือนโชคชะตา เขาพาทีมปิงปองชายคว้าเหรียญทองได้เป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี ต่อจากปี 2001 ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในขุนพลชุดดังกล่าว ขณะเดียวกัน ภาคภูมิ ยังเป็นนักปิงปองชายไทยคนแรกในรอบ 19 ปีที่ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ต่อจากปี 2003 ซึ่งก็เป็นเขาที่ทำได้ครั้งสุดท้าย ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะยังไม่สมหวังก็ตาม
ซีเกมส์ 2023 ภาคภูมิ ยังคงเป็นพี่ใหญ่ของทีมมาพร้อมความมุ่งมั่นอยากที่จะนำน้องๆ ประกาศศักดาพาทีมครองความเป็นเบอร์ 1 ในอาเซียนให้ได้อีกครั้ง
“จัน” จันทร์เพ็ง นนทะสิน
การทำงานเป็นทีมถือเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของกีฬาจักรยานประเภทถนน ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล ใช้เวลาแข่งขันกันหลายชั่วโมง นักปั่นทุกคนจะต้องใช้พละกำลังมหาศาล และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ จันทร์เพ็ง นนทะสิน ตำนานนักปั่นสาวไทยยังมีชื่ออยู่ในทีมชุดซีเกมส์ 2023
ด้วยประสบการณ์ที่ไม่เป็นสองรองใคร ผ่านร้อนผ่านหนาวในการแข่งขันระดับสูงมาเป็นเวลากว่า 20 ปี แต่ยังคงยืนระยะประสบความสำเร็จมาตลอด ทั้งการคว้าเหรียญทองซีเกมส์และศึกชิงแชมป์เอเชีย รวมถึงเวทีโอลิมปิกเกมส์ก็ผ่านมาแล้ว ขณะเดียวกันแม้ว่าจะอายุ 38 ปีแล้ว แต่ความแข็งแกร่งและความทนทานของกล้ามเนื้อแทบไม่ได้ถดถอยลงไป ด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ทันสมัยประกอบกับการดูแลสภาพร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี ทำให้เธอยังเป็นผู้นำของทีมชุดนี้
นอกจากนี้ด้วยศักยภาพของผู้เล่นในทีมที่สามารถทดแทนกันได้ทุกคน ถือเป็นจุดแข็งของทีมปั่นสาวไทยชุดนี้ ทำให้พวกเธอมีภาษีดีที่สุดสำหรับการลุ้นแชมป์ประเภทโรดเรซทีมหญิงในซีเกมส์หนนี้
“โน๊ต” ภัทรพงษ์ ยุพดี
หวนกลับคืนสู่ทีมชาติไทยอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้เจ้าของฉายา “โน๊ตตีนตะขอ” หลุดโผออกจากทีมชุดคว้าแชมป์คิงส์คัพครั้งล่าสุด
ความผิดหวังในครั้งนั้น ทำให้สุดยอดตัวชงวัย 37 ปี กลับมาคัดตัวด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม โดยหวังจะมีชื่อไปลุยซีเกมส์อีกครั้ง ก่อนที่สุดท้ายเจ้าตัวจะทำได้สำเร็จ ผ่านการตัดตัวมีชื่อเป็น 12 คนสุดท้าย พร้อมกับรับบทพี่ใหญ่ของทีมตะกร้อชายเป็นครั้งแรกแทนที่ขอพรชัย เค้าแก้ว ที่วางมือจากซีเกมส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลงานของภัทรพงษ์ ยุพดี ผ่านซีเกมส์มาแล้ว 7 สมัย ตั้งแต่ปี 2009 ที่ สปป.ลาว จนถึงซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม คว้าไปแล้ว 13 เหรียญทองด้วยกัน ขณะที่ซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา เป้าหมายของเขายังคงเหมือนเดิมนั่นก็คือเหรียญทองให้ได้เท่านั้น
TAG ที่เกี่ยวข้อง