stadium

"พลอย ขอนแก่น" นักสอยคิวหญิงไทยที่กำลังสร้างชื่อในเวทีระดับโลก

2 มีนาคม 2566

ถ้าพูดถึงกีฬาสนุกเกอร์หากนับเฉพาะในรอบ 2-3 ปีมานี้ ผลงานของนักสอยคิวหญิงไทยกำลังสร้างชื่ออยู่ในเวทีระดับโลกกันเป็นประจำ​ นอกจาก มิ้งค์ สระบุรี ที่ก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์โลกและมือ 1 ของโลกในรุ่นทั่วไปแล้ว ในรุ่นเล็กเราก็ยังมีแชมป์โลกและมือ 1 ของโลกอยู่อีกคน​ ชื่อของเธอก็คือ พลอยชมพู เหล่าเกียรติพงษ์ นักสอยสาววัย 20 ปี​ เจ้าของฉายา “พลอย ขอนแก่น”

 

นับตั้งแต่ปี 2019 เธอคว้าแชมป์โลกสนุกเกอร์หญิง​ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ไปแล้ว 2 สมัย และยังคว้าแชมป์ในรุ่นดังกล่าวรวมทั้งหมด 7 รายการ ล่าสุดนั่งบัลลังก์มือ 1 ของโลกในรุ่นเยาวชนเรียบร้อย 

 

ความร้อนแรงของเธอยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเปิดปี 2023 ได้เพียงแค่ 2 เดือน เธอได้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยม คว้าแชมป์ไปแล้วถึง 5 รายการ หนึ่งในนั้นคือการคว้าแชมป์ในรุ่นทั่วไปได้เป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้เธอขยับขึ้นมารั้งมือ 7 ของโลกในรุ่นทั่วไป 

 

เส้นทางของเธอเป็นอย่างไร แล้วอะไรเป็นแรงผลักดัน วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับนักสอยคิวที่น่าจับตามองคนนี้กัน

 

 

 

แรงหนุนจากครอบครัว พาไปลาออกเพื่อทำความฝัน

 

ตั้งแต่จำความได้ พลอยชมพู เด็กสาวจากขอนแก่นก็บอกว่า เธอเห็นโต๊ะสนุกเกอร์อยู่ในบ้านทุกวัน นั่นก็เพราะพ่อกับแม่ของเธอประกอบธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับสนุกเกอร์มาตั้งแต่เธอยังไม่เกิด แถมครอบครัวพี่สาวแม่ยังเป็นเจ้าของภาษีเจริญสปอร์ตซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับสนุกเกอร์เช่นกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเริ่มสนใจอยากลองจับไม้คิว

 

“ทุกๆ วันหนูจะเห็นคนมาเล่นสนุกเกอร์ที่บ้านกันเยอะแยะ มีอยู่วันหนึ่งหนูเลิกเรียนกลับมาถึงบ้านแล้วเห็นโต๊ะสุน๊กว่างอยู่ ก็เลยลองเล่นดู ตอนนั้นหนูอายุ 12 ขวบ พอหัดเล่นไปสักพัก พ่อก็ถามว่าชอบใช่ไหม ถ้าชอบเขาจะสนับสนุนเต็มที่”

 

“หนูก็ตอบว่าชอบ” 

 

“จริงๆ หนูเคยลองเล่นมาแล้วหลายกีฬานะ แต่ที่ชอบสนุกเกอร์เพราะว่ามันไม่ร้อนแล้วก็ไม่เหนื่อย คือเป็นชนิดกีฬาเดียวที่ไม่ต้องคุยกับใคร ซึ่งตรงกับตัวตนของหนู แถมยังได้ตากแอร์เย็นๆ ประกอบกับช่วงนั้นเหมือนหนูได้ดูยูทูบของพี่ใบพัด (ศรีราชา) เห็นพี่เขาเล่นสนุกเกอร์แล้วรู้สึกเท่มาก ยิ่งทำให้หนูชอบ​อยากเป็นเหมือนเขา”

 

หลังจากนั้นครอบครัวของ พลอยชมพู ทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณป้าได้ปรึกษาหารือร่วมกันก่อนตัดสินใจพาเธอไปลาออกจากโรงเรียนและผลักดันให้เธอได้มีเวลาฝึกฝนสนุกเกอร์อย่างเต็มที่เพื่อเป้าหมายในวันข้างหน้า

 

“ตอนอายุ 13​ที่บ้านพาหนูไปลาออกจากโรงเรียน คือตอนแรกก็มีไปคุยกับทางโรงเรียนก่อนเพื่อขอแบ่งเวลาให้หนูมาฝึกซ้อมสนุกเกอร์มากขึ้น แต่เหมือนทางโรงเรียนไม่ยอมครอบครัวหนูก็เลยตัดสินใจให้ลาออก แล้วไปสมัครเรียน กสน. แทน”

 

“ตอนนั้นหนูเฉยๆ เพราะโดยส่วนตัวแล้วหนูเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยมีเพื่อนอยู่แล้ว คือเรามีโลกส่วนตัวสูง รู้สึกว่าชอบกีฬา ชอบอยู่กับตัวเองตั้งเด็ก อยู่กับตัวเองก็มีความสุขแล้ว”

 

“ที่บ้านไม่ซีเรียสเรื่องการเรียน​ ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งที่อยากจะทำเป็นเรื่องใหญ่ อยากให้ทำตามที่ตัวเองชอบ หนูเป็นลูกคนกลางมีพี่น้องสามคน มีแค่พี่คนโตที่เป็นพยาบาล ส่วนน้องคนเล็กตอนนี้เป็นนักเทนนิสอายุ 15​ อยากเป็นนักเทนนิสอาชีพครอบครัวก็ผลักดันเต็มที่เหมือนกันกับหนู”

 

 

 

เก็บกระเป๋าเข้าเมืองหลวง พิชิตฝันก้าวแรก

 

“หลังจากลาออกมาหนูก็ใช้เวลาฝึกซ้อมทั้งวันทุกวัน โดยมีครู “แกะ ขอนแก่น” เป็นอาจารสอนสนุกเกอร์คนแรก พออายุ 14-15 มีคนแนะนำให้ไปซ้อมที่กรุงเทพดีกว่าจะพัฒนาได้เร็ว คุณป้าเลยตัดสินใจให้หนูก็เก็บกระเป๋าเข้ามาอยู่กรุงเทพ มากับพี่เลี้ยงเพียงแค่ 2 คนมาคอยดูแล”

 

“ตอนนั้นหนูแค่อยากติดทีมชาติ” 

 

“เข้ามากรุงเทพก็มาซ้อมกับอาจารย์ต่าย พิจิตร, อาจารย์เปา โพธิ์สามต้น”

 

“เข้ามากรุงเทพแรกๆ เหนื่อยมากค่ะ กว่าจะฝ่าฟันอะไรหลายๆ อย่าง กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หนูต้องตื่นไปซ้อม 10 โมงเลิก 3 ทุ่ม ก้มๆเงยๆ แทงลูกซ้ำๆ ทุกวันๆ เช้าซ้อมเย็นกลับมาถึงนอนเลยเป็นแบบนี้อยู่ 2 ปี ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป​ บางครั้งก็อ่อนล้า ท้อ หรือเหงาบ้าง เพราะหนูเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพคนเดียวไม่มีเพื่อน แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องอดทน ตั้งใจ เพราะหนูตอบตัวเองได้แล้วว่าเป้าหมายเราคืออะไร ตอนนั้นมีแพสชั่นอยากติดทีมชาติ อยากสร้างชื่อให้ประเทศและชาวขอนแก่น วางแผนไปทีละขั้น​ ตอนนี้เราทำได้เท่านี้​ ถามว่าอยากเป็นแชมป์โลกไหม ก็อยากเหมือนกัน แต่คิดว่ามันไกลเกินสำหรับเราในตอนนั้น”

 

หลังจากฝึกฝนวิชากับอาจารย์ต่ายพิจิตร ปรจารย์ผู้ปลุกปั้นนักสนุกเกอร์ทีมชาติไทย ชื่อของ “พลอย ขอนแก่น” ก็เริ่มเป็นที่รู้จักของคนในวงการมากขึ้นเรื่อยๆ 

 

“ที่รู้สึกว่าคนเริ่มรู้จักหนูมากขึ้นคือในกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่จังหวัดสุพรรณบุรี ปีนั้นหนูเป็นตัวแทนขอนแก่นช่วยทีมคว้าเหรียญทองแดงประเภททีม แต่ไฮไลท์คือในรอบรองชนะเลิศ ขอนแก่นเจอสระบุรีที่นำทีมโดยพี่มิ้งค์ สระบุรี ซึ่งตอนนั้นน่าจะเพิ่งได้แชมป์เยาวชนโลกมาหมาดๆ กำลังดังเลย ส่วนพวกหนูคือโนเนมมากๆ แต่สร้างเสียงฮือฮาด้วยการทำคะแนนขึ้นนำไปก่อน 3-0 แต่สุดท้ายก็โดนแซงแพ้ไป 3-4”

 

“ตอนนั้นก็ยังไม่ติดทีมชาตินะ มาติดตอนหลังหนูไปคัดตัวกับสมาคมฯ แล้วมีชื่อติดเป็น 1 ใน 3 คนเป็นตัวแทนไปแข่งสนุกเกอร์หญิงชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศเมียนมา​ พี่ใบพัดได้รองแชมป์ ส่วนหนูเข้ารอบ 8 คนแต่ก็มีผลงานคือชนะมือ 1 ของอินเดียได้”

 

“ตอนรู้ว่าติดทีมชาติ หนูรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้เป็นตัวแทนไปแข่ง​ คือมันเป็นมาจากการที่หนูซ้อมหนักมาตลอด​ ครอบครัวดีใจมากที่หนูทำได้​ เพราะเขาก็เหนื่อยในมุมของเขาที่คอยซัพพอร์ท ส่วนหนูก็เหนื่อยในแบบนักกีฬา”

 

 

 

 

บุกดินแดนสนุกเกอร์ ก้าวสำคัญชีวิต

 

หลังจากนั้น พลอย ขอนแก่น ก็กลายเป็นขาประจำในนามทีมชาติ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง เมื่อเป้าหมายแรกบรรลุก็ถึงเวลาก้าวไปอีกขั้น หนนี้เธอเก็บกระเป๋าขึ้นเครื่องบินเดินทางข้ามโลกไปยังประเทศอังกฤษถิ่นกำเนิดของกีฬาชนิดนี้ และยังเป็นดินแดนที่มีรายการแข่งขันมากที่สุด เป็นศูนย์รวมของคนที่มีความฝันอยากเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ

 

“ตอนอายุ 16 คุณป้าหนูมองว่า ไหนๆ ก็จะเต็มที่กับกีฬานี้แล้ว ก็ต้องไปให้สุด ที่อังกฤษมีแข่งอาชีพใช่ไหม หนูเก็บกระเป๋าไปกับป้าสองคน​ ไปซ้อมกินอยู่ที่นั่นเลย คุณป้าอยู่ดูแลหนูที่นี่ประมาณสองปีหลังจากนั้นก็มี โค้ชหน่อย ปากน้ำ มาดูแลสลับกับอยู่คนเดียวบ้าง”

 

“มาถึงอังกฤษเหมือนชีวิตหนูได้เปิดโลกเลย มีความเป็นระบบระเบียบทำให้ได้เห็นว่าที่นี่เขาซ้อมกันแบบไหน แตกต่างจากบ้านเรายังไง หนูได้ซ้อมกับโปรผู้ชาย ได้เห็นนักกีฬาจริงๆ พี่เอฟ นครนายก, พี่หมู ปากน้ำ ก็คอยให้แนะนำ ที่นี่หนูมี ไมค์ ดัน อดีตโปรเพลเยอร์คอยทำหน้าโค้ชให้​ ช่วงแรกแรกก็เจออุปสรรคเรื่องภาษทำให้คุยกันเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ค่อยๆ ปรับตัว”

 

 

แชมป์โลกบนเมืองผู้ดี

 

สิ่งที่จะทำให้เห็นผลลัพธ์การฝึกซ้อมได้ดีที่สุดก็คือต้องลงแข่งสนามจริง ตลอดสองปีแรกที่ พลอย ขอนแก่น ลงแข่งขันที่อังกฤษ เธอไม่เคยคว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศรายการใดได้เลย แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง ในปี 2019 รายการชิงแชมป์โลก เธอสมัครลงแข่งขันในรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ฝ่าฟันไปทีรอบโดยไม่ได้คาดหวังอะไรนอกจากทำให้ดีที่สุดเท่านั้น

 

“หนูเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ปีนั้นต้องเจอกับพี่มิ้งค์ สระบุรี ซึ่งเป็นแชมป์เก่า ตอนนั้นไม่มีความคิดเลยว่าจะเอาชนะพี่มิ้งค์ได้ พี่มิ้งค์ดังมาก ผลงานก็ดี แถมผลงานหนูที่ผ่านมาทำได้แค่เข้ารอบลึกๆ ไม่เคยได้แชมป์”

 

“พอรู้ว่าต้องแข่งกับพี่มิ้งค์ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แล้วคือรายการนี้มันแข่งวันเดียวจบ​ แข่งมาทั้งวันรู้สึกเหนื่อยล้ามาก รู้สึกแค่ว่ารีบๆ แพ้แล้วก็กลับไปพักดีกว่า วันนั้นแข่งทั้งวันตั้งแต่ 10 โมงจบตี 2 แต่พลิกล็อกชนะมาได้​ 3-1 เฟรม วันนั้นหนูแทงดีด้วย แทงไม้เดียวแต้มขาด หนูได้เฟรมแรกทำให้เริ่มมั่นใจ แต่ก็ยังไม่สนใจผลแพ้ชนะแค่อยากกลับไปนอน เฟรมสองโดนไล่มาตีเสมอ ในใจยิงไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เฟรมสามเฟรมสี่ก็เล่นไปตามเกมแทงตามลูกที่วางบนโต๊ะ มีตื่นเต้นบ้างเพราะนี่คือการเข้าชิงฯ ครั้งแรก”

 

“พอได้แชมป์มาความคิดหนูเปลี่ยนใหม่ เราก็ทำได้นะ หลังจากนั้นก็กลับมาคุยกับป้าว่าจะวางแผนกันยังไงต่อ หนูอยากเล่นจริงจัง ไม่อยากให้เสียเวลาไปเฉยๆ หนูเริ่มมั่นใจ รู้สึกว่ารุ่นนี้เราชนะได้​ รุ่นใหญ่ก็น่าจะพอมีหวัง​ แต่ก็ไปทีละขั้น”​

 

 

นี่คือแชมป์แรกและแชมป์เดียวตลอด 2 ปีที่เดินทางมาพิสูจน์ตัวเองครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ หลังจากนั้นเดินทางประเทศก่อนหน้าไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดไปทั่วโลกเพียงแค่ 2  สัปดาห์ ซึ่งเป็นเหตุให้ไม่มีการแข่งขันเป็นเวลานานกว่า 2 ปี ซึ่งเธอทำได้แค่กลับไปฝึกฝนเองเพียงลำพังที่ขอนแก่นเหมือนครั้งแรกเริ่มที่ได้จับไม้คิว

 

แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มลดลง แมตช์แข่งขันรายการต่างๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง เธอตีตั๋วกลับไปอังกฤษอีกครั้งในปี 2022 คราวนี้ก้าวไปได้ไกลกว่าเดิม ในปีนั้นเธอคว้าแชมป์ได้ 5 รายการติดต่อกัน หนึ่งในนั้นคือการป้องกันแชมป์โลก รุ่นอายุ 21 ปีเอาไว้ได้พร้อมกับขึ้นมือ 1 ของโลก

 

“ก่อนมาที่อังกฤษตั้งแต่ครั้งแรกก็เจอคำดูถูกมาเยอะ​ จะไปทำไม ยังไม่เก่งเลย ไปแล้วได้อะไร ไปเป็นแฟชั่นหรือเปล่า ไปเท่ๆ หรือเปล่า หนูไม่เข้าใจเหมือนกันนะทำไมคนเราต้องคิดแบบนั้น ทำไมไม่คิดในมุมที่ดีบ้าง แล้วทำไมต้องรอให้เก่งก่อน ไปฝึกให้ตัวเองให้เก่งไม่ได้หรอ แต่ก็ไม่สนใจ ป้าหนูก็มีเป้าหมายชัดเจนหลานฉันไปให้สุด ​ไม่สนเสียงนกเสียงกา เราก็ไม่โกรธเขานะ เขาอาจจะหวังดีกับเราก็้ได้”

 

 

 

“ป้าอี๊ด” เบื้องหลังความสำเร็จที่พร้อมเปย์เพื่อความฝันของหลาน

 

หนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จเกิดของ พลอย ขอนแก่น จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดแรงสนับสนุนจาก ป้าอี๊ด พี่สาวแท้ๆ ของแม่ ผู้ที่ซัพพอร์ทเงินทุกบาททุกสตางค์และอยู่เคียงข้างในวันที่ทั้งสุขและเศร้า

 

“เส้นทางหนูไม่ค่อยเจออุปสรรค เป็นเพราะที่คุณป้าอี้ดกับพ่อแม่หนูช่วยกันวางแผนได้ดี เข้ามากรุงเทพถึงเขาจะไม่สามารถมาดูแลเราได้ก็ส่งพี่เลี้ยงมาช่วยดูแล​มา มาอังกฤษป้าอี้ดก็บินมากับหนูออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้”

 

 

 

 

ทุกความสำเร็จของมอบให้ “แม่”

 

“แม่หนูป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หมอบอกว่าจะอยู่ได้ไม่ถึงปี ตอนนี้ก็ผ่านมา 6 เดือนแล้ว” 

 

“หนูอยากขอบคุณทั้งครอบครัวที่น่ารักที่คอยซัพพอร์ทกันตลอด ขอบคุณคุณป้าและภาษีเจริญสปอร์ตที่คอยดูแล วิทยาลับบัณฑิตเอเซียที่ให้การสนับสนุนเรื่องการเรียน โค้ชทุกคนที่คอยสอน ถ้าไม่มีทุกคนก็ไม่สามารถถึงวันนี้ได้”

 

“หนูอยากจะสร้างผลงานเรื่อยๆ อยากเป็นกำลังใจให้คุณแม่ที่ป่วยอยู่ด้วย แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเป็นมานานแล้ว ถึงจะอยู่ห่างไกลไม่ได้คอยดูและ แต่หนูก็มีคุยบ้างส่งกำลังใจไปให้เสมอ  หนูพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อทำให้ท่านภูมิใจ นี่เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นส่วนตัวที่หนูอยากทำเพื่อแม่ อยากให้ถ้วยรางวัลของหนูเป็นยาเป็นกำลังใจ”

 

 

ทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางของ พลอย ขอนแก่น ซึ่งในสัปดาห์นี้เธอมีโปรแกรมลงแข่งขันสนุกเกอร์หญิงชิงแชมป์โลก 2023 ในรุ่นทั่วไปเป็นครั้งแรก แข่งขันกันระหว่างวันที่ 1-4 มีนาคมนี้ ที่ไฮ เอนด์ สนุกเกอร์คลับ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

 

จากนั้นหลังผ่านเดือนพฤษภาคมไปแล้วเธอจะมีอายุครบ 21 ปีและไม่สามารถลงแข่งขันในรุ่นเยาวชนได้อีกแล้ว​ มิ้งค์ สระบุรี แชมป์โลกและมือ 1 ของโลกคนปัจจุบัน​ หรือ เรียน อีแวน แชมป์โลก 12 สมัย ผู้ครองเบอร์ 1 ของสนุกเกอร์หญิงตลอด 2 ทศวรรษ รวมไปถึง อึ้ง ออนยี, รีเบค เคนน่า ชื่อเหล่านี้เป็นบทพิสูจน์ที่รอรับมือเธออยู่ในวันข้างหน้า


stadium

author

ปวีน เทพพวงทอง

StadiumTH Content Creator / เชียร์หงส์แดง รักการเดินป่า เสพติดหมูกระทะ

La Vie en Rose