21 กุมภาพันธ์ 2566
เผลอแปปเดียวครบรอบ 1 ปีแล้วสำหรับการคว้าแชมป์โลกสนุกเกอร์อาชีพหญิงคนแรกของ “มิ้งค์ สระบุรี” ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย ความสำเร็จดังกล่าวได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางอันแสนวิเศษที่พลิกชีวิตนักสอยคิวไปอีกขั้น เธอรับเกียรติต่างๆ มากมายจาก เวิลด์ สนุกเกอร์ ทัวร์ (WST) ทั้งการได้สิทธิ์ลงแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพร่วมกับนักสนุกเกอร์ชาย หรือการได้ลงแข่งขันรายการพิเศษต่างๆ ในฐานะแชมป์โลกของฝั่งผู้หญิง
วันนี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับเธออีกครั้ง อยากรู้ว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมากับประสบการณ์อันล้ำค่าของเธอนั้นเป็นเช่นไร และมันเป็นความรู้สึกที่น่าเหลือเชื่อขนาดไหน ติดตามไปพร้อมกันที่นี่
ทวนความจำวันประวัติศาสตร์
เราเริ่มต้นบทสนทนาแรกด้วยการทบทวนความทรงจำถึงวันที่เธอคว้าถ้วยแชมป์โลกมาชูเหนือศีรษะ เธอตอบคำถามอย่างฉะฉานด้วยรอยยิ้มสุดมุมปากเล่าให้เราฟังไปทีละฉากราวกับเรื่องมันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้
“ก่อนแข่งหนูตั้งเป้าหมายคือต้องคว้าแชมป์เอาไว้ก่อน” ผมยิ้มตาม ส่วนเธอเล่าต่อว่า “ที่ตั้งเป้าไว้สูงเพราะตอนแข่งชิงแชมป์โลกปี 2019 จัดขึ้นที่โต๊ะของ ไฮ-เอนด์ (ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ)”
“หนูได้เข้าชิงฯ ก่อนได้รองแชมป์ ทั้งๆ ที่ปีนั้นหนูไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงเลย เพราะมีนักกีฬาเก่งๆ ลงแข่งกันเยอะ แต่อาจจะเป็นเพราะหนูซ้อมอยู่ที่ไฮ-เอนด์ อยู่แล้ว จึงคุ้นเคยกับสถานที่เลยแทงแบบไม่กดดัน ก็พยายามทำให้เต็มที่ ไปให้ไกลที่สุดแค่นั้น”
“ก็เลยทำให้ปีที่แล้วหนูลองตั้งเป้าให้สูงขึ้น ซึ่งจริงๆ สายหนูถือว่าโหดมาก รอบ 16 คน เจอ มาเรีย คาตาลาโน่ อดีตมือ 1 ของโลกซึ่งเป็นญาติ รอนนี่ โอซัลลิแวน เขาเป็นมือ 5 ของโลก คนนี้แทงดีมาก แต่เหมือนไม่ได้ซ้อมตลอด”
“จากนั้นรอบ 8 คนเข้ามาเจอกับ อึ้ง ออนยี มือ 2 ของโลก หนูนำเขาก่อน 3-0 เฟรม แต่ว่าโดนเขาไล่ตีเสมอมาเป็น 3-3 เฟรม ซึ่งที่ผ่านมาเราผลัดกันแพ้ชนะกันมาตลอด แต่ด้วยสไตล์การเล่นหนูมองว่าตัวเองเป็นรองเขาอยู่นิดหน่อย รวมถึงประสบการณ์หนูก็น้อยกว่า แต่สุดท้ายหนูเป็นฝ่ายพลิกชนะ ทำให้ความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ”
“รอบรองชนะเลิศเจอกับ รีเบคก้า เคนนา คนนี้ก็หนักเป็นมือ 4 ของโลก ส่วนรอบชิงชนะเลิศเจอกับ เวนดี้ แจนส์ ที่ล้ม เรียนน์ อีแวนส์ มือ 1 ของโลกมาได้ ถ้าเรื่องอันดับโลกเขาจะไม่ค่อยดี ถ้าเป็นเรื่องฝีมือติด 1 ใน 3 ของโลกได้เลย เพราะส่วนใหญ่เขาแข่งแต่รายการสมัครเล่นจึงไม่มีคะแนนสะสม เขาครองตำแหน่งมาเยอะมากๆ”
แม้ว่าจะต้องเจอกับมือระดับท็อป 5 ของโลกมาตั้งแต่รอบสอง แต่การค่อยๆ ล้มมือวางเหล่านี้ไปทีละคนๆ ได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เธอก่อนลงแข่งในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง
“ชัยชนะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้หนูในระดับนึง แต่ก็ไม่สุด เพราะรอบชิงฯ เวนดี้ แจนส์ แทงได้ดีมากๆ แต่หนูใช้วิธีการเล่นเข้าสู้จนชนะมาได้”
มิ้งค์ คว้าถ้วยแชมป์โลกมาครองด้วยวัยเพียง 22 ปี เท่านั้น นับเป็นความสำเร็จที่มาเร็วเกินกว่าที่เจ้าตัวคาดคิดไว้มาก อย่างไรก็ตามไม่ได้หลงระเริงไปกับความสำเร็จสูงสุด กลับเอามาเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเองเพื่อที่จะรักษามาตรฐานและความยอดเยี่ยมไปตลอดอีกหลายปีหลังจากนี้
ได้เรียนรู้จากการแข่งกับผู้ชาย
การคว้าแชมป์โลกของ มิ้งค์ ทำให้เธอได้สิทธิ์ลงแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพร่วมปะมือกับนักสอยคิวชายเป็นเวลา 2 ฤดูกาลด้วยกัน ทำให้เธอเป็น 1 ใน 3 นักสนุกเกอร์หญิงที่มีโอกาสได้ปะมือบนโต๊ะสนุ๊กกับผู้ชาย
แต่ช่องว่างระหว่างฝีมือระหว่างนักสนุกเกอร์ชายและหญิงนั้นมีค่อนข้างกว้าง ทำให้เธอต้องฝึกซ้อมให้หนักขึ้นกว่าเดิมเพื่อยกระดับตัวเองขึ้นมาอีกขั้น หากไม่อยากเป็นเพียงไม้ประดับที่ให้นักสอยคิวชายเด็ดเล่นเป็นทางผ่านในการแข่งขัน
“สิ่งที่หนูได้เลยก็คือวิธีคิดใหม่ๆ ช่วงที่ผ่านมาหนูพยายามพัฒนาการเข้าเบรกมาเป็นระยะๆ แต่หลังจากได้มาแข่งกับผู้ชาย ทำให้มุมมองหนูในการเข้าเบรกของหนูกว้างขึ้น มองวิธีการแทง การวางลูกขาวได้หลากหลายมากขึ้น วิธีการคิดก็ง่ายกว่าเดิมด้วย ทำให้แทงได้ง่ายกว่า”
“จริงๆ จุดแข็งของหนูคือการเล่นได้หลายสไตล์ ไม่ได้บู๊เลย อย่างที่บอกช่วงนี้หนูพยายามพัฒนาการเข้าเบรกให้หนักมากขึ้น เพื่อจะได้แทงเหมือนผู้ชาย และถ้าวันไหนหนูแทงดีจะแทงให้มันง่ายที่สุด พยายามชนะคู่ต่อสู้ให้ขาดที่สุด แต่ถ้าวันไหนรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีก็จะเพิ่มวิธีการเล่นเข้ามาช่วย”
การจับคู่กับ นีล โรเบิร์ตสัน คว้าแชมป์โลกคู่ผสม
นอกจากจะได้ทัวร์การ์ดลงแข่งร่วมกับผู้ชายแล้ว เธอยังได้เป็นตัวแทนฝ่ายหญิงลงแข่งขันรายการต่างๆ ร่วมกับผู้ชาย หนึ่งในนั้นคือรายการคู่ผสมชิงแชมป์โลก รายการที่ได้นำนักสนุกเกอร์ 1-4 ของโลกของผู้ชายและหญิงมาจับคู่เล่นร่วมกัน
มิ้งค์ จับได้คู่ นีล โรเบิร์ตสัน อดีตแชมป์โลกปี 2010 มีโอกาสสุดแสนวิเศษลงดวลไม้คิวกับทั้ง รอนนี่ โอซัลลิแวน, จัดด์ ทรัมป์ และมาร์ค เซลบี้ ไอดอลของเธอ และสุดท้าย มิ้งค์ ก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งที่สองของรายการที่จัดโดย เวิลด์ สนุกเกอร์ ทัวร์
“หนูไม่เคยแทงกับนีลมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรก”
“ที่ผ่านก็แค่เคยเจอทักทายกัน ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว วันแรกก็เกร็งๆ เพราะไม่เคยแทงด้วยกัน รวมไปถึงภาษาอังกฤษของหนูก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะพูดคุยสื่อสารกันได้แบบรู้เรื่อง ทำให้วันแรกเราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ คุยกันแค่ว่าเราอยากวางเกมกันแบบไหน ซึ่งผลการแทงวันแรกก็ไม่ค่อยดี แต่พอวันที่สองเขาเดินมาพูดกับหนูว่าไม่เป็นไรนะ มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เล่นเพื่อความสนุก ไม่ต้องคิดมาก ทำให้หนูผ่อนคลายขึ้น”
“จริงหนูไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ลงแข่งกับคนเก่งๆ แบบใกล้ชิดขนาดนี้ มันเหมือนกับฝันมากๆ รอบชิงชนะเลิศได้ดวลกับมาร์ค เซลบี้ นักสนุกเกอร์ที่หนูชอบอีก ได้จับมือได้พูดคุยมันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมาก ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสดีๆ แบบนี้ ตอนแข่งกับเขารอบชิงหนูพยายามไม่มองหน้าเซลบี้เลย เพราะกลัวจะเขินออกมา”
การใช้ชีวิตในต่างแดนเพียงลำพัง
“ที่ประเทศอังกฤษสิ่งแวดล้อมไม่เหมือนบ้านเรา อยู่ที่นี่หนูไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ยังดีที่มีพี่หมูพี่เอฟคอยให้คำแนะนำ ส่วนกิจวัตรประจำวันก็หมดไปกับการฝึกซ้อม อาหารจะฝากท้องไว้กับร้านอาหารไทย มีทำเองบ้างเมนูง่ายๆ ข้าวผัด ไข่เจียว วันว่างๆ ส่วนใหญ่ก็หมดไปกับการนอนผักพ่อนดูหนังฟังเพลง บางครั้งมันก็จะมีความเครียดจากการซ้อม มีเหงาบ้างบางเวลา ก็จะใช้วิธีเข้าฟิตเนส หรือหาอะไรดู เล่นเกมบ้างสลับกันไปเพื่อผ่อนคลายตัวเอง
เป้าหมายหลังจากนี้
“ป้องกันแชมป์โลกค่ะ” น้ำเสียงหนักแน่นออกจากปากของนักสอยคิวสาวคนเก่ง
“เป้าหมายหนูจริงๆ มีเยอะมาก อย่างตำแหน่งมือ 1 โลกก็เป็นเป้าหมายของหนู แต่ว่าก็มาเร็วกว่าที่คิด จริงๆ ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องทำให้ได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า แต่มันมาเร็วเกินคาด ในปีนี้คือการป้องกันแชมป์ก่อนค่ะ นอกจากนี้ก็ยังอยากทำเซ็นจูรี่เบรก (แทงไม้เดียว 100 คะแนน) ในการแข่งขันกับผู้ชายให้ได้ ถ้าถึงขั้นแม็กซิมั่ม มันขึ้นอยู่กับโอกาสในเกมนั้นด้วย แต่ส่วนใหญ่พอมีโอกาสที่สามารถทำได้ หนูก็จะนึกถึงชัยชนะก่อน เลยเลือกเปลี่ยนสีแทงไม่แทงแค่ดำอย่างเดียว”
“เบรกสูงสุดของหนูในตอนนี้อยู่ที่ 126 แต้ม ถ้าแข่งกับผู้ชายจะอยู่ 74 คะแนน ทำได้ตอนที่จับคู่กับ นีล โรเบิร์ตสัน เป้าหมายตอนนี้บรรลุไปเกินครึ่งแล้วหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับว่าหนูจะรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ขนาดไหนมากกว่า แล้วก็พัฒนาฝีมือขึ้นไปได้ระดับไหน แต่ก็จะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ”
และนี่คือเรื่องราวตลอดขวบปีที่ผ่านมากับการเดินทางอันยิ่งใหญ่ บทสรุปแล้ว มิ้งค์ กวาดแชมป์มาครองได้ทั้งหมด 5 รายการ พร้อมกับครองตำแหน่งมือ 1 ของโลกเป็นครั้งแรก ก้าวข้าม เรียนน์ อีแวนส์ ผู้ครองบัลลังก์สนุกเกอร์หญิงมาตลอดเกือบ 2 ทศวรรษลงได้ และถึงแม้ว่าเธอจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดได้แล้วในตอนนี้ แต่ยังคงมีความท้าทายอีกหลายอย่างที่รอเธออยู่บนเส้นทางนี้ และเราเชื่อว่าตราบใดที่เธอไม่หยุด ความสำเร็จก็จะหลั่งไหลเข้ามาหาเธออีกมากมายแน่นอน
TAG ที่เกี่ยวข้อง