ฮอกกี้ในร่ม, สอยคิวผ่านฟิตพร้อมลุ้นทองซีเกมส์

นักกีฬาฮอกกี้ในร่ม และนักกีฬาคิวสปอร์ต (สนุกเกอร์, บิลเลียด, พูล และ แคร่อมบอล) ชุดเตรียมเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ได้ทำการทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกายที่อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ตามแผนการเตรียมทีมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำชับให้นักกีฬาทีมชาติไทยทุกคน ต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่ายกาย จำนวนทั้งสิ้น 3 ครั้ง ก่อนเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และ ทัวร์นาเม้นท์ระดับนานาชาติ

นักกีฬาฮอกกี้ในร่มทีมชาติไทย ทั้งทีมชาย และ ทีมหญิง ได้เข้ารับการทดสอบร่างกาย เป็นครั้งที่ 2 จำนวน 30 คน แยกเป็นนักกีฬาชาย 15 คน และ นักกีฬาหญิงจำนวน 15 คน ร่วมทดสอบความแข็งแกร่งจำนวน 7 อุปกรณ์ ประกอบด้วย เหยียดร่างกาย, วัดมวลไขมันของร่างกาย, ความสมดุลของร่างกาย, ยืด-เหยียด กำลังขา, ความอ่อนตัวของกล้ามเนื้อบริเวณหลัง, การวัดกล้ามเนื้อมัดเล็กบริเวณแขน และ ปิดท้ายด้วยการปั่นจักรยาน ซึ่งทุกคนต่างมีความฟิตดีขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ

สำหรับนักกีฬาฮอกกี้ชุดนี้มีโปรแกรมเตรียมเดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศในแถบยุโรปช่วงเดือนมีนาคม เป็นเวลา 2 สัปดาห์ตามแผนของสมาคมกีฬาฮอกกี้แห่งประเทศไทยที่ได้วางเอาไว้ เมื่อเดินทางกลับมาแล้วในเดือนเม.ย.จะทำการตรวจร่างกายครั้งสุดท้าย ก่อนเตรียมตัวเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา โดยนายกองเอกชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ นายกสมาคมฯ วางเป้าหมายเอาไว้ต้องเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศทั้งประเภทชาย และ ประเภทหญิง

ด้านนักกีฬาสอยคิวทีมชาติไทย จำนวน 17 คน นำโดย “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา ภู่โอบอ้อม เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่แล้วที่ประเทศเวียดนาม, ประพฤติ ชัยธนสกุล “รมย์ สุรินทร์” ภายใต้การควบคุมของโค้ชทีมชาติไทย วีระพงษ์ บริสุทธิ์สุขกมล, อำนวยพร โชติพงษ์ และ ภัคคพงค์ ภูธราสิวะจุมพล ผ่านการทดสอบครบทั้ง 7 อุปกรณ์เช่นเดียวกัน ภาพรวมเมื่อเปรียบเทียบกับครั้งที่แล้ว ทุกคนดีขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน

นักกีฬาสนุกเกอร์ชุดนี้ ได้ทำการเก็บตัวร่วมกันมานานตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2565 ที่ สโมสรทีบีซี.สนุกเกอร์เซ็นเตอร์ ในซอยรามคำแหง 89/1 วันละ 8 ชั่วโมง สลับกับการลงแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการพัฒนาเป็นไปตามแผนที่ “บิ๊กฮง” นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยมีความเชื่อมั่นส่วนช่วง 3 เดือนสุดท้ายจะมอบหมายให้โค้ชเน้นการฝึกซ้อมอย่างหนัก เชื่อว่าการที่ได้ตั้งเป้าชิงชัยทั้งหมด 10 เหรียญทอง จาก 4 อีเวนต์ สมาคมหวังว่าจะคว้าได้อย่างน้อย 2 เหรียญทองขึ้นไป โดยการทดสอบสมรรถภาพครั้งสุดท้าย จะมีขึ้นในเดือน เมษายน 2566 ก่อนเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม 2566