stadium

“ลี เสี่ยว เร่ย” : โอลิมปิกเกมส์ที่น่าจดจำและอยากลืม

12 มีนาคม 2563

เส้นทางชีวิตของนักแบดมินตันระดับโลกอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรือโลกสวยอย่างที่ใครหลายๆคนคิด ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อม การทำร่างกาย การเดินทาง ความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน แต่เหนือส่ิงอื่นใดอุปสรรคสำคัญก็คืออาการบาดเจ็บที่ตามหลอกหลอน จนลามไปถึงการจบเส้นทางชีวิตนักกีฬา ซึ่งล่าสุดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งแล้วกับ นางพญา “ลีเสี่ยวเร่ย” อดีตเหรียญทองโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน อดีตมือ 1 ของโลกยาวนาน 124 สัปดาห์จากประเทศจีน 

 

 

แจ้งเกิด ลี เสี่ยว เร่ย

 

ลีเสี่ยวเร่ย วัย 28 ปี ความภาคภูมิใจของชาวเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน นักแบดมินตันรูปร่างดีพิมพ์นิยมจากแดนมังกร ครองสถิติชนะ 330 นัด แพ้เพียง 79 นัด คว้าแชมป์รวม 27 แชมป์ เธอเริ่มเส้นทางด้วยการคว้าแชมป์รายการเยาวชนเอเซียในปี 2008 แต่พลาดอดลุ้นแชมป์เยาวชนในปีเดียวกันโดยแพ้ให้กับซายากะ ซาโตะ ซึ่งแชมป์ในปีนั้นเป็นของ ไซน่า เนวาล. จากนั้นเธอขึ้นมาเล่นอาชีพอย่างเต็มตัวในปีถัดมา ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่ ซายากะ ซาโตะ ไต่จื่ออิง หวังซิน หวังชื่อเสียน ซังจีฮุน ขึ้นมาเล่นระดับซีเนียร์พร้อมกัน 

 

โดยผลงานเริ่มเฉิดฉายโดยเธอเข้ารอบรองชนะเลิศรายการไชน่าโอเพ่นด้วยวัยเพียง 18 ปีเท่านั้น ซึ่งในทัวร์นั้นเธอชนะรุ่นพี่เจ้าของเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ หวังเฉิน และแชมป์โลก หลูหลาน ทำให้ทุกสายตาเริ่มจับจ้อง จากนั้นเธอกวาดแชมป์หลากหลายทัวร์ เริ่มจากปี 2010 เธอคว้าแชมป์มาเก๊าโอเพ่น (ระดับกรังปรีซ์โกลล์) แชมป์อาชีพแชมป์แรก เธอขึ้นแท่นคว้าเหรียญทองรายการชิงแชมป์เอเชีย ในปี 2010 และ 2012 จากนั้นแชมป์รายการใหญ่ๆ ทัวร์ของบีดับเบิลยูเอฟ ในปี 2012  ก็ตามมา เธอคว้าแชมป์แบดมินตันรายการที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ออลอิงแลนด์ และ อินเดีย-ไชน่า-ฮ่องกง โอเพ่น 

 

 

โอลิมปิกเกมส์ 2 ครั้งที่เปลี่ยนชีวิต

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ในปี 2012 ความสำเร็จสูงสุดของลีเสี่ยวเร่ยคือการได้รับเลือกและความไว้วางใจจากสต๊าฟโค้ชทีมชาติจีน ให้เป็นหนึ่งในนักแบดมินตันหญิงเดี่ยวของจีนลงชิงเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ทั้งๆที่เธอมีอันดับที่ต่ำกว่าคนที่ไม่ได้รับเลือกอย่างหวังซื่อเสียน ในการแข่งขัน เธอผ่านรอบแบ่งกลุ่มแบบไม่ยาก ตามด้วยการปราบไต่จื่ออิงในรอบ 16 คน , ยิปปูยินในรอบ 8 คน , หวังซินที่ดับฝันน้องเมย์ในรอบรองฯ และหวังอี่หานเพื่อนร่วมชาติในรอบชิงเหรียญเกียรติยศ สร้างชื่อให้กับตัวเอง ประเทศจีน และเป็นที่รักของแฟนแบดทั่วโลกด้วยความอ้อนน้อมไม่ก้าวร้าว มีน้ำใจนักกีฬา เป็นไอดอลของนักแบดเยาวชนอีกมากมายหลายคน จุดเด่นที่สุดของเธอคือลูกแบ็กแฮนด์ที่สวยงามและทรงพลัง 

 

จบโอลิมปิกเกมส์ในฝันครั้งนั้น เธอก็ยังล่าแชมป์ได้อย่างต่อเนื่อง และช่วยทีมชาติจีนกวาดแชมป์ทีมผสมชิงแชมป์โลกและทีมหญิงชิงแชมป์โลก แต่อกหักในศึกชิงแชมป์โลก คว้ารองแชมป์โลกปี 2013 พ่ายให้กับน้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ และเป็นรองแชมป์โลกอีกครั้งในปี 2014 โดยพ่ายให้กับไคโรไลน่า มาริน จากนั้นความพยายามที่เธอจะไปป้องกันแชมป์โอลิมปิกก็ดำเนินต่อไป จนอีกสองปีถัดมา ปี 2016 เส้นทางโอลิมปิกของเธอต้องจบลงแบบไม่มีใครคาดคิด เมื่อในระหว่างแข่งกับไคโรไลน่า มาริน จากสเปนในรอบรองชนะเลิศ เกิดอุบัติเหตุเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด ทำให้เส้นทางแบดมินตันอาชีพของเธอต้องยุติลงนานเกือบสองปี

 

 

ขอพิสูจน์ตัวเอง กลับมาอีกครั้ง แต่สุดท้าย

 

สุดท้ายเธอคัมแบ็คมาคว้าแชมป์รายการ Lingshui China Masters 2018  ซึ่งเป็นรายการระดับเล็ก ในปีเดียวกันเธอคว้าแชมป์รายการแคนาดาโอเพ่น ชนะซายากะ ทาคาฮาชิ และยูเอสโอเพ่น รายการระดับ 300 ชนะจางเป่ยเหวิน รวมถึงปิดท้ายปีด้วยรองแชมป์โคเรีย มาสเตอร์  ซึ่งดูเหมือนเส้นทางการกลับมาโลดแล่นของเธอดูจะสดใส แต่ในปีถัดมา ปี 2019 ฟอร์มของเธอกลับไม่เป็นใจ หลังจับการแข่งขันบางนัด เธอถึงกลับหลั่งน้ำตาออกมาในขณะให้สัมภาษณ์กับสื่อ เธอต้องขอรีไทร์จากการแข่งขันโคเรีย โอเพ่น 2019 เพราะบาดเจ็บซ้ำอีกครั้ง   จนท้ายที่สุดข่าวที่ทุกคนไม่อยากได้ยินก็คือ การประกาศเลิกเล่นในระดับอาชีพอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2019 ปิดตำนานนางพญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของจีน

 


TAG ที่เกี่ยวข้อง

stadium

author

StadiumTh Team Content

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose