stadium

สุกฤษฎิ์ แก้วยวน จุดเริ่มต้นจากวิ่งแก้บนสู่นักวิ่งอัลตราเทรลทีมชาติไทย

6 ธันวาคม 2565

ในวงการวิ่งอัลตราเทรลประเทศไทย ชื่อของ "สุกี้" สุกฤษฎิ์ แก้วยวน นับได้ว่า เป็นอีกหนึ่งชื่อของแนวหน้าซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างมาก เพราะความสามารถในการวิ่ง บวกกับคาแร็กเตอร์ที่มีเอกลักษณ์ ภายนอกสุกี้คือนักวิ่งอารมณ์ดี แต่มีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม และนี่คือเรื่องราวก้าวแรก จากการวิ่งเพื่อแก้บนรอบลานพระรูปฯ สู่การเป็นนักวิ่งอัลตราเทรลทีมชาติไทย

 

 

จุดเริ่มต้นจากการวิ่งแก้บน

 

6 ปีที่แล้ว คือจุดเริ่มต้นในการวิ่งของสุกี้ จากการทำงานที่เครียดมากของอาชีพเซลส์ ทำให้เขาอยากผ่อนคลาย จึงเริ่มวิ่งเพื่อสุขภาพ แต่มีชาเลนจ์กับเพื่อนร่วมงานว่าหากทำยอดขายได้ถึงเป้าจะไปวิ่งแก้บนรอบลานพระบรมรูปทรงม้า 100 รอบ โดยที่สุกี้เองก็ยังไม่คาดคิดว่า 100 รอบในวันนั้น จะกลายเป็น 100 กิโลเมตรในวันนี้

 

สุกี้ที่วิ่งร้อยรอบวันนั้นเกิดสนุกกับการวิ่งมากขึ้นเพราะเริ่มรู้จักหลักการวิ่งที่ถูกต้อง ที่เรียกว่าการวิ่งโซน 2 ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง "วันนั้นผมวิ่งรอบนอกลานพระรูปร้อยรอบ หลังจากนั้นก็ต่อเนื่องมา จริงจังมากขึ้น เพราะไปเจอรุ่นพี่แนะนำหลักการวิ่งโซน 2 เพื่อสุขภาพ "

 

เรื่องราวนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เป็นจุดที่ทำให้เขาวิ่งเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น และเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ก็เริ่มได้ลงแข่งในงานวิ่ง "ซ้อมสักพัก สนุก ผมก็ลงงานวิ่งเลยเป็นงานเทรลสิบโล ที่ทำงานชวนไป ตอนนั้นก็รู้สึกได้เลยว่าเป็นทางของเรา มันสนุก แปลกใหม่เพราะเส้นทางวิ่งในป่า ผมชอบแอดเวนเจอร์อยู่แล้วด้วย"

 

 

 

นี่คือเหตุผลแรกที่ชักจูงสุกี้เข้าสู่วงการวิ่งเทรล และเขาท้าทายตัวเองเพิ่มอีกในการอยากได้ถ้วยรางวัลจากการแข่งขัน  เขาจึงเรียนรู้เพิ่มเรื่องการวิ่งให้เร็วขึ้น อึดขึ้น และเริ่มลงสมัครงานวิ่งครั้งใหม่ "งานนั้นจัดที่สุพรรณฯ เลื่อนแข่งไปรอบนึง แต่ผมจองที่พักแล้ว เลยไปเที่ยว ไปลองเส้นทาง พอวันแข่งปรากฎว่าผลดีเกินคาด ได้ 10 โอเวอร์ออล และอันดับ 3 ในรุ่นอายุ"

 

สุกี้เล่าว่า การขึ้นโพเดี้ยมครั้งแรก เพิ่มแพสชั่นให้เขามากขึ้น โดยสุกี้คิดว่า ถ้าซ้อมมากกว่านี้เขาต้องเก่งกว่านี้ แต่ในตอนนั้นสุกี้ยังทำงานเป็นเซลส์อยู่ ชีวิตวนเวียนกับความเครียด และยังคงติดการสูบบุหรี่ และดื่มเหล้าหนัก "ก็คนทำงานทั่วไป กินเหล้าสูบบุหรี่ เหล้ากินหนักแต่ไม่บ่อย แต่บุหรี่คือติด แบบวันละครึ่งซอง เป็นนิสัยมาตั้งแต่มหาลัย แต่พอผมอยากจริงจังกับการวิ่งเทรล ผมเลยคิดว่าถ้าวิ่งแล้วกลับมาสูบบุหรี่เดี๋ยวก็ดรอป ผมเลยหักดิบ ตั้งปณิธานเลยว่า อะไรไม่ดีจะไม่เอาเข้าร่างกาย"

 

คนที่สนิทกับเขาจะทราบว่า สุกี้เป็นคนที่มุ่งมั่นกับแพสชั่น สะท้อนผ่านการตั้งใจซ้อมวิ่งของเขา และชัดเจนมากขึ้นจากการหักดิบเลิกบุหรี่ ที่สุกี้บอกว่า การเลิกสูบช่วงแรกก็เหมือนคนทั่วไปที่อยากสูบ แต่ก็หักห้ามได้ ในที่สุดเขาก็ไม่แตะต้องมันอีก และทำให้การวิ่งพัฒนาขึ้นได้จริง

 

 

มุ่งมั่นกับแพสชั่นในการวิ่งจนลาออกจากงาน

 

"แพสชั่นการวิ่งของผมมันแรงมากจริงๆนะ" สุกี้ยืนยัน และบอกว่าหลังจากวิ่งได้ 3-4 ปี ติดถ้วยมากขึ้น สนุกมากขึ้น เขาก็เริ่มชั่งใจว่านี่คือตัวตนของเขาและเป็นสิ่งที่เขาอยากทำจริงหรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ สุกี้ก็ต้องการมุ่งมั่นไปกับมันให้เต็มที่ด้วยการลาออกจากงานมาเป็นนักวิ่งเต็มตัว

 

"คือผมชั่งใจว่า ผมแค่ชอบไปตามกระแสรึเปล่า ผมเป็นแบบนั้นไหม ถ้าผมลาออกจากงานชีวิตจะเปลี่ยน ถ้าแค่กระแสตามคนอื่นมันจะไม่ดี สุดท้ายผมตกผลึกได้ว่า ผมจริงจัง และอยากทำให้มันเป็นอาชีพ ผมเลยลาออก ตอนนั้นก็คิดนะว่ามันจะเป็นอาชีพได้ไง แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวค่อยคิดอีกที" สุกี้เล่าเรื่องนี้พร้อมกับหัวเราะเขินๆ แต่เรื่องเล่าจากปากเขา มีความชัดเจนมากว่า...นี่คือการตัดสินใจที่รอบคอบที่สุดในชีวิต

 

ณ ตอนนั้น สุกี้เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการวิ่งเทรลมากขึ้น เพราะชนะในการแข่งหลายสนาม สุกี้จึงเริ่มเป็นโค้ชสอนและวางโปรแกรมซ้อมให้กับนักวิ่งแบบเฉพาะกลุ่ม บอกกันแบบปากต่อปากในระยะแรก เขาจึงยังมีรายได้นำไปต่อยอดเพื่อการแข่งในสนามต่อไปหลังจากนั้น ซึ่งรวมถึงสนามที่เชียงใหม่ ที่สุกี้จริงจังกับการทำผลงานให้ดีจึงมาเก็บตัวในพื้นที่จริงนานเกือบ 3 เดือน

 

"ก็มาอยู่โฮสเทล ตอนนั้นยังเทียวไปเทียวมา จะแข่งเชียงใหม่ก็มาเก็บตัว ตอนแรกอยากกลับกทม. แต่เจอโควิดพอดีเลยกลับไม่ได้ สุดท้ายก็คิดว่า ย้ายมาอยู่เชียงใหม่เลยดีกว่า" จากวันนั้นผ่านมา 4 ปี ที่สุกี้ตัดสินใจแพคกระเป๋าหอบข้าวของจากบ้านที่ดอนเมือง เดินทางมาที่เชียงใหม่ เมืองแห่งการวิ่งอัลตราเทรล ตอนนี้เขากลายเป็นคนเชียงใหม่แบบเต็มตัว 

 

นักวิ่งอัลตราเทรลหลายคนที่เคยมาซ้อม หรือมาแข่งที่เชียงใหม่ จะทราบดีว่า เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศของคนรักการวิ่งเทรล ทั้งพื้นที่ ผู้คน ที่นี่มีแพสชั่นมากมาย ใช้ชีวิตประจำวันที่มีรูทีนคือการออกกำลังกายด้วยการวิ่งตามป่าตามเขา พลังของเชียงใหม่จึงยิ่งเสริมแพสชั่นของสุกี้ให้มากขึ้นไปอีกว่าเขาตัดสินใจเดินมาถูกทางแล้ว

 

 

ฝันที่ไม่เคยหยุดของ "สุกี้"

 

หลังจากจริงจังมากขึ้น สุกี้กลายเป็นนักวิ่งอัลตราเทรลแนวหน้าคนหนึ่งของประเทศไทย ที่ได้รับการยอมรับจากผลงานการแข่งต่างๆ ชีวิตของสุกี้จึงเดินไปบนเส้นทางนักวิ่งอัลตราเทรล คู่กับการเป็นผู้ฝึกสอนวิ่ง และ Strenght & Conditioning ซึ่งการรับบทโค้ชนั้นสุกี้ก็เข้าไปรับการฝึกอบรมเพื่อรับใบรับรองทั้งด้านการพัฒนาการวิ่ง การออกกำลังกายและสุขภาพ 

 

สุกี้บอกว่า จุดประสงค์ของเขาคือส่วนหนึ่งเพื่อความน่าเชื่อถือในอาชีพ และอีกส่วนหนึ่งคือความรู้ที่ได้เพิ่มขึ้น "ผมอยากสร้างอาชีพนี้อยู่แล้ว ตามโจทย์ที่เราตั้งใจจะทำอาชีพที่ชอบ และสิ่งที่เราหลงใหล อยากมีความรู้เยอะๆ เพื่อตัวเองและเพื่อถ่ายทอดให้คนอื่นด้วย เพราะผมชอบทั้งการเป็นครูและนักกีฬา แต่ก็ต้องการเริ่มต้นจากการเป็นผู้ปฏิบัติที่ดีก่อน" 

 

ณ จุดนี้ อาจพูดได้ว่าสุกี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายแล้ว แต่เขายังไปได้ไกลกว่านั้น ทั้งการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หลาบสินค้ากีฬา การเป็นนักกีฬาในสังกัด REV Runner ร้านผลิตภัณฑ์ด้านกีฬาที่มีชื่อเสียง การเป็นโค้ชของ Garmin TH ซึ่งสุกี้ก็ยังไม่หยุดฝัน ด้วยการทำแบรนด์สินค้าเกี่ยวกับการวิ่งอัลตราเทรลที่ตัวเองถนัด

 

"ผมทำเอนเนอจี้ดริ้งก์ของตัวเอง สำหรับนักกีฬา ชื่อ Mileage เหมาะกับนักกีฬาทุกประเภท โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องใช้ความทนทานสูง เพราะช่วยเรื่องการฟื้นฟูกล้ามเนื้อด้วย กับกล้วยตาก แบรนด์ Eatzyboost ที่ผมทำกล้วยตาก เพราะแฟนผมบ้านอยู่พิษณุโลก เป็นแหล่งกล้วยตาก เลยมีความคิดที่ว่า จะเอาสินค้าจากชุมชนมาขาย สำหรับผู้ที่ชอบ real food เวลาใช้ในการซ้อมหรือแข่งวิ่ง" 

 

 

ในวันที่ติดทีมชาติ

 

และสำหรับเส้นทางนักวิ่งอัลตราเทรล สุกี้ สุกฤษฎิ์ แก้วยวน ได้เดินทางมาถึงจุดสำคัญที่เกินฝันด้วยการได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทย ศึกวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก รายการ Amazing Thailand World Mountain & Trail Running Championship 2021 ที่จังหวัดเชียงใหม่ การแข่งที่ตอนแรกสุกี้หวังจะเป็นแค่ผู้ชม 

 

"งานนี้ผมรู้มานานแล้วว่าจะมีจัด ตอนแรกอยากเป็นผู้ชม อยากมาดูคนเก่งๆ ระดับโลก แต่สมาคมฯติดต่อมา สนใจว่าให้เราแข่งในนามทีมชาติไทย ตอนนั้นก็ยังงงอยู่นะ แต่ดีใจมาก ไม่เคยคิดว่าจะเป็นทีมชาติ พอมีโอกาสก็ดีใจมาก พ่อแม่แฟนก็ดีใจ ภูมิใจ" รายการนี้สุกี้ลงแข่งระยะลองเทรล 80K แม้จะจบลงด้วยการ DNF หรือแข่งไม่จบ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากของเขา

 

นับตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่วงการวิ่ง เดินทางมาไกลนับหมื่นกิโลเมตร สุกี้ สุกฤษฎิ์ แก้วยวน บอกว่า มันเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ "ผมเคยอยากไประดับโลกนะ แต่รู้ว่ามันยากมาก เลยตั้งเป้าใหม่คือการเป็นตัวท็อปในไทย ซึ่งก็เป็นได้แล้ว มี Ranking ที่ดีแล้ว การติดทีมชาติของผมคือทะลุทะลวงเป้าแล้ว แต่ก็ยังอยากพัฒนาต่อไปในฐานะนักกีฬา พร้อมกับการเป็นโค้ช"

 

สุกี้ จะมีการแข่งครั้งต่อไป ที่งาน Doi Inthanon Thailand by UTMB ท้าทายที่ระยะ 105K จะทำการจัดแข่งขันระหว่าง วันที่ 8 - 11 ธันวาคม 2022 ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์


stadium

author

ทีมงานเพจนักวิ่งมีหนวด

เพจเรื่องวิ่งที่แอดมินมีหนวด ทำข่าววิ่ง ชอบป้ายยา ขิงรองเท้าเสื้อผ้าวิ่ง

La Vie en Rose