Stadium TH ชวนคนไทยเชียร์นักกีฬาไทยส่งท้ายปีตลอดเดือนธันวาคม

เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี วงการกีฬาไทยยังคงมีความเคลื่อนไหวให้ได้ติดตามกันตลอดทั้งเดือน ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลที่ทีมช้างศึกมีภารกิจสำคัญในการป้องกันแชมป์อาเซียนคัพ รวมไปยกน้ำหนัก ว่ายน้ำและเพาะกายที่จะต้องยกพลไปลุ้นแชมป์โลกส่งท้ายปี นอกจากนี้ยังมีแบดมินตันและเทควันโดให้ติดตามเชียร์กัน รวมถึงกีฬาอื่นๆ จะมีอะไรบ้างที่น่าสนใจไปติดตาม

ฟุตบอล

ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 หรือ อาเซียน คัพ 2022 ในปีนี้ได้ผู้สนับสนุนใหม่จะใช้ชื่อการแข่งขันว่า "เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ 2022" พร้อมกับปรับรูปแบบการแข่งขันกลับมาใช้ ระบบเหย้า-เยือน โดยไม่มีชาติเจ้าภาพ ซึ่งในรอบแรกจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มๆ ละ 5 ทีม แต่ละทีมจะได้เป็นทีมเหย้า 2 นัดและเล่นเป็นทีมเยือน 2 นัด ส่วนการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศกับรอบชิงชนะเลิศ จะใช้ระบบเหย้า-เยือน รอบละ 2 นัด แข่งขันกันระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม – 16 มกราคม

ในรอบแรกทีมช้างศึก ทีมชาติไทย ซึ่งเป็นแชมป์เก่าและแชมป์ 6 สมัย อยู่กลุ่มเอร่วมกับ ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, กัมพูชาและบรูไน ซึ่งโปรแกรมมีดังนี้

20 ธันวาคม : บรูไน พบ ไทย เวลา 20.30 น. 

26 ธันวาคม : ไทย พบ ฟิลิปปินส์ เวลา 19.30 น.

29 ธันวาคม : อินโดนีเซีย พบ ไทย เวลา 19.30 น.

2 มกราคม : ไทย พบ กัมพูชา เวลา 19.30 น.

คัดเอา 2 ทีมที่ผลงานดีสุดผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไป โดยอันดับ 1 ของกลุ่มเอ จะไปพบกับอันดับ 2 กลุ่มบี และอันดับ 2 กลุ่มเอ จะพบกับแชมป์กลุ่มบี รอบรองชนะเลิศเตะวันที่ 6-10 มกราคม และรอบชิงชนะเลิศจะเตะวันที่ 13 และ 16 มกราคม

เทควันโด

ส่งกำลังใจให้ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หนึ่งเดียวของไทยกับภารกิจลุยศึกเทควันโด เวิดล์ ปรังด์ ปรีซ์ ไฟน่อล ที่ประเทศจีน วันที่ 12-13 ธันวาคมนี้ สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการเก็บชัยชนะเพื่อเรียกความมั่นใจหลังเพิ่งถูกหยุดสถิติไร้พ่ายเกือบ 4 ปีลงแล้ว แชมป์รายการนี้ยังจะได้คะแนนสะสมอันดับโลกและโอลิมปิกสูงถึ 100 คะแนน เรียกได้ว่าแทบจะการันตีตั๋วโอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศสไปเลยทีเดียว

ในอดีต “เทนนิส” พาณิภัค เคยคว้าแชมป์รายการนี้แค่หนเดียวในปี 2017 ส่วนปี 2018 เธอได้รองแชมป์พลาดท่าแพ้ คิม โซฮุย จากเกาหลีใต้ในรอบชิงชนะเลิศ ขณะที่ปี 2019 เธอสละสิทธิ์ไม่ลงแข่ง เพื่อไปลงแข่งรายการแกรนด์แสลมแทนก่อนจะคว้าตั๋วโอลิมปิก 2020 จากรายการนี้และก้าวขึ้นเป็นแชมป์โอลิมปิกในท้ายที่สุด 

แบดมินตัน

แบดมินตัน เวิลด์ ทัวร์ ไฟน่อลส์ 2022 ในปีนี้แฟนลูกขนไก่ไทยจะได้เชียร์กันแบบติดขอบสนามอีกครั้ง หลังประเทศไทยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแทนจีน ในวันที่ 7-11 ธันวาคมนี้ โดยในปีนี้มีนักแบดมินตันไทยได้สิทธิ์เข้าร่วมทั้งหมด 10 คนจาก 3 ประเภท

หญิงเดี่ยว : รัชนก อินทนนท์ มือ 7 ของโลก, บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มือ 10 ของโลก

หญิงคู่ : จงกลพรรณ กิติธารากุล - รวินดา ประจงใจ คู่มือ 6 ของโลก, นันทกาญจน์ - เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มือ 13 ของโลก

คู่ผสม : เดชาพล พัววรานุเคราะห์ - ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือ 1 ของโลก, สุภัค จอมเกาะ - ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มือ 12 ของโลก

รายการนี้เมื่อ 2 ปีก่อนที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เราได้มา 1 แชมป์จากประเภทคู่ผสม “บาส-ปอป้อ” ซึ่งไม่แน่ว่าปีนี้เราอาจจะได้เห็นนักตบลูกขนไก้ก้าวขึ้นคว้าเป็นแชมป์ต่อหน้าแฟนๆ ที่นิมิตรบุตร

ยกน้ำหนัก

ยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศโคลอมเบีย วันที่ 5-16 ธันวาคม โดยเป็นรายการแรกของการเก็บคะแนนสะสมเพื่อเข้าร่วมโอลิมปิก 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยแต่ละประเทศจะได้โควต้าไม่เกินชาติละ 6 คน แบ่งเป็นชาย 3 คน และหญิง 3 คน

สำหรับรายชื่อนักยกน้ำหนักทีมชาติไทย 13 คน แบ่งเป็นชาย 7 คน ธีรพงศ์ ศิลาชัย รุ่น 55 กิโลกรัมชาย, ธีรพัฒน์ ชมชื่น รุ่น 61 กิโลกรัมชาย, วิษณุ จันทรี รุ่น 67 กิโลกรัมชาย, วีรพล วิชุมา รุ่น 67 กิโลกรัมชาย, สุทธิพงษ์ จีรัมย์ รุ่น 73 กิโลกรัมชาย, พชรเมธี ธาระพันธ์ รุ่น 89 กิโลกรัมชาย, ศรัท สุ่มประดิษฐ รุ่น  96 กิโลกรัมชาย

นักกีฬาหญิง 6 คน สิริวิมล ประมงคล รุ่น 45 กิโลกรัมหญิง, ธรรญธร สุขข์เจริญ รุ่น 45 กิโลกรัมหญิง, ศานิกุณ ธนสาร รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง, สุรัสวดี ยอดสาร รุ่น 59 กิโลกรัมหญิง, รัตนวรรณ์ วามะลุน รุ่น  64 กิโลกรัมหญิง, ดวงอักษร ใจดี รุ่นน้ำหนักมากกว่า 87 กิโลกรัมหญิง

โดยชุดนี้มี “แนน” ศานิกุณ ธนสาร หรือ โสภิตา ในชื่อเดิมเจ้าของแชมป์โอลิมปิก 2016 นำทัพไปลงแข่ง ยังมีดาวดังคนอื่นๆ อย่าง ธรรญธร สุขข์เจริญ หรือ ธัญญ่า ในชื่อเดิม ซึ่งเป็นเจ้า 2 เหรียญทองเมื่อปีที่แล้ว และ ดวงอักษร ใจดี ที่คว้า 1 เหรียญทอง จากท่าแสนตช์ ต้องติดตามเชียร์เพราะรายชื่อชุดนี้จะเป็นความหวังในการทวงคนเหรียญทองโอลิมปิกให้ยกน้ำหนักไทย

ว่ายน้ำ

เดือนนี้มีให้เชียร์กัน 2 รายการ โดยรายการแรกลุยศึกว่ายน้ำชิงแชมป์โลก “ฟีน่า เวิลด์ เเชมเปี้ยนชิพ” ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 13-18 ธันวาคม ซึ่งเป็นรายการชิงเเชมป์โลก เเบบสระสั้น 25 เมตร โดยมี “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสอาด เเละ “ฉลามไวน์” นวพรรษ วงค์เจริญ 2 นักว่ายน้ำทีมชาติไทยที่เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ 2020 ลงเเข่งขันในรายการนี้ เป้าหมายคือการผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของ เจนจิรา ที่ถนัดในระยะสั้น 

ส่วนอีกหนึ่งรายการคือ ว่ายน้ำเยาวชนชิงแชมป์อาเซียน “ซีเอจ กรุ๊ป” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17-19 ธันวาคม โดยผลงานปีที่แล้วดาวรุ่งไทยคว้ามาได้ 28 เหรียญทอง ส่วนกำลังสำคัญในครั้งนี้ได้เเก่ “เงือกเนย” กมนชนก ศรีเมือง, “เงือกโมจิ” จินห์จุฑา ผลเเจ่มจำรัส, มีอา มิลล่าร์ เเละต้นน้ำ กันตีมูล รวมทั้งญารินดา สุนทรรังษี 

เพาะกาย

เพาะกายชิงแชมป์โลก 2022 อีกหนึ่งอีเว้นท์ที่จะขึ้นที่ประเทศไทย โดยจะชิงชัยกันที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 6-12 ธันวาคม มี 44 ประเทศร่วมชิงชัย

ทัพเบ่งกล้ามไทยจะส่งนักกีฬาร่วมแข่งขันทั้งหมด 46 คน นักกีฬาชาย 35 คน ได้แก่ เกษม รัตนพร, จีรพันธ์ โป่งคำ, พงษ์ศิริ พรหมจรรย์, จักรวัฒน์ อินทะรังษี, วิชัย สิงห์ทอง, พรเทพ สุขเกษม, ผไทวัฒน์ เอลกวัฒน์, อภิชัย วันดี, พันธวัช นิมิตภาคภูมิ, ฉัตรดนัย  เศรษฐศิริกุล, เอกพล สุขทอง, ธนกฤต บุญศรี, กองพล ทองสุข, วันชัย กาญจนพิมาย, เรือโทดำรงค์ศักดิ์ สร้อยศรี, ณัฐวัตร โพธิ์ฉัตร, ณัฐนันท์ พรหมภูวงศ์, เทพพร  พวงทับทิม, ประกาศิต  เครือบุตร, อุษมาร์  ลอตันหยง, สุรศักดิ์  ปานเรือง, อิทธิภัฒฐ์  ประทีป, ชัยพิพัฒน์  ลิ่วตระกูล, พัชรพงษ์  พจนะโกสีย์, สุรพันธ์  ไหมสีทอง, บุลากร  ดีกระโทก, ธนพิพัฒน์  จันทนเสวี, ชวินธร  เทพวงษ์, กิตติศักดิ์ วุฒิการณ์, สหรัฐ เคลือบมาศ, กิตติ ผลาผล, สาคร มาตรวังแสง, เกษม ศิริโสตร์, สุวิจักขณ์ พินทุสรชัย, พรชัย ธรรมสังวาลย์

นักกีฬาหญิง 11 คน ได้แก่ จิรฐา จุฑานิชกานต์, ปุริมปรัชญ์ วรรณอภิลักษณ์, ศิรินทิพย์ อินทรีย์, สิมรา ชุ่มชื่น, ศิริพร ศรช่วย, พันจ่าอากาศตรีหญิงอาจารี แท่นทรัพย์, กีรติญา จันทรัตน์, ตรีรักษ์  สระป้อมแก้ว, ชัญญาภัสร์  ก่อพาราภิรมย์, สิรินดา  พันสถา, อรอนงค์ อินทร์แก้ว

ตั้งเป้าหมายคว้าให้ได้อย่างน้อย 13 เหรียญทองเทียบเท่ากับปีก่อนที่ทำไว้ที่เกาหลีใต้

นอกจากนี้ยังมีชนิดกีฬาอื่นๆ ที่น่าสนใจแต่ไม่ได้เอ่ยถึง สามารถติดตามผลงานของนักกีฬาไทยได้ที่หน้าเพจ https://www.facebook.com/THStadium