stadium

"แววดาว" นักวิ่งอัลตราเทรล LGBTQ ผู้มีฝันอยากใส่ชุดกระโปรงยาววิ่งบนเทือกเขาแอลป์

18 พฤศจิกายน 2565

ไม่ต่างไปจากนักวิ่งอัลตราเทรลทั่วโลก UTMB มองบลังค์ คือเป้าหมายสูงสุดที่ทุกคนอยากไปถึง และนั่นเป็นเป้าหมายเดียวกันกับ "แววดาว-ธีระยุทธ สมตัว" นักวิ่งอัลตราเทรล LGBTQ ผู้มีเอกลักษณ์ด้วยการแต่งตัวแต่งหน้าแบบจัดเต็ม ในทุกสนามการแข่งขัน เพียงแต่เธอเพิ่มเป้าหมายด้วยการได้สวมชุดกระโปรงยาวไปวิ่งและโพสต์ท่าบนเทือกเขาแอลป์ การจะไปถึงจุดนั้นได้ ต้องสะสมทั้งแต้มบุญ และการฝึกซ้อมมากมาย ...นี่คือเรื่องราวความฝันของนักวิ่งสาวผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความมั่นใจ

 

 

ตัวตนที่มากกว่าความแฟนซีของ "แววดาว"

 

"ชื่อจริง คือ ธีระยุทธ สมตัว ชื่อเล่นคือ บอย ส่วนในวงการวิ่งเรียกว่า แววดาว" แววดาว ธีระยุทธ เริ่มแนะนำตัวแบบง่ายๆ พร้อมบอกว่า เธอเป็นคนจังหวัดนครพนม มาจากครอบครัวที่อบอุ่นน่ารัก คุณแม่สนับสนุนให้กล้าแสดงออก และเป็นตัวเองมาตั้งแต่เด็ก มีพี่สาว 1 คน ซึ่งครอบครัวคอยอยู่เบื้องหลังความสวยและความสุขของเธอตลอดมา

 

ปัจจุบันสาวคนนี้ทำงานเป็นสถาปนิก และนักออกแบบตกแต่งภายใน เต็มที่กับทุกกิจกรรม ทั้งการทำงาน การพักผ่อน และการเล่นกีฬา การออกกำลังกายของเธอเคยเริ่มต้นจากการปั่นจักรยาน เป็นการปั่นออกทริประยะไกลเป็นพันกิโลเมตร เพื่อใช้เวลาว่างจากการทำงานไปกับการปั่นจักรยานท่องเที่ยว

 

เมื่อทำงานได้ 8-9 ปี หน้าที่การงานเริ่มลงตัว แววดาวหันมาเข้าวงการวิ่ง เริ่มต้นแบบคนทั่วไปคือเพื่อสุขภาพ วิ่งตามสวนสาธารณะหรืองานวิ่งถนนทั่วไป เมื่อวิ่งได้ระยะหนึ่งก็เริ่มหมดแพสชั่นและอยากสนุกขึ้น บวกกับความรักสวยรักงามและชอบแฟชั่น ทำให้หันมาเป็นนักวิ่งแฟนซี ใส่ชุดสวยๆ แต่งหน้าจัดเต็ม

 

แต่นั่นก็ยังทำให้แววดาวเริ่มหมดแพสชั่นอีกครั้ง เธอจึงนำความชอบอีกอย่างที่ขาดไปของตัวเองเข้ามาผสมกับความชอบในการออกกำลังกายและความชอบทางแฟชั่น ก็คือความชอบในการท่องเที่ยว เธอจึงหันมาเข้าสู่การวิ่งอัลตราเทรล พร้อมกับใส่ชุดสวยๆ ไปวิ่งในระยะทางไกลมากขึ้นตามป่าตามเขา

 

ซึ่งทุกอย่างที่แววดาวทำ ครอบครัวก็สนับสนุนตลอด "เรื่องการวิ่งที่บ้านซัพพอร์ตดีมากกกก ตื่นเต้น ให้กำลังใจ บางงานแม่กับพี่สาวช่วยทำชุดให้ด้วย คือ ใส่เต็มทุกงานนะ กล้าแสดงออกมาตั้งแต่เด็ก" แววดาวเล่าถึงครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เธอกล้าแสดงออก จากการปลูกฝังให้ลูกเป็นตัวเองมาตั้งแต่เด็ก

 

 

 

ความใฝ่ฝันในการวิ่งชุดกระโปรงยาวบนเทือกเขาเอลป์

 

ไม่ใช่แค่ความสวยเท่านั้น เป้าหมายของเธอคือการวิ่งได้เร็วขึ้น และไกลขึ้น จากช่วงแรกที่วิ่ง 20 กิโลเมตร 40 กิโลเมตร เธอขยับตัวเองขึ้นสู่ระยะ 60 กิโลเมตร และ 100 กิโลเมตร "พอมีเวลาซ้อมได้เยอะ มีแพสชั่นมากขึ้น แรกๆ แค่วิ่งแล้วแต่งตัวสวยๆ ทำไปนานๆ ก็เหมือนแพสชั่นจะหมด อยากเห็นอีกด้านของตัวเอง อยากสวยด้วย เก่งด้วย เลยซ้อมเยอะขึ้น"

 

ตอนนี้แววดาวซ้อมอยู่กับ โค้ชเป้า อุ้มยศ กิจอุดม นักวิ่งทางไกลอดีตทีมชาติไทย โค้ชคนดังเบื้องหลังนักวิ่งเก่งๆ มากมาย โดยรวมกลุ่มซ้อมกับเพื่อนพี่น้อง LGBTQ รวมถึง เจ๊มุก ซักรีด หรือ สวัสดิ์ กันยา ไอดอลของ LGBTQ และนักวิ่งอีกหลายคนในวงการวิ่งประเทศไทย

 

โค้ชเป้าพูดถึงแววดาวว่า "เมื่อก่อนเขายังวิ่งช้ากว่านี้นะ เดี๋ยวนี้เร็วขึ้นมาก ท่าวิ่งก็สวย เขามีความตั้งใจ มีวินัย และน่ารักมาก" ไม่ต่างกับเจ๊มุก ที่พูดถึงน้องสาวว่า แววดาวคือน้องที่น่ารักและมีความตั้งใจ สิ่งที่ดึงดูดทั้งสองคนเข้าด้วยกันไม่ใช่แค่ความเป็น LGBTQ แต่เป็นความมุ่งมั่นในการวิ่ง

 

และสำหรับนักวิ่งอัลตราเทรล งานวิ่ง UTMB มองบลังค์ นับเป็นหนึ่งในสนามแข่งเป้าหมายสูงสุด และเป็นความใฝ่ฝันของแววดาวด้วยเช่นกัน โดยระยะที่เธอต้องการท้าทายคือ 170 กิโลเมตร ซึ่งแววดาวบอกถึงเป้าหมายอีกอย่างที่สมกับความเป็นตัวเองด้วย "ก็จะจัดเต็มที่ แต่งตัวให้อลัง ชุดยาวๆ โพสต์ท่าบนเทือกเขาแอลป์ อยากเปลี่ยนชุดหลายๆ ชุด"

 

 

โลกที่เปิดกว้างเพื่อความหลากหลายทางเพศ

 

ความตั้งใจของแววดาว สะท้อนผ่านตัวตนที่มีความสุขของเธอ ทั้งจากรอยยิ้ม หน้าตา และการแต่งตัว นี่คือหนึ่งในนักวิ่งคนดังคนหนึ่งของกลุ่ม LGBTQ ไทย ความสุขที่สะท้อนออกมา ทำให้ Brooks Thailand แบรนด์ด้านกีฬาชื่อดัง เข้ามาให้การสนับสนุนเธอ

 

"ทั้งรองเท้า เสื้อผ้า Brooks เข้ามาสนับสนุนทั้งหมด เขาชอบตัวตนเราเลยมาสนับสนุน ภาพของการวิ่งอย่างมีความสุขของเรา ไปตรงกับแคมเปญของเขาคือ Run with Happy" แววดาวเล่าแล้วบอกว่าแบรนด์ยังสนับสนุนให้เป็นตัวเองต่อไป ให้อิสระเรื่องการแต่งตัว และสนับสนุนเรื่องการแข่งขันด้วย

 

ตัวแววดาวเองยังยอมรับว่ามาไกลมากบนเส้นทางการวิ่ง และมีความสุขกับจุดที่อยู่ในตอนนี้ "นิยามความเป็นแววดาว คือ การกล้าที่จะเป็นตัวเองในการวิ่ง มีความสุขไปกับมัน มีข้อเปรียบเทียบ คือก่อนแต่งแฟนซีมีเพื่อนน้อยมาก พอเราแต่งตัวเต็ม เรากล้าพูด และมั่นใจมากขึ้น ชุดที่เราใส่ หน้าที่เราแต่ง ทำให้เราคุยกับคนได้มากขึ้น คือ เอาโลกของแฟชั่นมารวมกับการวิ่ง"

 

 

ทั่วโลกในตอนนี้ เปิดกว้างและให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศคือกลุ่มผู้ที่สร้างสีสันจากความสร้างสรรค์และพลังที่ล้นเหลือ เมื่อสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ความสุขจึงเกิดขึ้นตามมา และมากพอสำหรับการแบ่งปัน

 

"รู้สึกดีกับทุกคนที่จะทำแบบเรา มันมาจากความเชื่อมั่นในตัวเอง เชียร์เลยนะ อยากให้มีความสุขเหมือนเรา ทุกคนมีความชอบที่ต่างกัน ขอแค่กล้าเป็นตัวเอง" แววดาวทิ้งท้าย และฝากเชียร์เธอสำหรับ 100 กิโลเมตรงาน UTMB อินทนนท์ ปลายปีนี้ และลังกาหลวงเทรล มกราคมปีหน้า ก่อนจะท้าท้ายที่ UTMB มองบลังค์ต่อไป


stadium

author

ทีมงานเพจนักวิ่งมีหนวด

เพจเรื่องวิ่งที่แอดมินมีหนวด ทำข่าววิ่ง ชอบป้ายยา ขิงรองเท้าเสื้อผ้าวิ่ง

La Vie en Rose