16 พฤศจิกายน 2565
หากคุณสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากไปได้ คุณจะได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่และสวยงาม เฉกเช่นเรื่องราวของ “นัท” ณัฐพร ท้าวศรีสกุล นักกีฬาเทนนิสคนพิการทีมชาติไทย ที่เชื่อและศรัทธาในตนเอง แม้ว่าชีวิตกำลังถอยหลังและยากลำบาก เขาสามาถต่อสู้จนหลุดพ้นจากการตกเป็นทาสยาเสพติด กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าอีกครั้ง
นัท เป็นลูกชายคนกลาง พื้นเพเป็นคนจังหวัดจันทบุรี อำเภอเขาสอยดาว นัทไม่ได้พิการโดยกำเนิด คลอดออกมาตอนแรกทุกอย่างปกติ แต่ผ่านไป 3 เดือนเกิดขาลีบ กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง ชีวิตวัยเด็กเข้าเรียนโรงเรียนศรีสังวาลย์ ปากเกร็ด นนทบุรี เรียนตั้งแต่อนุบาลถึงประถมศึกษาชั้นปีที่ 2 จากนั้นกลับไปเรียนที่บ้านเกิดกับคนปกติจนประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างนั้นชีวิตมักจะถูกล้อ ถูกบูลลี่จากเด็กต่างชั้น แต่ก็เป็นที่รักของเพื่อนร่วมห้องเดียวกัน
เล่นกีฬาตามรอยฮีโร่
เส้นทางการเล่นกีฬานัท เริ่มต้นจากการย้ายกลับมาเรียนที่โรงเรียน ศรีสังวาลย์ ปากเกร็ด ได้เจอ ประวัติ วะโฮรัมย์ ฮีโร่ของนักกีฬาคนพิการ จึงคิดจะเดินรอยตาม โดยเริ่มเล่นกรีฑาประเภทลาน ขว้างจักร ทุ่มน้ำหนัก พุ่งเแหลน ฝึกทุกอย่าง โดยมีครูอิทธิพล พิมชัย เป็นผู้ฝึกสอน เข้าชิงชัยครั้งแรกในชีวิต ก็คว้าเหรียญทองแดงในแข่งกีฬาคนพิการแห่งชาติ นครเชียงใหม่เกมส์ ปี 2545 แม้จะประสบความสำเร็จ แต่ตอนนั้นเริ่มเบื่อเพราะต้องซ้อมคนเดียว จึงเปลี่ยนไปเล่นเทเบิลเทนนิส ตามคำชวนของ ไมตรี คงเรือง
นัท เริ่มจากการเก็บลูกปิงปองให้กับรุ่นพี่ทีมชาติ เมื่อโต๊ะว่างจึงจะได้หัดตี ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็ติดทีมเยาวชนนักกีฬาคนพิการไปแข่งที่ออสเตรเลีย รุ่นเดียวกับรุ่งโรจน์ ไทยนิยม และวิจิตรา ใจอ่อน โดยปิดจ๊อบด้วยการคว้าอันดับที่ 2 ในคลาส TT4 ถัดจากนี้ไปซิวเหรียญทองแดงในแข่งรายการเฟบิสยูธเกมส์ ที่ฮ่องกง
หลงทาง
เมื่อจบ ม.3 ก็เบนเข็นไปเรียนสายอาชีพ ตอนนั้นเริ่มหลงตัวเอง หย่อนยานวินัย ติดเพื่อนไม่ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมเหมือนเดิม แต่โชคที่เพื่อนที่ไปเรียนด้วยคือ วิจิตรา ใจอ่อน คอยช่วยเหลือและดึงกลับมาเล่นปิงปอง จนได้เหรียญทองแดงเอเชียนพาราเกมส์ ที่โคราช และอีก 2 ปีถัดมา อาเซียนพาราเกมส์ ที่เมียนมาร์ ก็ได้เหรียญเงินในประเภททีมและเหรียญทองแดงชายเดี่ยว ซึ่งในตอนนั้นเขาเริ่มกังวลเพราะคู่ต่อสู้ในคลาสเดียวกันแข็งแกร่งมาก
ช่วงเวลาที่กำลังสับสน นัท แก้ปัญหาด้วยการกินเหล้า สูบบุหรี่ เลยเถิดไปเสพยาเสพติด ทำให้อนาคตที่กำลังจะดี จมดิ่งทันที เหลวแหลกขนาดนำเงินที่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลของเพื่อนไปใช้ซื้อยาเสพติดหมดทั้งทุนและกำไร ชีวิตย่ำแย่จนต้องไปขอทานและขอข้าววัดประทังหิวไปวันๆ
สุดท้ายก็มาคิดได้ทำไมต้องทำตัวเองให้ตกต่ำไร้ค่าแบบนี้ เขาหันหน้ากลับมาขอโอกาสกับ ไมตรี คงเรือง อีกครั้ง และก็เป็นจังหวะที่วีลแชร์เทนนิสกำลังเฟ้นหานักกีฬาหน้าใหม่พอดี โดยสัญญากับตัวเองว่า ต่อให้หนทางข้างหน้ายากลำบากแค่ไหน ก็จะไม่ยอมกลับไปเป็นทาสยาเสพติดอีก
คว้าโอกาสสุดท้ายด้วยเทนนิส
นัท ถูก “โค้ชตั้ม” พัฒนพงษ์ สุวรรณมงคล จับเคี่ยวเข็ญอย่างหนัก และติดทีมชาติแข่งอาเซียนพาราเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย และเอเซียนพาราเกมส์ 2018 ที่ อินโดนีเซีย แม้จะยังไม่ได้ขึ้นโพเดี้ยม แต่ก็ได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้เทคนิคจากนักกีฬาที่เก่งกว่า กลับมาฝึกซ้อมแก้ไขจุดอ่อน ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ชีวิตมีแก่นสารขึ้น
ฝีมือการเล่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในการแข่งขันที่ตุรกี อันดับ 1 และ 2 จะได้ตั๋วไปชิงแชมป์โลก โดย นัท จับคู่กับ ชลภัทร โสรส ซึ่งเป็นม้านอกสายตา ผสานพลังล้มทีมชาติเยอรมันลงได้ จบอันดับ 3 แม้จะพลาดตั๋วไปชิงแชมป์โลก แต่ก็เป็นเหมือนสัญญาณที่ดี ก่อนจะมาปลดล็อกได้สำเร็จด้วยการคว้าเหรียญทองในอาเซียนพาราเกมส์ 2022 ที่โซโล อินโดนีเซีย
“เหรียญทองเหรียญนี้ ช่วยให้ชีวิตผมก็ดีขึ้น สามารถใช้หนี้เพื่อน มีเงินเก็บ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ผมขอบคุณพี่ๆที่ให้โอกาสครับ” นัท กล่าวอย่างจริงใจในตอนท้าย
ชีวิตของ “นัท”ณัฐพร ท้าวศรีสกุล ได้เรียนรู้มากมายในระหว่างที่ต้องต่อสู้กับความยากลำบาก ได้เจอกับหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ไม่เคยรู้มาก่อน แต่หลังจากที่ได้ลองลงมือทำในสิ่งที่คิดว่ายากนั้นแล้วก็พบว่า เขาก็มีความสามารถมากกว่าที่คิด
ฉะนั้นคุณต้องบ่มเพาะความเชื่อและศรัทธาในตนเองให้เกิดขึ้น แม้ว่าชีวิตกำลังถอยหลังและยากลำบากอยู่ก็ตาม
TAG ที่เกี่ยวข้อง