stadium

‘มิ้งค์ สระบุรี’ : สนุกเกอร์-ครอบครัวและความฝันของแชมป์โลกสนุกเกอร์สาวไทย

25 ตุลาคม 2565

“อาจเป็นเพราะโชคชะตาที่กำหนดไว้แล้ว” ประโยคที่สาวน้อยวัย 22 ปีอย่าง ‘มิ้งค์’ ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย ย้ำอยู่เสมอกับการที่เธอสามารถทำตามความฝันได้สำเร็จ ภาพฝันที่มิ้งค์วาดไว้ตั้งแต่วัยเยาว์เป็นภาพเดียวกันกับตอนที่เธอก้าวขึ้นมาสู่การเป็นแชมป์โลกสนุกเกอร์หญิงไทยคนแรกและคนที่ 4 ของโลก

 

แชมป์โลกของมิ้งค์ทำสำเร็จในวัยเพียง 22 ปี เมื่อเทียบกับขวบวัยอาจดูเหมือนว่าเธอประสบความสำเร็จได้เร็วกว่านักกีฬาสนุกเกอร์คนอื่นๆ แต่ถ้ามองย้อมกลับไปสู่จุดเริ่มต้นจะพบว่าการที่เธอก้าวขึ้นมาสู้จุดหมายปลายฝันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย

 

 

Pic : World Snooker Tour 

 

เด็กหญิงกับความฝันเดียวที่มองเห็น

 

“ถ้าไม่ได้มาถึงจุดนี้หนูก็ไม่รู้เลยว่าจะไปทำอาชีพอะไร” มิ้งค์ ยืดออกยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ภายหลังจากที่เราเริ่มเปิดบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องราวที่เธอได้พบเจอ มิ้งค์บอกว่าเธอต้องออกจากระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่ช่วงวัยที่ละอ่อน ก่อนที่จะทุ่มชีวิตที่เหลือเพื่อเดินตามความฝันเดียวที่เธอมองเห็น

 

“ครอบครัวหนูไม่ได้ร่ำรวย จะเรียกว่าหาเช้ากินค่ำก็ได้ แม่ของหนูทำงานเป็นแคชเชียร์อยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์ที่หนูซ้อมอยู่ ส่วนพ่อก็มีอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไป ถางไร่ ไถนา เก็บผักเก็บฟืนแล้วแต่ว่าคนจ้างเขาจะให้ทำอะไรพ่อก็ทำ เพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครับและส่งให้หนูได้เรียนหนังสือ ถามว่ามันพอมั้ยเอาจริงๆ คือมันไม่พอ ไหนจะค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าเทอมสำหรับหนูกับรายได้เพียงไม่กี่พันต่อเดือน แต่พ่อกับแม่ก็พยายามที่จะหาเงินส่งให้หนูเรียน หนูเลยฝันไว้ว่าในอนาคตจะต้องเป็นนักกีฬาสนุกเกอร์อาชีพให้ได้เพื่อจะช่วยให้ครอบครับของหนูได้อยู่สุขสบาย”

 

ไม่แปลกที่เด็กหญิงในช่วงนั้นจะมีฝันที่ใหญ่เกินตัว เมื่อสถานภาพทางครอบครับถูกบีบให้ต้องเลือก กับทางเลือกที่มีไม่มากนัก ‘เรียนต่อหรือหันไปเอาดีทางด้านสนุกเกอร์’ บนทางแยกที่มีความสุ่มเสี่ยงนี้เอง ที่มิ้งค์ในวัย 10 ปีจะมองเห็นภาพฝันเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเป้าหมายในอนาคต

 

 

Pic : World Snooker Tour 

 

“ด้วยความที่หนูคลุกคลีอยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์ตั้งแต่เด็ก เลิกเรียนมาก็มาหาแม่ที่โต๊ะทุกวันๆ มันเลยได้เห็นบรรดาพวกผู้ชายเขาแทงสนุ๊กกลายเป็นภาพชินตา หนูก็เลยลองฝึกตั้งแต่นั้นโชคดีที่ได้พี่บิ๊ก (บิ๊ก สระบุรี นักสนุกเกอร์และผู้บรรยายชื่อดัง) เป็นลูกชายเจ้าของโต๊ะสนุกเกอร์ที่แม่ทำงานช่วยสอนให้ พอหนูเริ่มฝึกจนสามารถแข่งได้มันก็เลยมองอนาคตของตัวเองไว้อย่างเดียวเลยคือต้องเป็นนักกีฬาสนุกเกอร์อาชีพให้ได้ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่หนูคิดว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว”

 

การเดิมพันครั้งใหญ่ของมิ้งค์ ถูกวางเดิมพันไว้ด้วยอนาคต ถ้าเรียนต่อเธออาจประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาและประกอบอาชีพที่มีรายได้เป็นหลักแหล่งเพียงพอต่อการใช้จ่ายภายในครอบครัวในแต่ละเดือน แล้วถ้าเลือกเดินบนเส้นทางนักกีฬาสนุกเกอร์ เธออาจเป็นนักสอยคิวมือทองเดินสายล่าเงินรางวัลจนโด่งดังเป็นพลุแตก ทว่าไม่มีใครรู้อนาคตจะเรียนหรือเล่น ตัวมิ้งค์เองเท่านั้นที่เป็นคนตัดสินใจ

 

“มันเป็นช่วงที่หนูกำลังจะสอบเข้าเรียนต่อใน ม.4 ตอนนั้นยอมรับว่าลังเลอยู่พอสมควรว่าจะเอายังไงดี ในวงการสนุ๊กหนูก็พอมีชื่ออยู่บ้าง เพราะก่อนหน้านี้หนูได้ร่วมแข่งขันในรายการต่างๆ ที่ทางจังหวัดได้จัดขึ้น พอมีความมั่นใจในฝีมือตัวเองว่าดีพอและเป็นจังหวะที่หนูต้องสอบเข้าเรียน ม.4 ก็เลยคุยกับครอบครัวว่าจะเอายังไงดี พ่อก็แนะนำว่าให้ลองไปสอบดูก่อน ถ้าไม่ได้ค่อยดรอปการเรียนไว้แล้วเวลาที่เหลือก็ทุ่มเทให้กับสนุกเกอร์ให้เต็มที่”

 

ใครจะไปเชื่อว่ามิ้งค์ไม่สามารถสอบเทียบชั้นเข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้เลย ทั้งที่เธอเองก็พยายามติวหนังสืออย่างหนักและหวนกลับคืนสนามสอบถึงสองหน แต่ก็ไม่เป็นผลมิ้งค์ไม่เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เหมือนกับเพื่อนๆ ของเธอได้ นั่นเองที่ทำให้ภาพฝันเดียวที่เธอวาดไว้ในหัวเป็นจริง

 

 

Pic : Mink147

 

สนุกเกอร์สำหรับเธอคือกีฬา

 

ภาพจำในอดีตของสังคมที่มีต่อผู้คนที่คลุกตัวอยู่ภายในโต๊ะสนุกเกอร์ ปฏิเสธได้ยากเหลือเกินว่านี่คือแหล่งมั่วสุมของกลุ่มคนที่มักจะใช้สถานที่นี้ในการเสพสุขทั้งเรื่องบุหรี่ เหล้า หรือพนัน ไหนจะเป็นแหล่งรวมของผู้มีอิทธิพล นักเลงหัวไม้ที่เราถูกฝังจากภาพยนตร์หรือละครไทย มันจึงกลายเป็นภาพจำด้านลบไปโดยปริยาย แต่ทว่ามิ้งค์กลับเลือกที่จะใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของชีวิตอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เพียงเพราะตั้งมั่นในใจเพียงหนึ่งเดียวว่าเธอจะต้องก้าวขึ้นไปเป็นนักกีฬาอาชีพให้ได้

 

“มันก็พูดยากถ้าจะบอกว่าเมื่อก่อนโต๊ะสนุ๊กมันเป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น เพราะอย่างที่เห็นๆ กันก็คือเข้ามาสูบบุหรี่ กินเหล้า บางคนก็โดดเรียนมาแทงสนุกเกอร์ มีการพนันเกิดขึ้นซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของคนสมัยนั้น มันเลยกลายเป็นว่าคนส่วนใหญ่มองโต๊ะสนุกเกอร์ในด้านลบ สมัยเป็นเด็กหนูก็เห็นมาเกือบทั้งหมดแล้วเพราะต้องไปหาแม่ที่ทำงานอยู่ที่นั่นทุกวันหลังเลิกเรียนมันก็เลยได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นว่าโต๊ะสนุกเกอร์เป็นยังไง”

 

ต้องยอมรับว่ามิ้งค์มีหัวจิตหัวใจที่แน่วแน่ ความฝันที่จะเป็นนักกีฬาอาชีพคือเป้าหมายที่ชัดเจน สิ่งเย้ายวนลวงล่อจากภายนอกไม่อาจกระเทาะเปลือกใจให้แตกร้าว สำหรับมิ้งค์แล้วสนุกเกอร์คือกีฬาชนิดเดียวที่เธอหวังว่าจะนำพาความสำเร็จมาให้

 

 

“ในช่วงนั้นหนูจะต้องซ้อมทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียน โดยจะมีพี่บิ๊ก สระบุรี เป็นคนที่วางรูปแบบการซ้อมเอาไว้และให้คุณพ่อเป็นคนควบคุมดูแล คือหนูจะอยู่ในสายตาของคุณพ่อคุณแม่ตลอดเวลาและโต๊ะที่ใช้ซ้อมก็อยู่ด้านในสุดของร้านตรงหน้าแคชเชียร์ที่คุณแม่ทำงาน อีกอย่างหนูโฟกัสไปที่การซ้อมเพียงเดียวไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลย อาจจะเพราะเป็นเด็กผู้หญิงด้วยแหละจึงทำให้หนูไม่ค่อยจะสนใจอะไรกับใครตั้งหน้าตั้งตาซ้อมอย่างเดียว”

 

แต่ไม่ว่าอย่างไร ต้องซูฮกหัวจิตหัวใจของมิ้งค์ที่แน่วแน่ จดจ่ออยู่กับสิ่งที่เป็นเป้าหมายในชีวิตเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเพราะเส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลกว่าจะถึงฝั่งฝัน มิ้งค์บอกว่าตลอดสัปดาห์เธอจะทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมสนุกเกอร์ ทุกวันๆ เมื่อถามว่ารู้สึกชินชากับโต๊ะสักหลาดและลูกสนุ๊กหรือไม่เธอบอกว่า มีบ้างในบางครั้งแต่ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อกลับทำให้ความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้น

 

“มันก็มีบางครั้งที่หนูอยากทำกิจกรรมอื่น เพราะหนูเป็นที่ชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว อยากออกไปเล่นกับเพื่อน อยากนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ มีครั้งนึงที่หนูมีปากเสียงกับคุณพ่อเรื่องที่ต้องซ้อมสนุกเกอร์ทุกวันนี่แหละ คุณพ่อก็ตะหวาดแต่ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก หนูก็เข้าใจว่าท่านคงอยากให้เราได้ดีในเส้นทางนี้เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น”

 

Pic : World Snooker Tour 

 

เพราะโชคชะตากำหนดไว้แล้ว

 

อยากที่ทราบ มิ้งค์พยายามฝึกฝนตัวเองอย่างหนักไปกับการซ้อมสนุกเกอร์ แม้ในหลายครั้งจะมีผู้คนที่ไม่เข้าใจถึงความตั้งใจที่เธอฝันไว้และพยายามทัดทานในสิ่งที่เธอฝัน ดูแคลนต่างๆ นานาแต่มิ้งค์ไม่เคยเก็บมาใส่ใจและยังจะสานฝันต่อไปให้สำเร็จ

 

“หลังจากที่หนูซ้อมมาได้ระยะนึงก็เริ่มออกไปแข่งขันในรายการต่างๆ แพ้บ้างชนะบ้างก็เริ่มคิดแล้วว่าเราจะต่อยึดสนุกเกอร์เป็นอาชีพให้ได้เพราะหนูมองไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ใช่เรื่องเรียนก็เห็นจะมีแค่สนุกเกอร์เท่านั้นที่หนูทำได้ดี เพราะตอนเด็กๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าโตมาจะเป็นอะไร หมอ ครู อะไรพวกนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำได้ดีมั้ย ก็มีแต่สนุกเกอร์นี่แหละที่ทำให้พอจะมีความหวัง”

 

แต่เส้นทางที่มิ้งค์จะต้องก้าวไปนั้นยังแสนไกล ด้วยวัยวุฒิ คุณวุฒิที่ต้องยอมรับว่าเธอยังเยาว์วัยนัก ความไม่แน่นอนในชีวิตย่อมเข้ามาเป็นบททดสอบหัวใจของมิ้งค์ว่าเข้มแข็งมากเพียงใดถ้าจะก้าวไปให้ถึงฝัน

 

“หนูตอบไม่ได้ แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะโชคชะตาที่กำหนดให้เราเป็นแบบนั้น คือถ้าตอนนั้นหนูไม่ได้เล่นสนุกเกอร์หรือถ้าทำไม่สำเร็จก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรในตอนนี้ อย่างที่หนูบอกว่าโชคชะตามันกำหนดมาให้เป็นแบบนั้นก็เพราะมันมีความบังเอิญครั้งนึงตอนที่หนูต้องสอบเข้ามัธยมปลาย ซึ่งจริงๆ ก็ยังอยากจะเรียนต่อจึงคุยกับครอบครับว่าถ้าสอบไม่ได้หนูก็จะไปเอาดีทางสนุกเกอร์เลย เชื่อมั้ยว่าหนูไปสอบถึงสองครั้งแต่ทำไม่ได้ทั้งสองครั้งหนูเลยคิดว่าโชคชะตากำหนดให้หนูได้เป็นนักสนุกเกอร์แต่ๆ แล้ว”

 

Pic : World Snooker Tour 
Pic : World Snooker Tour 

 

‘เพราะโชคชะตา’ มิ้งค์ย้ำคำนี้เสมือนว่าเธอเชื่อไปแล้วว่าเพราะเส้นทางชีวิตของเธอมีใครสักคนกำหนดไว้ให้เธอเดิน แต่ความเป็นจริงน่าจะเป็นเพราะความตั้งใจในการฝึกซ้อมบวกกับความแนวแน่ในที่จะเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพให้ได้ ตรงนี้ที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จอย่างที่ใจหวัง

 

หลังจากที่มิ้งค์จำเป็นต้องหันหลังให้กับการเรียน เธอจึงเดินทางไปชุบตัวเพื่อฝึกปรือศาสตร์กีฬาสนุกเกอร์ไกลถึงอำเภอศรีราชา ชลบุรีภายใต้การดูแลของ ‘อาจารย์ พิสิษฐ์ จันทร์ศรี’ หรือ ‘หยิก สำโรง’ ที่ช่วยสอนกลเม็ดเคล็ดลับต่างๆ ให้กับมิ้งค์ พร้อมกับเพื่อนซี้อย่าง ‘ใบพัด ศรีราชา’ ศิริภาพร นวนทะคำจันทร์ ที่ร่วมฝึกซ้อมด้วยกันมากระทั้งฝีไม้ลายมือไปเข้าตาผู้ใหญ่ในสมาคมกีฬาสนุกเกอร์แห่งประเทศไทย จนทำให้มิ้งค์ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติในที่สุด

 

ความฝันของมิ้งค์สำเร็จไปแล้วหนึ่งขั้น เธอบอกว่ามันคือบันไดขั้นสำคัญที่จะต่อยอดไปสู่การเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพและก็เหมือนอย่างที่มิ้งย้ำเสมอ ‘เพราะโชคชะตากำหนดไว้แล้ว’ ทำให้ในเวลาต่อมามิ้งค์ได้ก้าวเข้าสู่แวดวงกีฬาอาชีพเต็มตัวด้วยวัยเพียง 21 ปี

 

 

Pic : Mink147

 

เส้นทางสายอาชีพที่พลิกชีวิต ‘มิ้งค์ สระบุรี’

 

เมื่อโอกาสมาถึงมิ้งค์ไปปล่อยให้หลุดมือ เธอคว้ามันไว้และกอดแนบอกจนแน่นเพราะรู้ดีว่าภาพฝันที่วาดไว้ตั้งแต่เด็กกำลังจะเป็นจริงในอีกไม่ช้า

 

“ในนามทีมชาติมันทำให้หนูมีโอกาสได้ออกไปแข่งในรายการต่างประเทศมากขึ้น จนมีไฮน์เอน สนุกเกอร์เข้ามาสนับสนุนในส่วนของการนำเราไปแข่งในอาชีพ ต้องบอกก่อนว่าประเทศไทยเองไม่ค่อยส่งผู้หญิงเข้ามาแข่งขันในระดับอาชีพ เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก แข่งสัปดาห์เดียวรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วใช้เงินประมาณ 1 แสนบาท โชคดีที่ไฮน์เอนเข้ามาช่วยในเรื่องนี้จึงทำให้หนูโฟกัสไปที่การแข่งขันได้อย่างเต็มที่ เพราะว่าการแข่งขันจะเป็นแบบเก็บคะแนนสะสมและจะมีเฉพาะประเทศอังกฤษเท่านั้นและเงินรางวัลที่ได้ก็น้อยมากแค่ 3-4 หมื่นบาทเท่านั้นเอง”

 

แรกเริ่มเดิมที่แล้ว มิ้งค์ อยู่ภายใต้ความดูแลของสมาคมฯ ก่อนที่ ‘ไฮน์เอน สนุกเกอร์’ จะยื่นข้อเสนอที่มิ้งค์ยากจะปฏิเสธ ให้การสนับสนุนให้เธอไปเล่นลีกอาชีพโดยที่ไม่จำเป็นต้องควักกระเป๋าสักสตางค์แดงเดียว การเดินทาง ที่พักอาศัย ไฮน์เอนจะเป็นผู้จัดการให้ทั้งหมด ส่วนเธอมีหน้าที่แค่ทำตามฝันให้ได้ ท้ายที่สุดมิ้งค์ก็ตอบแทนในความเชื่อมั่นด้วยการคว้าแชมป์โลกสนุกเกอร์อาชีพหญิง นอกจากนี้ยังจับคู่ นีล โรเบิร์ตสัน ช่วยกันคว้าแชมป์โลกสนุกเกอร์คู่ผสม ทั้งหมดทำสำเร็จด้วยวัยเพียง 22 ปีนับว่าเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สนุกเกอร์โลก

 

“ไม่มีใครรู้เลยว่าการที่หนูไปแข่งในสนุกเกอร์อาชีพหนูจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน หรืออาจจะทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความไว้ใจและตัวเราก็ต้องการที่จะทำฝันให้สำเร็จมันจึงเป็นความท้าทายที่หนูจะต้องทำให้ได้ เพราะว่ามันคือฝันตั้งแต่เด็ก เราฝึกซ้อมมาก็เพื่อสิ่งนี้ การไต่เต้าเก็บคะแนนกว่าจะถึงจุดนี้ได้มันไม่ง่ายเลย และสิ่งที่ไฮน์เอนเสนอมานั้นเขาก็ไม่คิดจะเอาอะไรจากหนูเลย ค่าใช้จ่ายออกให้ทั้งหมดแม้กระทั้งเงินรางวัลก็ให้หนูเก็บไว้เพื่อจุนเจือครอบครัวไปเลยเต็มๆ”

 

Pic : Mink147

 

การเติมเต็มความฝันในวัยเยาว์ของมิ้งค์สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างอย่างสมบูรณ์แบบ หลายสิ่งอย่างที่ขัดสนในอดีตด้วยความที่ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย ประกอบอาชีพด้วยการหาเช้ากินค่ำ ขาดแคลนในบางสิ่ง ณ วันนี้ มิ้งค์ได้ทำให้ครอบครัววงศ์หฤทัยไม่ต้องลำบากอีกต่อไปแล้ว เงินทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากความสามารถในด้านสนุกเกอร์ของเธอถูกถ่ายโอนให้กับบุพการีทั้งหมด เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณที่ช่วยฟูมฟักให้ชื่อ ‘มิ้งค์ สระบุรี’ กลายเป็นที่จดจำ

 

“แม้ว่าการเป็นนักกีฬาสนุกเกอร์อาชีพจะเป็นเป้าหมายแรกของหนูตั้งแต่เด็ก แต่จริงๆ แล้วหนูต้องการที่จะสร้างความมั่นคงให้กับครอบครับ ไม่ต้องปากกัดตีนทืบอีกต่อไปแล้ว อยากมีบ้าน มีรถเหมือนครอบครัวอื่นๆ เขามีกัน มีรายได้ประจำในแต่ละเดือนมาจุนเจือครอบครัวไม่จำเป็นต้องรวยมากขอแค่ให้ครอบครัวอยู่สุขสบายไม่ต้องมาลำบากเหมือนเมื่อก่อน การที่หนูประสบความสำเร็จในครั้งนี้สิ่งที่เป็นผลตามมาก็คือครอบครัวของหนู กับการที่เราต่อสู้ฟันฝ่ามาและได้มายืนอยู่จุดนี้ก็ถือว่าพอใจมากแล้ว”

 

นี่คือท้องฟ้าที่สดใสหลังห่าฝนพัดผ่านไป ความสำเร็จที่มิ้งค์ทำได้ในวันนี้เป็นผลมาจากความพยายามและความสามารถรวมถึงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณที่หวังเสมอว่าจะทำให้ครอบครัววงศ์หฤทัยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โชคชะตาคือส่วนผสมที่ทำให้ฝันเป็นจริง แต่อย่างไรก็ตามความแน่วแน่ตั้งใจเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้มิ้งค์มายืนอยู่จุดนี้ จุดที่คำว่าแชมป์โลกหญิงคนแรกของไทยได้ถูกกล่าวขานในวงการสนุกเกอร์โลก


stadium

author

จิรวัฒน์ จามะรี

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose