stadium

5 เรื่องน่ารู้ก่อนดูศึกแห่งศักดิ์ศรี บัวขาว VS ซาโตะ

19 ตุลาคม 2565

เป็นที่จับตามองอีกครั้งสำหรับวงการมวย ล่าสุดศึกราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ RWS รายการที่กำลังได้รับความนิยมจากแฟนๆชาวไทยหลังจากนำนักมวยชื่อดังต่างๆอาทิ บัวขาว บัญชาเมฆ, โคตะ มิอุระ มาชกให้แฟนๆหมัดมวยทุกคนได้รับชมความมันส์  รวมถึงการกลับมาระเบิดศึกแห่งศักดิ์ศรีครั้งสำคัญกับแมตช์ล้างตา ของ “บัวขาว” กับโอกาสดับแค้น “ซาโตะ” นักชกคนเดียวในโลกที่เคยน็อคบัวขาวหลับกลางอากาศเมื่อ 14 ปีก่อน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูเรื่องที่น่าสนใจ รวมถึงความเป็นมาก่อนจะเปิดสังเวียนในครั้งนี้

 

 

โยชิฮิโระ ซาโตะ คือใคร ?

 

“โยชิฮิโระ ซาโตะ” เกิดในนาโกย่าจังหวัดไอจิประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 มกราคม 1981 ปัจจุบันอายุ 41 ปี เป็นนักมวยคิกบ็อกซิ่งชาวญี่ปุ่นที่แข่งขันใน K-1 ในรุ่นมิดเดิ้ลเวต 70 กิโลกรัม ซาโตะเริ่มฝึกชกมวยในปี 1994 ในขณะที่อยู่มธัยมปี 2 เริ่มฝึกฝนกับเพื่อนๆในโรงเรียน แต่การขึ้นชกครั้งแรกในชีวิตกลับไม่สวยงามเท่าไหร่ พ่ายแพ้ไปอย่างยับเยิน 

 

หลังจากนั้นก็เริ่มเอาจริงเอาจังไปเรียนมวยที่ "Nagoya JK Factory" โรงยิมคิกบ็อกซิ่งใกล้บ้านของซาโตะ และเริ่มเรียนคิกบ็อกซิ่ง ต่อจากนั้นก็กลับมาลงแข่งขันและชนะการแข่งขันในศึก Glove Karate Open Championship ด้วยวัยเพียง 16 ปี และเป็นนักชกคิกบ็อกซิ่งมืออาชีพที่ชกมาตั้งแต่ปี 2002 ก่อนจะหันเข้าสู่วงการ K-1 ในปี 2005 หลังจากบัวขาวเพียง 1 ปี และกลายเป็นนักมวยที่มีสปอร์ตไลท์สาดส่องด้วยการชกที่ว่องไวเอาชนะนักชกชาวไทยอย่าง “ก้าวไกล แก่นนรสิงห์” มาแล้ว

 

 

ด้วยฝีมือที่พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วนักชกชาวญี่ปุ่นจึงได้ฉายา “Mugen Sniper” ซึ่งมีหมายความว่า “ไอ้หมัดสไนเปอร์" ด้วยความยาวของร่างกายแถมรวดเร็ว และการออกอาวุธที่แม่นยำ การปล่อยหมัดที่รุนแรงสยบคู่ต่อสู้ได้อย่างชะงัด ในช่วงที่พีคๆครั้งหนึ่งในยุคนั้น ซาโตะยังเป็นนักชกที่ไม่เคยเสียท่าให้นักมวยไทยเลยแม้แต่หนเดียว สมกับมีดีกรีเป็นถึง อดีตแชมป์มวยไทย World Kickboxing Association (WKA) และ World Professional Kickboxing (WPKC) และแชมป์มวย K-1  2 สมัย

 

 

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ซาโตะอายุ อายุ 41 ปี รุ่นราวคราวเดียวกับบัวขาว แต่เรื่องของการดูแลตัวเองถือว่ายอดเยี่ยมทั้งรูปร่างสูงและแข็งแรงอย่างนักกีฬาที่ดูแลสภาพร่างกายให้พร้อมขึ้นสังเวียนอยู่เสมอ การฟิตซ้อมของซาโตะยังคงความรอบจัดในการออกอาวุธเร็ว ยาว และแม่นยำ พร้อมที่จะส่งคู่ต่อสู้ให้ลงไปนอนได้ทุกเมื่อ ทว่าบุคลิกเมื่ออยู่นอกสังเวียนกลับเป็นหนุ่มใหญ่มาดดีในแบบผู้คงแก่เรียน ทั้งยังมีงานอดิเรกที่พิเศษตรงที่เขากำลังสนใจศึกษาอย่างลึกซึ้งในเรื่องความหมายของอักษรญี่ปุ่น ลุคที่เห็นแบบนี้ใครจะไปคิดว่าเป็นนักสู้หมัดหนักน็อกคู่ต่อสู้มานักต่อนัก

 

 

 

 

บุรุษหนึ่งเดียวที่เคยน็อค บัวขาว

 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 บัวขาว บัญชาเมฆ ได้ไปชกในเวที K-1 ครั้งแรก และจากนั้นวงการ K-1 ก็สั่นสะเทือนญี่ปุ่น ทั้งความแข็งแกร่งไร้เทียมทาน ไล่ปราบนักชกญี่ปุ่นมาไม่รู้กี่ราย จนบัวขาวสามารถคว้าเเชมป์รายการ K-1 World MAX 2004 World Tournamen หลังเอาชนะ มาซาโตะ โคบายาชิ ในรอบชิงชนะเลิศ ชื่อเสียงก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ

 

ความเป็นจริงแล้วในปี 2006 บัวขาวนั้นเคยขึ้นชกกับซาโตะมาแล้ว เป็นบัวขาวที่เอาชนะคะแนนมา แต่ทว่าคนส่วนใหญ่กลับจำไฟต์ที่โดนน็อคซะมากกว่า ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นในศึก K1 World Max 2008 รอบ 8 คนสุดท้ายที่ Nippon Budokan Arena กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น  เปิดสังเวียนเป็น บัวขาวเป็นฝ่ายเดินเข้าหาซาโตะก่อนตลอด 2 ยกแรก ใช้อาวุธหนักทั้ง หมัด เตะ ลูกทีบและการวางแข้งอย่างหนักหน่วง แต่ซาโตะในวันนั้นต้องนับถือว่าแข็งแรงที่ อึด ทึก ทน พอสมควร และเก็บแรงในช่วงสองยกแรก และค่อยมาปล่อยของในช่วงกลางยกสุดท้ายเปลี่ยนจากการตั้งรับ เป็นใส่เกียร์เดินลุยเข้าใส่บัวขาว จนสุดท้ายบัวขาวก็เริ่มออกอาการอ่อนแรงให้เห็นจากการโหมปล่อยอาวุธหนักแบบรัว ๆ ซาโตะจึงปล่อยหมัดฮุกขวาเข้าที่คาง จนบัวขาวหลับกลางอากาศ แพ้น็อคไปในทันที

 

 

14 ปีแห่งความแค้นที่รอการชำระ

 

ในประวัติศาสตร์การชกมากกว่า 300 ไฟต์ของบัวขาวนั้น มีคำว่าแพ้น็อค K.O. ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต เหมือนเป็นการสร้างบาดแผลให้โปร์ไฟล์สถิติการชกของ บัวขาว ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นอีก 5 ปีบัวขาวจะมีโอกาสแก้มือกับซาโตะอีกครั้งแต่ก็ทำได้เพียงแค่ชนะคะแนน ความเจ็บลึกในใจจึงยังคงถูกเก็บไว้มาถึงปัจจุบันจะใช้คำว่าล้างแค้น ก็พูดได้ไม่ถนัดสักเท่าไหร่ ซึ่งถ้าจะหาโอกาสที่เหมาะสมที่สุดในการล้างแค้นก็คงจะเป็นไฟต์นี้เท่านั้น

 

 

 

ความแตกต่างระหว่าง มวยไทย – คิกบอกซิ่ง

 

บางคนอาจจะมองว่าสองอย่างนี้คือสิ่งเดียวกันระหว่าง มวยไทยและคิกบอกซิ่ง แต่ว่าความเป็นจริงแล้วทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแม้จะมีการจัดแข่งกันบ่อยในมวยยุคปัจจุบัน ซึ่งมวยไทยนั้น จะมีการออกอาวุธที่หนักกว่า ไม่ว่าจะเป็น หมัด เข่า เท้า ศอก สามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกาย จึงอันตรายมากกว่าพอสมควร แต่คิกบอกซิ่งที่แตกต่างจากมวยไทยคือต้องออกอาวุธให้มากกว่าคู่ต่อสู้และเข้าเป้าชัดเจนกว่าถึงจะชนะ ส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้กอดกันแบบมวยไทย ใช้ได้แค่ หมัด กับเท้า มีพื้นฐานมาจากการเตะและการชกซึ่งพัฒนามาจากคาราเต้ผสมกับชกมวยในอดีต

 

 

เจ้าถิ่น เปิดก่อนได้เปรียบ

 

จากที่เคยไปแพ้น็อคในแดนปลาดิบ ครั้งนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีได้เป็นเจ้าบ้านในการจัดการแข่งขัน เวลาผ่านไป 14 ปี ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในศึกราชดำเนินเวิลด์ซีรีส์ RWS กับเวทีอันเกียรติแห่งนี้ โดยแมตซ์ล้างตาครั้งนี้เป็นการแข่งขันในรูปแบบ Exhibition Kickboxing Match หรือการต่อสู้สาธิตที่ไม่มีการตัดสินแพ้ชนะอย่างเป็นทางการ แต่กติกาของแมตช์นี้อนุญาตให้น็อคคู่ต่อสู้ได้ มีเท่าไหร่ใส่ได้หมด

 

และเป็นโอกาสที่บัวขาวจะได้ใช้เวลา 3 ยกในการต่อสู้เพื่อสร้างภาพจำชุดใหม่ให้แฟนๆได้ลุ้นกันชนิดที่เรียกได้ว่าลืมหายใจ บัวขาวจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมหรือไม่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแฟนมวยไม่ควรพลาดแมตซ์นี้นั่นเอง

 


stadium

author

อดิศักดิ์ คูวัฒนากุล

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose