stadium

ทำความรู้จัก เขมินท์ คูโบะ นักบิดสายเลือดไทยในโมโตทู ผู้ไม่ยอมแพ้

30 กันยายน 2565

“ระดับโลกไม่มีอะไรง่ายหรอกครับ ใครไม่เคยมาก็คงไม่เชื่อ แต่อยากให้ลองมาเจอกับตัวเองแล้วจะรู้เลยว่า ขึ้นชื่อว่าเวิลด์แชมเปี้ยน แต่ละคนไม่ธรรมดาทั้งนั้น ใครยอมก่อนก็บายไป ผมก็สู้เต็มที่ทุกครั้ง ไม่เคยหยุดเรียนรู้”

 

นี่คือคำพูดของ “เคเค” เขมินท์ คูโบะ เมื่อถามถึงประสบการณ์ฤดูกาลแรกในการลงแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ในรุ่นโมโต 2 ภายใต้สังกัดยามาฮ่า วีอาร์โฟร์ตี้ซิกซ์ มาสเตอร์แคมป์ ทีม (Yamaha VR46 Master Camp Team) ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่ยามาฮ่า ร่วมมือกับ วาเลนติโน่ รอสซี่ ตำนานนักบิดโมโตจีพี เจ้าของแชมป์โลก 9 สมัย เปิดทางให้นักบิดดาวรุ่งฝีมือดี ทั้งจากยุโรปและเอเชีย ได้ไปเฉิดฉายในเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ โดยปีนี้เป็นซีซั่นแรกที่ทีมขยับจากการแข่งขันในซีอีวี จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพ (CEV Junior Championship) หรือ จูเนียร์จีพี (JuniorGP) ในปัจจุบันมาสู่โมโตจีพี

 

 

IG : k.kubofumi_81

 

ลูกไม้หล่นใต้ต้น

 

จุดเริ่มต้นความสนใจในกีฬา 2 ล้อของ “เคเคซัง” จะเรียกว่าส่งต่อมาทางสายเลือดก็ไม่ผิด เพราะคุณพ่อเป็นอดีตนักบิด จึงทำให้ได้จับรถตั้งแต่วัยเพียง 3-4 ขวบเท่านั้น จนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ประกอบกับการสนับสนุนจากครอบครัวที่ส่งเสริมเต็มที่ ทำให้ เขมินท์ ได้เริ่มแข่งขัน แล้วค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ จากการชิงแชมป์ระดับประเทศ สู่รายการระดับทวีปเอเชียอย่าง เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง รุ่นซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี 2 ฤดูกาลคือ 2017 และ 2018 ให้กับยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ซึ่งหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น สามารถคว้าโพเดียมมาครองได้ด้วย ทำให้ได้รับการจับตามอง

 

 

IG : k.kubofumi_81

 

เข้าสำนักพ่อหมอ “วาเลนติโน่ รอสซี่”

 

ฤดูกาล 2019 เขมินท์ ได้รับเลือกเข้าสู่ทีม วีอาร์ โฟร์ตี้ซิกซ์ มาสเตอร์แคมป์ หลังจากที่ได้ไปร่วมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในซีซั่นก่อนหน้านั้น ลงแข่งขันรายการ ซีอีวี โมโต 2 ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งแม้ว่าจะต้องไปต่อกรกับนักบิดในยุโรป แต่ “เคเคซัง” ก็ทำได้ดีเกินคาด ประเดิมปีแรกด้วยการคว้าอันดับ 9 เก็บได้ 56 คะแนนจากการแข่งขันทั้งหมด 11 เรซ 

 

ปีต่อมา เขมินท์ ไม่ได้ลงแข่ง 4 เรซแรกเนื่องจากสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดทั่วโลก ทำให้การเดินทางไปต่างประเทศ ณ เวลานั้นยังเป็นอุปสรรค แต่ถึงอย่างนั้น ในอีก 7 เรซที่เหลือ เขมินท์ ก็ยังโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม ชนิดมีลุ้นโพเดียมถึง 4 ครั้ง ก่อนจะจบฤดูกาลในตำแหน่งท็อป 9 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

 

 

IG : k.kubofumi_81
IG : k.kubofumi_81

 

ชิมลางเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ด

 

ผลงาน 2 ปีที่ผ่านมาของ เขมินท์ คูโบะ นับว่าเข้าตาฝ่ายจัดการแข่งขัน เป็นหนึ่งในนักบิดดาวรุ่งอนาคตไกล ก่อนจะได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ด ลงแข่งขันในเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ครั้งแรกในชีวิต ในกาตาลัน กรังด์ปรีซ์ ที่บาร์เซโลน่า กาตาลุญญา เซอร์กิต มอนต์เมโล ประเทศสเปน ต้นเดือนมิถุนายน 2021

 

แม้ว่า เขมินท์ จะไม่มีแต้มในเรซนั้น แต่การได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดลงแข่งในสนามที่ไม่ใช่บ้านเกิดของตัวเอง ก็ทำให้สื่อต่างชาติให้ความสนใจไม่น้อย และเริ่มมีการคาดเดาเบื้องต้นว่าเจ้าของรถหมายเลข 81 อาจเป็นนักบิดไทยคนต่อไป ที่จะมาร่วมชิงชัยในระดับโลก ซึ่งนั่นก็กลายเป็นความจริงในปีต่อมา

 

 

IG : k.kubofumi_81
IG : k.kubofumi_81

 

ความท้าทายครั้งใหญ่ : โมโต 2 

 

2022 ยามาฮ่า และ วีอาร์ โฟร์ตี้ซิกซ์ มาสเตอร์แคมป์ ประกาศยุบทีมในยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ เพื่อเข้าสู่การแข่งขันในระดับเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่ง เขมินท์ คูโบะ เป็นหนึ่งในนักบิดที่ได้รับเลือกให้ลงแข่งขันรุ่นโมโต 2 ร่วมกับ มานูเอล กอนซาเลซ นักบิดสเปน สร้างความภูมิใจให้ยามาฮ่า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รวมถึงแฟน ๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ที่ได้เห็นนักบิดมากความสามาถจากไทย ลงแข่งในรายการชิงแชมป์โลก

 

ก้าวสำคัญครั้งนี้สำหรับ เขมินท์ คือฝันที่เป็นจริง เพราะตั้งแต่เด็ก ๆ มีเป้าหมายชัดเจนมาโดยตลอด นั่นคือการได้ร่วมแข่งขันในโมโตจีพี แม้ว่านี่จะยังเป็นรุ่นกลาง แต่ก็เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับ ซึ่ง เคเคซัง ขอบคุณทุกการสนับสนุนและกำลังใจ พร้อมสัญญาว่าจะสู้เต็มที่

 

IG : k.kubofumi_81

 

“ลากเลือด” แต่ผมไม่เคยยอมแพ้

 

ขึ้นชื่อว่าระดับโลก ไม่มีอะไรง่าย แม้จะผ่านประสบการณ์ทั้งในเอเชียและยุโรปมาแล้ว แต่เมื่อต้องมาวัดกับบรรดาหัวกะทิของแต่ละประเทศ ก็ไม่ต่างอะไรจากการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ ที่ไม่ใช่แค่ 4 ปีครั้ง แต่ดวลกัน 20 สนามต่อฤดูกาล เพื่อแย่งแชมป์โลกที่มีได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

 

“ลากเลือด ต้องใช้คำนี้เลย” คือคำตอบว่าฤดูกาลแรกในเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ หนักหนาแค่ไหน ทั้งการปรับตัวให้เข้ากับรถและทีมงาน เวลาที่มีจำกัดแต่ละสัปดาห์เพื่อเรียนรู้สนามใหม่ ๆ ความกดดันที่ต้องเผชิญ ตลอดจนสภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ล้วนเป็นความท้าทายที่ เขมินท์ ต้องรับมือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในฐานะนักแข่ง

 

อย่างไรก็ตาม จิตใจของนักบิดหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นคนนี้ ทั้งเด็ดเดี่ยวดังซามูไรแห่งแดนอาทิตย์อุทัยและแข็งแกร่งดังหินผา พร้อมตั้งรับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาเป็นบททดสอบ และไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ก็พร้อมลุกขึ้นอย่างเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม เพราะในเส้นทางการเป็นนักแข่ง หากยอมแพ้ก็คงไม่ได้ไปต่อ ซึ่งคำว่า “ยอมแพ้” ไม่เคยเป็นทางเลือกของผู้ชายชื่อเขมินท์ คูโบะ

 

IG : k.kubofumi_81

 

โฮมเรซครั้งแรกบนเวทีระดับโลก

 

สุดสัปดาห์นี้ จะเป็นการแข่งขันโฮมเรซครั้งแรกของ “เคเค” ในระดับเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งแฟน ๆ ชาวไทยก็พร้อมจะส่งกำลังใจและหวังจะได้เห็นนักบิดไทยขึ้นโพเดียม แน่นอนว่าได้มาแข่งต่อหน้าแฟนคลับในบ้านครั้งแรก “เคเค” พร้อมสู้เต็มที่ แต่อีกหนึ่งตัวแปรที่อาจทำให้เรซนี้น่าสนใจ รวมถึงเพิ่มโอกาสให้ เขมินท์ มีลุ้นติดท็อป 3 คือสภาพอากาศที่อาจมีฝนตกลงมาในช่วงแข่งขัน เพราะ เขมินท์ เป็นหนึ่งในนักบิดที่ขี่สนามฝนได้ดี การคว้าแต้มครั้งแรกในเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่โปรตุเกส ก็เป็นเรซที่มีฝนตกลงมา รวมถึงสัปดาห์ก่อนที่สนามโมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ในรอบควอลิฟายที่มีฝนเช่นกัน “เคเคซัง” คว้ากริดที่ 9 เป็นอันดับออกสตาร์ทดีที่สุดในระดับโลกมาได้

 

ร่วมกันส่งกำลังใจให้ “เคเค” เขมินท์ คูโบะ ในการแข่งขันโออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สุดสัปดาห์นี้ 30 กันยายน – 2 ตุลาคม และรอวันที่ความมุ่งมั่นทุ่มเทของนักบิดวัย 23 ปีคนนี้ จะผลิดอกออกผล เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย


stadium

author

Une Boonmee

StadiumTH Content Creator

โฆษณา