เพื่อสุขภาพ : ประโยชน์ 10 ข้อของการดื่ม “น้ำเปล่า”

เมื่อพูดถึงน้ำ เป็นสิ่งที่เรารับเข้าสู่ร่างกายเป็นสิ่งแรกๆ ตั้งแต่มีชีวิต การดื่ม “น้ำเปล่า” มีประโยชน์มากกว่าแค่ดื่มเพื่อดับกระหายคลายร้อน แต่หลายคนกลับคิดว่าหากดื่มน้ำประเภทอื่น เช่น ชา กาแฟ นมเปรี้ยว นม เครื่องดื่มชูกำลัง หรือ น้ำอัดลม สามารถทดแทนการดื่มน้ำเปล่าได้ แต่หารู้ไม่ว่าการไม่ดื่มน้ำเปล่าเป็นระยะเวลานานติดต่อกันอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวจนถึงขั้นเสียชีวิต

ถูกใจใช่ถูกต้อง

เราถูกสอนตั้งแต่เด็กว่าให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตร ต่อวัน แต่ผลการวิจัยพบว่าคนจำนวนมากละเลยการดื่มน้ำเปล่า หรือดื่มน้อยเกินกว่าความต้องการของร่างกาย แต่กลับหันไปดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นที่มีรสชาติถูกใจมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลมเย็นๆ ชานม กาแฟ น้ำผลไม้ น้ำหวาน น้ำเกลือแร่ ฯลฯ เพราะคิดว่ามันทดแทนน้ำเปล่าได้ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะเมื่อเราดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้เป็นโรคอ้วนเพราะบริโภคปริมาณน้ำตาลมากเกิน

ภาวะขาดน้ำเรื้อรัง

น้ำเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตรองจากอากาศที่หายใจเข้าไป ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตล้วนประกอบด้วยน้ำ โดยในร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 70% บางคนที่อยากลดน้ำหนักแล้วไปออกกำลังกายพอเหงื่อออกเยอะก็นึกว่าน้ำหนักลง จริงๆ คือมวลน้ำในร่างกายถูกขับออกทางเหงื่อมากกว่า นักวิทยาศาสตร์พบว่ามนุษย์สามารถอยู่ได้ประมาณ 3 สัปดาห์โดยไม่กินอะไรเลย แต่อยู่ได้เพียงแค่ 3 วันถ้าไม่ดื่มน้ำ

สภาวะขาดน้ำและเสียชีวิตได้ เมื่อเราดื่มน้ำน้อยเกินไป ร่างกายจะพยายามดิ้นรนปรับตัวกับภาวะขาดน้ำเรื้อรังอยู่ภายในเงียบๆ ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรม ในหนังสือ “Your Body’s Many Cries for Water” นายแพทย์ชาวอิหร่าน Fereydoon Batmanghelidj ผู้ที่เชื่อว่าการดื่มน้ำเปล่ามากขึ้นจะช่วยลดการเกิดโรค ได้พูดถึงการขาดน้ำเรื้อรัง (Chronic Dehydration) ว่านำไปสู่โรคไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ ภูมิแพ้ โรคความดัน โรคไต ไมเกรน ได้ และผู้ป่วยโรคลำไส้อักเสบ โรคท้องผูก จะอาการทุเลาลงเมื่อได้ดื่มน้ำ ในบางวิจัยพบว่าอาจนำไปสู่ภาวะเลือดข้นเนื่องจากมีไขมันและน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป จนเส้นเลือดในสมองแตก หรือตีบได้อีกด้วย

ประโยชน์ของน้ำเปล่า

1.แก้ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) โดยเฉพาะในหน้าร้อน หรือ ตอนวิ่งและออกกำลังกาย เพราะร่างกายจะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ

2.ช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญ (Metabolism) ซึ่งในลำไส้ของคนจะปล่อยน้ำเข้ามาทางลำไส้เพื่อช่วยย่อย ถ้าดื่มน้ำเพียงพอจะทำให้กระบวนการย่อยทำงานได้ดีขึ้น

3.แก้ท้องผูก ช่วยขับถ่าย ยิ่งหากดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอน จะช่วยกำจัดไขมันตกค้างและแบคทีเรียได้ดี

4.ช่วยขับน้ำลาย ซึ่งข้อดีคือฆ่าเชื้อโรคในปากและกำจัดกลิ่นปาก

5.ป้องกันไข้หวัด แค่ดื่มน้ำอุ่น ผสมมะนาว หลังอาหารช่วยรักษาอาการหวัดให้ดีขึ้น

6.แก้โรคร้อนใน ปากอักเสบ ฟันผุ เพราะน้ำกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย ฆ่าเชื้อโรคในช่องปาก

7.ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็ง เพราะอาหารถูกลำเลียงจากกระเพาะสู่ลำไส้ได้ง่าย ย่อยง่ายขึ้น ลดการเกิดแก๊สในกระเพาะ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, มะเร็งเต้านม

8.เสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

9.ผิวพรรณดี เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานดี งานผิวดี ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์

10.คลายเครียด ลดอาการปวดศีรษะ ไมเกรน ช่วยให้สดชื่นผ่อนคลาย

ปริมาณน้ำเปล่าที่แนะนำต่อวัน

แม้เราจะถูกสอนมาว่าให้ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว แต่ปริมาณในแต่ละวันของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย ทั้งสภาพแวดล้อม อากาศ ร่างกาย เพศ อายุ และกิจกรรมที่ทำในวันนั้นๆ 

สูตรคำนวณปริมาณน้ำที่แนะนำ/วัน

น้ำหนักตัว x 2.2 x 30/2

ช่วงเวลาที่เหมาะกับการดื่มน้ำเปล่า

1 แก้ว ทันทีหลังตื่นนอน ลดภาวะขาดน้ำขณะนอนหลับ ลดความข้นหนืดของเลือด กระตุ้นการขับถ่าย

1 แก้ว ก่อนมื้อเช้า 10-20 นาที ไม่ดื่มกระชั้นก่อนกินอาหารหรือดื่มทันทีหลังอาหาร เพราะทำให้ปริมาณน้ำในกระเพาะเยอะเกินไป ส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร

2 แก้ว ระหว่างวัน เน้นค่อยจิบทุกๆ 15 นาที ไม่ใช่ดื่มทีเป็นลิตร เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ระดับเกลือโซเดียมในร่างกายต่ำ (Hyponatremia) สมดุลเสีย

2 แก้วตอนเย็น ดื่มก่อนและหลังกินมื้อเย็น โดนเว้นช่วง 15 นาที

1 แก้ว ตอนกลางคืน กระตุ้นการทำงานของระบบเลือดและลำไส้

1 แก้ว ก่อนนอน ชำระล้างสิ่งตกค้างในลำไส้ ป้องกันภาวะขาดน้ำขณะนอนหลับ

ยิ่งสายสุขภาพ สายวิ่งควรต้องจิบน้ำสม่ำเสมอเวลาออกกำลังกาย เช่น ทุกๆ 2 กิโลเมตร อย่าอดเป็นอันขาด ลองคำนวณและปรับให้เหมาะสม ทำจนชินเป็นนิสัย เพื่อสุขภาพที่ดี แข็งแรง สดใส และดูอ่อนวัย

อ้างอิง

https://www.googleadservices.com/pagead/aclk?sa=L&ai=DChcSEwjdjemxkuj5AhXBCisKHQ6jCgIYABADGgJzZg&ohost=www.google.com&cid=CAESauD2PSJ1fozqixpZP6hyyjfcH4eUWZBLZ-mZK7BqiRIr0zq8iYjVcb2EecgGtmGP9oS7v5yHajMX8Wi8DdJrhKJkR-ZsZogUOKgnA2BJ1S0g7sUSpZ7grYpi_hXYjesdnETSUo4iA7r1sG4&sig=AOD64_2Ih1nvMZroQgpt86WJrOrAeKoDTg&q&adurl&ved=2ahUKEwiS_eKxkuj5AhUBRmwGHRimBpAQ0Qx6BAgDEAE&nis=2

https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/090964/