9 สิงหาคม 2565
ตัวแทนความหวังของคนไทยทั้งประเทศ ผู้ที่ออกไปล่าฝันในต่างแดนทั้งยุโรป และญี่ปุ่น กว่าจะเดินมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ผ่านประสบการณ์มาหมดแล้ว ทั้งความสำเร็จที่เคยคว้ามาหรือคำวิจารณ์ความกดดันต่างๆที่ถาโถม ล้วนทำให้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในนักเตะไทยที่ดีที่สุด
จุดเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ
เริ่มเล่นฟุตบอลจากสนามข้างบ้านกับเพื่อนๆ หลังจากได้ผลัดกันเล่นแบบเด็กๆคนหนึ่งเป็นคนยิง อีกคนเป็นผู้รักษาประตู ตองกลับได้รับคำชมจากเพื่อนๆว่ารับลูกฟุตบอลได้ดี อยากลองเล่นตำแหน่งนี้ดูมั้ย ซึ่งวันนั้นอาจจะเป็นวันที่จุดประกายการเล่นฟุตบอลให้กับเขาในตอนนั้น
จากเด็กน้อยที่ไม่ได้มีทักษะเพียงวัย 10 ขวบ ก็ได้ไปเรียนรู้กับโลกฟุตบอลจริงๆจังๆโดยมีคุณแม่ผู้อยู่เบื้องหลัง อาสาพาไปฝึกกับโค้ชเป็นประจำ หลังจากนั้นก็เริ่มต้นเส้นทางกับโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี โดยการพาทีม “เจ้าสัวน้อย” คว้าแชมป์ฟุตบอลขาสั้น จนทำให้สโมสร “ราชประชา” เห็นแววจึงดึงตัวไปร่วมทีมด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น
ไอดอลในวัยเด็ก
หากพูดถึงไอดอลหรือต้นแบบในการเล่นตำแหน่งนี้เขายกให้กับ “โอลิเวอร์ คาห์น” ผู้รักษาประตูชาวเยอรมัน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดนายทวารของโลก ด้วยสไตล์การเล่นที่ ดุดัน แข็งแกร่ง เป็นกัปตันที่พร้อมสั่งลูกทีมให้เอาชนะคู่แข่ง เหมือนกับฉายาที่แฟนๆตั้งให้อย่าง “ไททัน”
ต้องพยายาม ถึงจะได้มา
หากนึกถึงตำแหน่งผู้รักษาประตูฟุตบอล ที่โดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องมีชื่อของเจ้า “ตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์” อย่างแน่นอน เพราะเป็นนักกีฬาอีกหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก คว้าแชมป์กับสโมสรไทยลีกและในนามทีมชาติ และยังเป็นนักฟุตบอลไทยที่ได้ไปค้าแข้งต่างแดนกับทีมดังยุโรปอย่าง โอเอช ลูเวิน ในจูปิแลร์ โปรลีกซึ่งเป็นลีกสูงสุดของเบลเยี่ยม
แต่ว่าความสำเร็จที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ ความทุ่มเท ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อสิ่งที่รักในฟุตบอล เหมือนที่ครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยบอกไว้ว่า “ถ้าเราอยากเก่งกว่าคนอื่น เราก็ต้องซ้อมให้หนักกว่าคนอื่น” นั่นเอง
กวินทร์ บินได้
ตองย้อนความไปเมื่อปี 2010 สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ดได้เดินทางไปแข่ง AFC CUP กับทีมลีกกาตาร์ ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้นทีมจากประเทศไทย ไม่เคยเอาชนะทีมจากกาตาร์ได้เลย แต่แมตซ์นั้นผลสกอร์เสมอในเวลา จึงต้องดวลกันด้วยจุดโทษเพื่อตัดสิน และสุดท้ายเป็นตองที่เซฟจุดโทษพาทีมชนะไปในที่สุด หลังจากเดินทางกลับมาก็ได้ฉายาใหม่ที่แฟนๆชาวไทยตั้งให้เป็น “กวินทร์ บินได้”
ซึ่งฉายานี้ไม่ได้มากันง่ายๆ ทุกอย่างผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างดี โดยนักกายภาพบำบัดทีมชาติไทย “สุวิชชา นอรดี” เล่าว่า อย่างแรกเลยสิ่งที่ตองแสดงในสนามนั้นล้วนมาจาก พละกำลัง แรงระเบิดที่เขาแสดงออกมา เกิดจากความแข็งแรงของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการสปริงข้อเท้า กล้ามเนื้อต้นขา และส่วนอื่นๆในขณะที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ จึงทำให้เขาทำผลงานในสนามได้อย่างยอดเยี่ยม
ความฝันที่ไปถึง
คำว่าประสบความสำเร็จของแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน ซึ่งกวินทร์เอง ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ฝันอยากจะไปเล่นฟุตบอลยุโรปในสักวัน และเมื่อโอกาสมาถึงเขาได้เซ็นสัญญา 5 ปีกับทีม “โอเอชลูเวิน” ลีกในเบลเยี่ยม ไม่เพียงแต่ฝันของหนุ่มคนนี้เป็นจริง แต่เหมือนฝันของชาติยังเป็นจริงอีกด้วยที่มีนักกีฬาไทยได้มีโอกาสไปค้าแข้งในต่างแดน
ปัจจุบันกวินทร์ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การเล่นฟุตบอลในระดับสากลมาไม่น้อย ซึ่งหากจะหาคุณสมบัติรอบด้านของความเป็นนักกีฬา ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์ ฝีมือ วินัย ความเป็นมืออาชีพ ทุกสิ่งล้วนอยู่ในตัว ตอง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ อย่างแน่นอน และทุกอย่างยังคงเดินหน้าต่อไป ฤดูกาลฟุตบอลไทยลีกกำลังจะเริ่มต้น และการหวนคืนสู่สโมสรที่ปลุกปั้นเขามาอีกครั้งอย่าง “เมืองทอง ยูไนเต็ด” โดยตองได้กล่าวไว้ตอนเปิดตัวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติ ตื้นตันใจ อบอุ่นและคิดถึงที่ได้กลับมาบ้านอีกครั้ง” ผมเฝ้ามองการเติบโตของน้องๆทีมเมืองทองฯ ยุคใหม่ที่โค้ชมาริโอ้ ทำทีมได้ดีมากๆ ผมอยากช่วยให้ทีมเมืองทองฯ กลับคืนความสำเร็จอีกครั้งให้ได้ครับ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ อาจทำให้ตองเรียกฟอร์มเทพกลับมา ให้แฟนๆชาวไทยได้รับชมอีกครั้งก็เป็นได้
TAG ที่เกี่ยวข้อง