ส่องสายวอลเลย์บอลชาย โตเกียว เกมส์

การเเข่งขัน "วอลเลย์บอล" ในมหกรรมกีฬา "โอลิมปิกเกมส์" ถือเป็นอีกไฮไลท์สำคัญที่ "เเฟนกีฬาชาวไทย" ให้ความสนใจ เเต่ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่มักที่จะติดตามเฉพาะ "วอลเลย์บอลหญิง" เท่านั้น เหตุผลหลักๆคือ "ทีมลูกยางสาวไทย" ผลงานดีกว่า "ทีมลูกยางหนุ่มไทย" นั่นเอง ทั้งที่ความจริงเเล้ว "เเฟนลูกยางทั่วโลก" ต่างให้ความสนใจในการเเข่งขันของ "ทีมชาย" มากกว่า รวมทั้งมูลค่าทางการตลาดของ "วอลเลย์บอลชาย" ก็ยังสูงกว่า "วอลเลย์บอลหญิง" อีกด้วย 

อย่างเช่นสมัยที่ยังไม่มี "เนชั่นส์ ลีก" รายการประจำที่เเข่งขันกันเป็นประจำทุกปีคือ "เวิลด์ ลีก" จะเป็นของประเภททีมชาย เเละ "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" จะเป็นของประเภททีมหญิง ระบบการเเข่งขันในช่วงเเรกยังไม่อิงกันมากนัก "เวิลด์ ลีก" เล่นกันอย่างเมามันส์ปีละ 6-7 สัปดาห์ ขณะที่ "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" เล่นกันเเค่ 4 สัปดาห์ เเสดงให้เห็นชัดเจนว่าความนิยมเเละกระเเสตอบรับต่างกันพอสมควร ยิ่งไปกว่านั้นคือเรื่องของเงินรางวัล "ทีมเเชมป์" ที่ต่างกันถึง 5 เท่า โดยในรายการ "เวิลด์ ลีก" จะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 30 ล้านบาท(คิดกลมๆเป็น เหรียญละ 30บาท) ส่วนทีมหญิง "เวิลด์ กรังด์ปรีซ์" จะได้เงินรางวัล 2 เเสนเหรียญฯ หรือประมาณ 6 ล้านบาท 

"วอลเลย์บอลชาย" ในมหกรรมกีฬา "โอลิมปิกเกมส์ 2020" ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ไม่ต่างอะไรจาก "วอลเลย์บอลหญิง" โดยจะมีทั้งหมด 12 ชาติเข้าร่วมเเข่งขัน ประกอบด้วย "เจ้าภาพ" ญี่ปุ่น เเละอีก 11 ทีมจากรอบคัดเลือก รอบเเรกเเบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม เเละคัดเอา 4 ทีมที่ดีที่สุดของกลุ่ม ผ่านเข้าไปแข่งขัน รอบก่อนรองชนะเลิศ(8 ทีมสุดท้าย) 

กลุ่มเอ ประกอบด้วย "เจ้าภาพ" ญี่ปุ่น, "รองเเชมป์เก่า" อิตาลี, "เเชมป์โลก" โปแลนด์, "ตัวเเทนเอเชีย" อิหร่าน, แคนาดา และ "ตัวเเทนอเมริกาใต้" เวเนซุเอลา ขณะที่ กลุ่มบี ประกอบด้วย "เเชมป์เก่า" บราซิล, สหรัฐอเมริกา, "เเชมป์เนชั่นส์ ลีก" รัสเซีย, อาร์เจนตินา, ฝรั่งเศส เเละ "แชมป์แอฟริกา" ตูนิเซีย

ต้องยอมรับว่า "เจ้าภาพ" ญี่ปุ่น ไม่ได้เปรียบทีมอื่นมากนัก เพราะว่ารูปร่างค่อนข้างเล็กมากเมื่อเทียบกับทีมอื่นๆ จึงพร้อมจะเเพ้ทุกทีมที่ต้องเจอในรอบเเบ่งกลุ่ม เเละอีกเหตุผลหนึ่งคือ "หนุ่มปลาดิบ" ไม่จัดว่าเป็นทีมระดับเเนวหน้าของวงการเหมือน "สาวปลาดิบ" เท่ากับว่าไม่มีทีมไหนเลยที่ดูจะเป็นรองพวกเขาเเบบชัดเจน รวมทั้งมาตรฐานของ "วอลเลย์บอลชาย" ยังค่อนข้างสูสีกันมากกว่า "วอลเลย์บอลหญิง" ทุกทีมสามารถเเพ้ชนะกันได้ทั้งนั้น ไม่เฉพาะเเต่กับการเจอ ญี่ปุ่น

กลุ่มเอ "รองเเชมป์เก่า" อิตาลี เเละ "เเชมป์โลก" โปแลนด์ คือ 2 ตัวเต็งที่น่าจะมีโอกาสผ่านเข้าสู่ รอบน็อคเอาท์ ได้แบบไม่น่ายาก เพราะว่ามาตรฐานการเล่นของทั้งคู่ถือว่าดีมาก รวมทั้งยังมีประสบการณ์มากมายในเวทีระดับโลก "หนุ่มมะกะโรนี" ทีเด็ดอยู่ที่ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นเเนวรุก ส่วนทาง "หนุ่มโปล" ขึ้นชื่อลือชาเรื่องของ "ทีมเวิร์ค" ภายใต้การดูเเลของ "โค้ชมือดี" วิตัล เฮย์เน่น ซึ่งประกาศไว้เเล้วว่าจะต้องไปสู่ รอบชิงชนะเลิศ "โตเกียวเกมส์" ให้ได้

ขณะที่ 2 โควต้าสุดท้าย น่าจะเบียดเเย่งกันระหว่าง ญี่ปุ่น, อิหร่าน เเละ เเคนาดา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า 2 ทีมจากเอเชีย อาจต้องมาชิงตั๋วใบสุดท้ายกันเอง เพื่อทะลุผ่านเข้าสู่ รอบน็อคเอาท์ เพราะว่า เเคนาดา เป็นทีมที่มีศักยภาพเเข็งเเกร่งมาก รวมทั้งยังเคยเอาชนะ "ทีมชั้นนำ" มาเเล้วหลายต่อหลายครั้ง ส่วนทาง เวเนซุเอลา คงจะกาชื่อทิ้งไปได้เลย เพราะว่าดูจากชื่อชั้นเเละประสบการณ์ที่ผ่านมาเเล้ว ยังจะเป็นรองทั้ง 3 ทีมข้างต้นพอสมควร 

ย้ายมาดูที่ กลุ่มบี น่าจะต้องกาชื่อของ ตูนิเซีย ออกเป็นทีมเเรก เพราะว่าเป็นทีมที่เเข็งเเกร่งน้อยที่สุดในกลุ่ม รวมทั้งมาตรฐานการเล่นของ "โซนแอฟริกา" ก็ยังเป็นรองชาติใหญ่ๆอยู่พอสมควร ซึ่งไม่น่าจะพลิกล็อคเอาชนะใครได้เลย ขณะที่ "ตัวเต็ง" ดูเเล้วตัดสินใจเลือกค่อนข้างลำบาก เพราะฝีมือของทั้ง 5 ทีมเเทบจะไม่เเตกต่างกันเลย

บราซิล น่าจะดูดีที่สุดเพราะมาในฐานะ "เเชมป์เก่า" รวมทั้งยังเพิ่งคว้า "เเชมป์เวิลด์ คัพ" มาครองเมื่อปีที่เเล้ว เเต่ถ้าไม่ "ท็อปฟอร์ม" ก็อาจจะพลาดท่าให้กับทีมอื่นๆได้เช่นกัน สหรัฐอเมริกา เป็นทีมที่มาตรฐานสูงมาก เเต่พวกเขามักจะเป็น "พระรอง" ในรายการใหญ่ๆ ซึ่งนับตั้งเเต่คว้า เหรียญทองเเดง จากการเเเข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล พวกเขาก็ยังไม่เคยได้เเชมป์รายการใหญ่อีกเลย ผลงานดีที่สุดคือ "รองเเชมป์เนชั่นส์ ลีก 2019" ที่ชิคาโก้ โดยพ่ายต่อ รัสเซีย ไปแบบเจ็บเเสบใน รอบชิงชนะเลิศ

รัสเซีย เเละ ฝรั่งเศส ถือว่าเป็นอีก 2 ทีมที่น่ากลัว เพราะว่ามาตรฐานของ "ทีมยุโรป" ถือว่าสูงมากเกือบทั้งหมด ฝรั่งเศส พร้อมจะเอาชนะทุกทีมด้วยเทคนิคอันเหนือชั้นของผู้เล่น เเต่ปัญหาคือความไม่เเน่นอนเเละความสัมพันธ์ภายในทีม เพราะที่ผ่านมาเกือบจะฟาดปากกันเองมาเเล้วหลายครั้ง ส่วนทาง รัสเซีย เล่นกันด้วยสไตล์ที่ดุดันเเข็งเเรง เกมรุกหนักหน่วง เกมบล็อกเเข็งเเกร่ง เเต่อาจจะขาดในเรื่องของความหลากหลาย ถ้าคู่เเข่งจับทางได้มีโอกาสเเผลงฤทธิ์ไม่ออกเหมือนกัน 

อาร์เจนตินา เป็นทีมที่อยู่ใต้ร่มเงาของ บราซิล มาโดยตลอด เเต่ช่วงหลังเริ่มจะก้าวออกมายืนในที่สว่างได้บ้าง เเละในครั้งนี้ยังผ่านเข้ารอบมาได้ตั้งเเต่การคัดเลือกสนามเเรก รวมทั้งยังเอาชนะ เเคนาดา ที่อันดับโลกสูงกว่าได้สำเร็จ จุดเด่นคือความเเข็งเเกร่งเเละความสูงใหญ่ เเต่ทีเด็ดทีขาดก็ยังเป็นรองพวก "ทีมชั้นนำ" อยู่บ้างเหมือนกัน