จรัสพร บรรดาศักดิ์ ตัวอย่างของคนที่พร้อมคว้าทุกโอกาสที่เข้ามา

ในฤดูกาล 2021-22 “เดียร์” จรัสพร บรรดาศักดิ์ เป็นหนึ่งในนักตบสาวไทย ที่มีโอกาสได้เดินทางไปแข่งขันที่ลีกอาชีพที่ประเทศ “วี-ลีก” ร่วมกับ “บีม” พิมพิชยา ก๊กรัมย์, “เตย” หัตถยา บำรุงสุข และ “แนน” ทัดดาว นึกแจ้ง นี่คือการเดินทางไปเปิดประสบการณ์ในต่างประเทศครั้งแรกของ จรัสพร  โดยสวมชุดยูนิฟอร์มของ เดนโซ แอร์ริบีส์ 

บอลสั้นประสบการณ์สูงจากโคราช

จรัสพร ในวัย 28 ปี มีโอกาสได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องให้กับต้นสังกัดใน ไทยแลนด์ลีก กับ สโมสร ไดมอนด์ ฟู้ด วีซี และมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพาทีมคว้าแชมป์ ไทยแลนด์ลีก มาครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์(ฤดูกาล 2020-21) และตลอด 2 ฤดูกาลล่าสุดที่ลงเล่นกับ ไดมอนด์ ฟู้ด บนเวทีไทยลีก จรัสพร ได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น ต่างจากช่วงหลายๆปีก่อนหน้านี้ที่ บอลเร็วเจ้าของความสูง 180 เซนติเมตร มักได้รับโอกาสลงสนามค่อนข้างน้อยเพราะตำแหน่งไปทับกับผู้เล่นคนอื่นๆ และด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจใน 2 ปีล่าสุด บอลเร็วสาวโคราช จึงกลายเป็นที่หมายตาของทีมจาก วี.ลีก ประเทศญี่ปุ่น และโดนกระชากตัวไปร่วมทีมในท้ายที่สุด

ย้อนกลับไป เส้นทางของ จรัสพร เริ่มต้นการลงเล่นลีกอาชีพกับทีมบ้านเกิดอย่าง นครราชสีมา(คิวมินซี วีซี) และใช้เวลาอยู่กับทีมต่อเนื่องหลายฤดูกาล รวมทั้งยังพาทีมคว้าแชมป์ลีกไปครองได้สำเร็จในฤดูกาล 2013-14 ก่อนจะย้ายออกจากทีมไปร่วมทัพ “บิ๊กเนมน้องใหม่” บางกอกกล๊าส วีซี และถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพาทีมก้าวขึ้นมาเป็น “หมายเลข 1” ของวงการลูกยางเมืองไทย ตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลในถิ่น บีจี ฮอลล์ นับตั้งแต่ปี 2014

ฤดกาลแรกกับทีมแกร่งเมืองปทุมฯ จรัสพร เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพาทีมหยิบ “แชมป์ไทยแลนด์ลีก” มาครองได้สำเร็จ(ซีซั่น 2014-15) ก่อนจะลงช่วยทีมป้องกันแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นสมัยที่ 2 ในฤดูกาล 2015-16 พ่วงด้วยแชมป์ ซูเปอร์ลีก อีกทั้งหมด 2 สมัยในปี 2015 และ 2016 แต่ว่าสุดท้าย บางกอกกล๊าส ก็ตัดสินใจยุบสโมสรลงหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2017-18 ส่งผลให้ จรัสพร ตัดสินใจย้ายกลับไปร่วมทีมบ้านเกิดอย่าง นครราชสีมา อีกครั้ง 

ในปีเดียวกันนั้น “แมวปีศาจ” ได้เซ็นสัญญาคว้าตัวผู้เล่นระดับท็อปเข้ามาร่วมทีมอีกหลายราย ไม่ว่าจะเป็น นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์, มลิกา กันทอง รวมไปถึง โอคุมุระ ไม ตบสาวดีกรีทีมชาติญี่ปุ่น แต่ว่า จรัสพร ก็ถูกส่งสนามช่วยทีมเป็นประจำ และสามารถจะคว้าแชมป์ไทยแลนด์ลีก มาครองได้อีก 1 สมัย 

หลังจากนั้น จรัสพร ได้ย้ายเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ของสโมสรน้องใหม่อย่าง ไดมอนด์ ฟู้ด ที่คว้าตัวเธอไปร่วมทีมตั้งแต่ฤดูกาล 2020 ลงเล่นตั้งแต่การแข่งขันโปร ชาเลนจ์ 2019 และสุดท้ายยังพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเมืองไทยมาครองได้ในฤดูกาล 2020-21 เท่ากับว่า จรัสพร คืออีกหนึ่งดาวตบของไทย ที่ประสบความสำเร็จในการเล่นกีฬาอาชีพ ด้วยการคว้าแชมป์ไทยแลนด์ลีกมาครองได้แล้วถึง 5 สมัย

• ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง มีอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนเชียร์ไทยในเนชั่นส์ลีก 2022
• ชีวิตดั่งนิยาย ฟ้าหลังฝนของ หัถตยา บำรุงสุข
• เคล็ดลับความปัง พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ผลลัพธ์จากการชุบตัวใน วี.ลีก
• 5 เหตุผลที่ทำให้วอลเลย์บอลหญิงไทยสายเลือดใหม่ฟอร์มไฉไลใน เนชั่นส์ ลีก
• ทีมเดียวที่ไร้พ่าย! ผ่าความร้อนแรงของญี่ปุ่นสายเลือดใหม่ใน เนชั่นส์ ลีก

ตัวเลือกประจำของทีมชาติไทย

ประสบการณ์ระดับสโมสรที่โชกโชน บวกกับรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าผู้เล่นคนอื่นๆ จรัสพร จึงมีโอกาสติดธงรับใช้ชาติมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อปี 2014 เริ่มจากในรายการ เอวีซี คัพ ที่ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นรายการแรกอย่างเต็มตัวของ จรัสพร โดยลงเล่นเคียงข้าง หัตถยา บำรุงสุข บอลเร็วตัวเก่งเพื่อนร่วมทีม นครราชสีมาฯ และผลงานในการแข่งขันครั้งนั้น ทีมชาติไทย จบการแข่งขันในอันดับที่ 5 

ต่อมาในช่วงปลายปี 2014(ตุลาคม) ทีมชาติไทย ต้องแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ทีม เพื่อไปแข่งขันรายการชิงแชมป์โลก ที่ประเทศอิตาลี และ เอเชียนเกมส์ ที่ประเทศเกาลีใต้ โดยในรายของ จรัสพร มีชื่อร่วมทัพชุดใหญ่เดินทางไปยังดินแดนมะกะโรนี เพื่อลงสนามในรายการชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในชีวิต 

ปี 2015 เข้าป้าย รองแชมป์เอเชีย รุ่น U23 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และยังกลายเป็นขาประจำที่เข้าแคมป์เก็บตัวทีมชาติเป็นประจำในทุกๆปี พร้อมมีชื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติไทยในหลายๆรายการ อาทิ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์, ชิงแชมป์เอเชีย หรือแม้แต่ เอวีซี คัพ 

บทพิสูจน์ครั้งสำคัญกับชีวิตต่างแดน

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า นี่จะเป็นการได้ย้ายออกไปเล่นในลีกต่างประเทศครั้งแรกของ ดาวตบสาววัย 28 กะรัต หลังจากที่ลงเล่นในลีกเมืองไทยมาแล้วต่อเนื่องหลายฤดูกาล และทีมที่เธอจะได้ลงเล่นด้วยคือ เดนโซ แอริบีส์ เป็นอีกหนึ่งทีมที่ผลงานยอดเยี่ยมในการแข่งขัน วี.ลีก ของประเทศญี่ปุ่น เพราะนับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดเมื่อฤดูกาล 2017-18 ก็ผลงานติดอันดับ 4 และอันดับ 5 อยู่ตลอด

ฤดูกาลที่ผ่านมา จรัสพร ได้ร่วมงานกับ โรสแลนดี อาคอสตา หัวเสาทีมชาติเวเนซูเอลา ที่เคยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ พีเอฟยู บลูแคทส์ รวมไปถึง คุโด้ เร บีหลังตัวเก่งของทีมในวัย 24 ปี และ โทโครุ เรอินะ หัวเสาลูกครึ่งญี่ปุ่น-กานา นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ จรัสพร บรรดาศักดิ์ พัฒนาขึ้น ประสบการณ์ในการเล่นลีกระดับสูงขึ้นทำให้เธอเป็นส่วนหนึ่งที่พาทีมจบอันดับ 6 ของฤดูกาล

น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดแล้วเธอไม่ได้รับการต่อสัญญากับทีมออกไป โดยเดียร์ได้กล่าวขอบคุณแฟน ๆ เพื่อน ๆ ครอบครัว โดยเฉพาะเด็นโซ่ ที่ให้โอกาสเดียร์ได้เล่นในลีกที่แข็งแกร่งในญี่ปุ่น เป็นประสบการณ์ที่สำคัญมากสำหรับเธอ ไม่ใช่แค่ในฐานะนักกีฬา แต่ยังรวมถึง ชีวิตส่วนตัว เดียร์ขอขอบคุณทุกคนในทีมที่ต้อนรับเธอเป็นครอบครัว และเธอจะไม่มีวันลืมพวกเขา

พร้อมเสมอเมื่อชาติต้องการ

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ เดียร์ นั้นถือเป็นขาประจำสำหรับทีมชาติไทย แต่ต้องยอมรับปัจจุบันบล็อกกลางดีๆ เรามีตัวเลือกค่อนข้างเยอะ แต่ถึงอย่างนั้น เดียร์ ก็ยังคงทำตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ และด้วยความสามารถมีชื่ออยู่ในเรดาห์ของโค้ชด่วน ซึ่งรู้มือกันดีอยู่แล้ว

ตัดกลับมาในเนชั่นส์ ลีก วิกฤตของทีมสาวไทยที่ติดโควิดถึง 8 ราย ทำให้โค้ชด่วนต้องเรียกกำลังเสริมมาถึง 5 คน เดียร์ เป็นหนึ่งในนั้นที่บินตามสมทบ และภายในเวลาไม่ถึง 24 ชม. ไม่ได้ซ้อมร่วมกับทีมเลย แต่เดียร์ได้ออกสตาร์ทเป็น 6 คนแรกในเกมที่แพ้โปแลนด์ไปแบบสนุก 2-3 เซต

หากแยกผลงานส่วนตัวถือว่า เดียร์ ทำได้อย่างน่าพอใจ เมื่อทำไป 9 แต้ม ตบไป 4 คะแนน บล็อก 3 แต้มเป็นรอง ชัชชุอร คนเดียว และเสิร์ฟเอซอีก 2 ครั้ง มากสุดในทีม ถือเป็นผลงานสวยหรูที่พอจะคาดหวังได้แล้วในนาทีนี้

นี่คือตัวอย่างสำหรับคนที่ทำตัวเองให้พร้อมสำหรับการคว้าโอกาส