stadium

เคล็ดลับความปัง พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ผลลัพธ์จากการชุบตัวใน วี.ลีก

8 มิถุนายน 2565

ต้องยอมรับว่า ในช่วงระยะหลัง การได้ย้ายออกไปเล่นในลีกต่างประเทศ นับว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ยากของนักตบไทย เพราะนับตั้งแต่หมดยุคของบรรดานักตบ "7 เซียน" ที่ทยอยกันกลับมาเล่นในเมืองไทย นักตบรุ่นหลักก็มีโอกาสได้เดินทางไปโกยเงินต่างประเทศกันน้อยมาก

 

ทว่านับตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 เป็นต้นมา เป็นช่วงเวลาที่แฟนวอลเลย์บอลชาวไทย ได้ติดตามผลงานเชียร์นักตบสาวของไทยในลีกต่างประเทศกันมากขึ้น โดยเฉพาะที่ลีกญี่ปุ่น ที่เปิดโอกาสให้แต่ละทีมสามารถซื้อตัวนักตบจากเอเชียได้ และ พิมพิชยา ก๊กรัมย์ บีหลังทีมชาติไทย เป็นอีกคนที่ได้ร่วมทีม คุโรเบะ อะควา ไฟรีส์ ของวี.ลีก เมื่อปีที่ผ่านมา

 

 

 

เก็บกระเป๋าตามหาฝัน

 

บีม เกิดที่ จ.บุรีรัมย์ และสร้างชื่อจากการลงเล่นวอลเลย์บอลรายการเด็กสุดในเมืองไทยอย่าง วิทยุการบินฯ มินิวอลเลย์บอล ด้วยการพาทีมโรงเรียนอนุบาลลำปลายมาศ คว้าแชมป์รอบประเทศเมื่อปี 2553

 

ก่อนที่ พิมพิชยา จะย้ายมาสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ โรงเรียนกีฬานครนนท์วิทยา 6 จ.นนทบุรี กับการดูแลของ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต อินเลี้ยง ที่คอยปลูกฝังในการเล่นวอลเลย์บอลให้ปราดเปรื่องมากขึ้น

 

พิมพิชยา พาทีมนครนนท์ ประสบความสำเร็จมากมายหลายรายการในเมืองไทย กวาดแทบจะทุกแชมป์ที่ลงแข่งขัน ก่อนที่เธอจะมีชื่อติดทีมชาติไทยครั้งแรก ในการแข่งขันเยาวชน (U19) ชิงแชมป์เอเชีย ที่ไต้หวัน ในปี 2014 และพาทีมจบอันดับที่ 4

 

ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องทั้งในการเล่นให้กับทีมโรงเรียน และทีมลีก พิมพิชยา ยังคงได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติไทยในปีเดียวกัน และเป็นผลงานที่น่าประทับใจที่สุด นั่นคือการพาทีมได้รองแชมป์เอเชีย ในรุ่นยุวชน U17 ที่ จ.นครราชสีมา

 

 

Photo Credit : volleyballworld

 

สุดยอดดาวรุ่งมุ่งสู่ทีมชุดใหญ่

 

ด้วยประสิทธิภาพที่โตเกินวัย และรูปร่างส่วนสูงที่กำลังพอดี รวมไปถึงเรื่องของเกมรุก พิมพิชยา นับว่ากินขาดกว่าผู้เล่นในรุ่นราวคราวเดียวกัน เจ้าตัวถูกจับตามองอย่างมาก จากแฟนวอลเลย์บอล รวมถึงทีมงานผู้ฝึกสอนของทีมชาติไทย จนหลังจากนั้น เส้นทางการเล่นทีมชาติของ พิมพิชยา ก็พึ่งสูงขึ้น

 

ปี 2015 ดาวตบจาก บุรีรัมย์ ติดทีมชาติไทย ไปแข่งขันใน U23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่ฟิลิปปินส์ และยังเป็นตัวหลักของทีมที่ได้รองแชมป์ในปีดังกล่าว ก่อนที่จะได้รับการผลักดันจาก "โค้ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร กุนซือทีมชาติไทยในขณะนั้น เรียกตัวไปติดทีมชุดใหญ่

 

พิมพิชยา ได้ลงเล่นกับทีมสาวไทยชุดใหญ่ ในการแข่งขันซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์ และยังได้คล้องเหรียญทองกับทีม รวมไปถึงได้ร่วมทีมไปแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในปีเดียว

 

ขณะที่ผลงานในการเล่นให้กับสโมสรในไทยแลนด์ลีก พิมพิชยา ลงเล่นให้กับทีมเดียวคือ 3BB นครนนท์ โดยที่ไม่เคยย้ายไปเล่นให้กับทีมอื่น นอกจากการย้ายไปเก็บประสบการณ์กับ บันดุง แบงค์ ที่อินโดนีเซีย แต่สุดท้ายเจ้าตัวยังกลับมาช่วยทีมในไทยแลนด์ลีก ในฤดูกาลนั้น ช่วงรอบรองชนะเลิศ

 

 

Photo Credit : volleyballworld
Photo Credit : volleyballworld

 

คนไทยคนแรกในคุโรเบะฯ

 

พิมพิชยา ในวัย 23 ปี เคยย้ายไปเล่นในลีกต่างประเทศมาแล้ว 1 ครั้ง กับทีมบีเจบี บันดุง ในการแข่งขันอินโดนีเซีย โปรลีกา เมื่อฤดูกาล 2018-19 

 

จากนั้นเมื่อจบฤดูกาล 2020-21 "บีม" ได้รับการติดตามมาจากสโมสรที่ญี่ปุ่น นั่นคือ คุโรเบะ อะควา ไฟรีส์ ที่จะคว้าตัวเธอไปร่วมทีมในซีซันหน้า รวมไปถึงยังเป็นทีมแรก ๆ ที่ทำการเปิดตัวนักตบสาวไทยอย่างเป็นทางการ

 

ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของนักตบคนไทยที่จะได้ลงเล่นให้กับ คุโรเบะ และยังเป็นนักตบเอเชียคนที่ 2 ต่อจาก ดินดิน ซานติอาโก-มานาบัต บีหลังของฟิลิปปินส์ ที่จะเคยเล่นให้กับทีมนี้เมื่อฤดูกาล 2019-20

 

ทั้งนี้ พิมพิชยา จะยังได้ร่วมงานกับ เมเรเต ลุตซ์ บีหลังมากฝีมือจากสหรัฐอเมริกา ที่สร้างผลงานกระฉ่อนใน โคโว วี-ลีก ของประเทศเกาหลีใต้ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของแดนโสม ในฤดูกาล 2020-21

 

อีกทั้งการได้ย้ายไปเล่นที่ญี่ปุ่นหนนี้ "บีม" ยังจะได้เปลี่ยนตำแหน่ง จากเดิมที่ยืนในตำแหน่งบีหลัง มาเป็นการเล่นในตำแหน่งหัวเสา ตามข้อเสนอที่ทีมยื่นเข้ามา แม้ว่า คุโรเบะฯ จะไม่ใช่สโมสรยักษ์ใหญ่ได้ลุ้นแชมป์ กลับกันเป็นสโมสรท้องถิ่นต้องดิ้นรนหนีตกชั้น โดยในฤดูกาลปกติ จบอันดับสุดท้ายของลีก แต่ยังดีที่ รอบเพลย์ออฟ "วี.ชาเลนจ์ สเตจ"  คุโรเบะ อะควา ไฟรีส์ ทีมของ "บีม" พิมพิชยา ยังเก็บชัยชนะเหนือ รูตอิน บริลเลียนท์ แอรีส์ พร้อมคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการเเข่งขัน "วี.ลีก" ต่อไปในฤดูกาลหน้า

 

 

Photo Credit : volleyballworld

 

 

คำตอบว่าทำไมต้องส่งไปลีกต่างประเทศ

 

แม้ว่าฟอร์มโดยรวมจะไม่สามารถช่วยสโมสรต้นสังกัดให้มีผลงานดีที่ได้ แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาพรวมของทีมยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ทีมต้องดิ้นรนจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้ว่า การได้เล่นในลีกญี่ปุ่นของ “พิมพิชยา ก๊กรัมย์” ช่วยยกระดับความสามารถของเธอเป็นอย่างมาก 

 

สิ่งที่เราบอกไม่ใช่แค่การพูดลอยๆ แต่ทุกคนเห็นกันมาแล้ว จากฟอร์มของเธอเองตั้งแต่ซีเกมส์ 2021 ต่อเนื่องจนถึง เนชั่นส์ ลีก ในสัปดาห์แรก โดยเฉพาะรายการหลังเธอโดดเด่นมากๆ คว้าท็อปสกอร์ไป 2 จาก 4 แมตช์ และยังเป็นผู้เล่นอันดับ 2 ที่ทำคะแนนสูงสุด 97 คะแนน เป็นรองเพียงแค่ บริตต์ เฮอร์บอตส์ ตัวเก่งจากเบลเยียมแค่ 3 คะแนนเท่านั้น โดยแบ่งเป็นแต้มตบ 86 คะแนน เสิร์ฟอีก 6 แต้ม เป็นอันดับ 2 และบล็อกอีก 5 แต้ม 

 

จะเห็นได้ชัดว่า บีม พัฒนาขึ้นทั้งในเรื่องของการตบที่หลากหลาย รวมไปถึงการเสิร์ฟที่ได้แต้มและช่วยตัดเกมรุกคู่แข่งได้มากขึ้น ที่สำคัญเธอเป็นคนนึงที่ฟอร์มสม่ำเสมอมากๆ ในสัปดาห์แรก ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการที่เธอไปเล่นอยู่ในลีกญี่ปุ่น แน่นอนว่าต่อให้เป็นสโมสรเล็กๆ แต่ชัดเจนว่ารูปแบบและความเข้มข้นของการฝึกซ้อมมากกว่าอยู่ในไทย รวมไปถึงความมีระเบียบวินัย ค่อยๆ หล่อหลอมให้เป็นบีมเติบโตขึ้นจนเป็นบีมในทุกวันนี้ 

 

พัฒนการของบีมนั้นคือคำตอบว่าของคำถามที่ว่า ทำไมเราถึงควรส่งนักกีฬาไปเล่นในลีกต่างประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

 


stadium

author

StadiumTH Team Content

StadiumTH Content Creator

โฆษณา