stadium

กว่าจะเป็น "บุญนัม" เส้นทางชีวิตเด็กติดเกมสู่นักวิ่งทีมชาติ

13 พฤษภาคม 2565

10 ปีเต็ม บนเส้นทางสู่ความฝันของการเป็นนักวิ่ง "บุญนัม เชิดชัย ภูตาโก" ผ่านเรื่องราวมากเกินกว่าเด็กหนุ่มอายุ 23 ปีทั่วไป เรื่องราวที่บ่มเพาะจนทำให้บุญนัม ก้าวไปถึง 1 ในจุดสูงสุดของความฝัน จากเด็กขี้โรคที่ป่วยทั้งปี เดินทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ มาเติบโตที่กรุงเทพฯ และกำลังจะเดินทางไปตามความฝัน ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม

 

และนี่คือเรื่องราวของ "บุญนัม เชิดชัย" ดาวดวงล่าสุดของวงการกรีฑาไทย ในฐานะตัวแทนทีมชาติไทย ในซีเกมส์ 2021

 

 

 

ชีวิตที่พลิกผัน จากเด็กป่วยหอบหืด สู่รั้วโรงเรียนกีฬา

 

เป็นที่ยอมรับมากพอตัวในวงการวิ่ง ว่าบุญนัม เชิดชัย คือนักวิ่งเลือดใหม่ที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ ทั้งในแง่รูปร่าง ผอมสูง ขายาว ลอกแบบจากทีมชาติเคนยา รวมทั้งพื้นฐานร่างกาย ช่วงก้าว ที่ทำให้บุญนัมในฐานะนักเรียนโรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ ถูกจับตามอง และได้รับการผลักดันเพื่อไปให้สุดบนเส้นทางนักวิ่ง

 

"ผมเริ่มวิ่งได้เพราะลุงพามาเรียนที่กรุงเทพฯ ตอนอายุ 13 และได้เริ่มมาซ้อมวิ่งอยู่ที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ ตอนที่อยู่สุรินทร์ผมยังไม่ได้เริ่มวิ่ง คือ ตอนนั้นมีโรคประจำตัว เป็นหอบหืด ลุงเห็นว่าร่างกายไม่ดี เลยให้เล่นกีฬา จากนั้นก็หายดี จากที่เคยเป็นหวัดทั้งปี พอมาเล่นกีฬาร่างกายก็แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหายเป็นปกติ" บุญนัม เล่าถึงชีวิตตอนเด็กของตัวเอง

 

จากอำเภอปราสาท บุญนัมได้มาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ กำลังจะกลายเป็นหนุ่มเต็มตัว ในตอนนั้นบุญนัมไม่ได้มีความฝันหรือเป้าหมายอะไรในชีวิต ไม่ต่างจากเด็กวัยรุ่นทั่วไปในยุคนั้น สุดท้ายก็กลายเป็นเด็กติดเกม จนเลิกซ้อมวิ่ง

 

 

บุญนัมเล่าถึงช่วงแรกของชีวิตในกรุงเทพฯ ว่า "ย้ายมากรุงเทพชีวิตก็เปลี่ยนเลย ขึ้นลงตลอด บ้านนอกเข้ากรุง ก็หลงไปกับสิ่งที่ไม่เคยเจอ กับบรรยากาศ จนช่วงนึงไปติดเกมหนัก เถลไถลมาก" 

 

หลายคนรู้ดีกว่าการเล่นเกมให้ชนะ ไม่ใช่เล่นเก่งอย่างเดียว ต้องใช้เงินเติมเข้าไป เพื่อซื้ออุปกรณ์พิเศษ แล้วเด็กนักเรียน ที่เอาแต่ซ้อมวิ่ง จะหาเงินเติมเกมจากไหน "ตอนนั้นผมถึงกับเลิกเรียน เลิกซ้อม ไปทำงานก่อสร้างกับเพื่อน เพื่อจะเอาเงินไปเล่นเกม แต่เหนื่อยจนคิดได้ว่า ถ้าเลือกที่จะเล่นกีฬาน่าจะหาเงินได้มากกว่านี้ และไม่ลำบากมากขนาดนี้ เพราะตอนนั้นลำบากมาก อยู่จุดที่ลำบากจนคิดได้ เลยหันกลับมา"

 

 

"โค้ชโถม" ครูผู้อยู่เบื้องหลัง

 

อาจารย์โถม ยองใย ครูผู้ฝึกสอนโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร และอดีตโค้ชทีมชาติไทย หลายสมัย คือผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นทั้งครู ทั้งโค้ช และเปรียบเสมือนพ่อ ที่คอยเตือนสติบุญนัม ในวันที่เขาหันหลังให้การเรียน และการวิ่ง อาจารย์โถมคือคนที่ดึงสติเขา

 

"คิดหน่อย โตแล้ว ที่บ้านไม่ได้ช่วยเราตลอดชีวิตนะ" คือคำพูดเรียกสติที่อาจารย์โถมบอกบุญนัม เขาเล่าว่าอาจารย์โถมเชื่อมั่นและส่งเสริมเขาเสมอ ตั้งแต่เริ่มต้น เป็นครูผู้อยู่เบื้องหลังทุกก้าวสำคัญของชีวิต อาจารย์โถมอยากให้บุญนัมกลับมาวิ่ง และทำเรื่องวิ่งให้ดีที่สุด 

 

อาจารย์โถมบอกบุญนัมว่า การวิ่งจะช่วยเขา ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน และเรื่องรายได้ นั่นทำให้บุญนัมกลับมาซ้อมอีกครั้ง ในตอนแรกอาจจะแค่อยากหาเงินเติมเกม แต่พอซ้อมไป ทำได้ดี เก็บประสบการณ์แข่งขันสนามต่างๆ ในประเทศ การกลับมาซ้อมตามระบบ เต็มรูปแบบ ทำให้บุญนัมพัฒนาขึ้นอีก รวมถึงความฮึกเหิมในการวิ่งที่กลับมา

 

 

 

ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตกับการเป็นตัวแทนทีมชาติ

 

12 พฤษภาคมนี้ มหกรรมกีฬาแห่งอาเซียน กำลังจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ สำหรับซีเกมส์ที่ประเทศเวียดนาม นี่เป็นกีฬาระดับนานาชาติครั้งแรกของบุญนัม "การกลับมาของผมก็ไปซีเกมส์เลย ตื่นเต้นมาก ท้ายทายกับตัวเองมาก เพราะในประเทศ ผมอาจจะมีเวลาการแข่งขันที่ดี แต่ในซีเกมส์ผมยังต่างกับเขามาก" บุญนัมเล่าด้วยเสียงตื่นเต้น

 

โดย สถิติการวิ่งที่ดีที่สุดของบุญนัม คือ 1500 เมตร 4:00.12 นาที 5000 เมตร 15.39:96 นาที และ 10000 เมตร 32.48:75 นาที โดยเวลาที่ดีที่สุดของนัมนั้นดีเพียงพอจะเข้าไปแข่งขันซีเกมส์ได้ รวมถึงการคัดตัวที่ผ่านมา บุญนัมก็ทำเวลาได้ยอดเยี่ยม จึงได้รับโอกาสครั้งสำคัญนี้

 

"ผมก็หวังว่าเวลาจะลดลง และดีขึ้นกว่าเดิม ถามว่ากดดันมั้ย ก็นิดหน่อย ตื่นเต้นมากกว่า เพราะนี่เป็นการแข่งขันนอกประเทศครั้งแรกของผม" บุญนัมเล่าถึงความตั้งใจ พร้อมกับบอกว่า ตอนแรกที่รู้ตัวว่าติดทีมชาติได้ไปซีเกมส์ ความรู้สึกของเขาคือ จะต้องตั้งใจซ้อมให้มากขึ้น มากกว่าที่ผ่านมา ซึ่งตรงกันพอดีกับการกลับมาซ้อมในตอนนี้ ที่กำลังมีไฟฮึกเหิมอย่างมาก

 

หลายคนทราบดีกว่าการเล่นกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ จะต้องแบกรับหลายอย่าง ทั้งการซ้อมที่หนักกว่าการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพทั่วไป และความกดดันทางจิตใจ บุญนัมเล่าว่า การซ้อมที่ผ่านมา กับการซ้อมเพื่อไปซีเกมส์ ค่อนข้างต่างกันมาก การซ้อมไปซีเกมส์มีความเข้มข้นกว่าอีกระดับนึง 

 

 

"ซ้อมอยู่ 6 วันเต็ม เฉลี่ยประมาณสัปดาห์ละ 60-80 กิโลเมตร หนักครับ ยิ่งช่วงนี้ต้องเน้นเรื่องความเร็วมากกว่าปกติ คือ ผมไปติดโควิดหลังงานชิงแชมป์ประเทศไทย เพิ่งจะหายวันที่ 13 เมษายน กลับมาซ้อมแล้วเหมือนคนเริ่มซ้อมใหม่ แต่ตอนนี้ฟื้นกลับมาแล้ว มีคนบอกว่าติดโควิดหายแล้วจะแรงขึ้น ผมก็หวังว่าจะดีกว่าสถิติเดิม คือต้องต่ำกว่า 4 นาทีให้ได้"

 

10 ปีเต็มบนเส้นทางการวิ่ง ทุกก้าวของบุญนัมคือความพลิกพัน แต่หล่อหลอมจนทำให้เขามาถึงวันนี้ การได้ร่วมแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติครั้งนี้ คือก้าวที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญอย่างมากในฐานะนักกีฬาอาชีพ ซีเกมส์ที่เวียดนามอาจไม่ได้ง่ายสำหรับบุญนัม แต่ก็ไม่อยากเกินไปกว่าเป้าหมาย บุญนัมฝากถึงคนอ่าน ขอกำลังใจ ให้ช่วยติดตามเชียร์ "ผมจะพยายามทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด เท่าที่ทำได้ จะทำเต็มที่ ผลงานจะดีหรือไม่ ก็ยืนยันว่าเต็มที่แน่นอน"

 

ติดตามชมและเชียร์บุญนัม เชิดชัย ในการวิ่ง 1500 เมตรชาย ซีเกมส์ที่ประเทศเวียดนามได้ ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เวลา 17.00 น. โดยบุญนัมจะลงแข่งขันพร้อมกับ "คีริน ตันติเวทย์" 


stadium

author

ทีมงานเพจนักวิ่งมีหนวด

เพจเรื่องวิ่งที่แอดมินมีหนวด ทำข่าววิ่ง ชอบป้ายยา ขิงรองเท้าเสื้อผ้าวิ่ง

La Vie en Rose