7 เมษายน 2565
นับว่าเป็น “ดีลฟ้าผ่า” เลยก็ว่าได้ของวงการลูกยางเมืองไทย หลังจาก ชัชชุอร โมกศรี หัวเสาทีมชาติไทย เก็บข้าวของย้ายไปร่วมทัพ ซาริเยร์ เบเลดิเยสปอร์ ในลีกประเทศตุรกี ทั้งที่ เจ้าตัว เพิ่งจะเสร็จสิ้นภาระกิจกับ นครราชสีมา คิวมินซี วีซี ในการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย โดยทาง “บุ๋มบิ๋ม” สวมยูนิฟอร์ม “โคราช” ลงสนามไล่ล่าแชมป์เอเชีย ที่จังหวัดนครราชสีมา และทำผลงานได้น่าพอใจพาทีมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สุดท้ายแล้ว นครราชสีมาฯ ระเบิดฟอร์มเก่งไม่ออกในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะพ่ายให้กับ อัลทาย วีซี ทีมจากคาซัคสถาน และจบเป็นอันดับที่ 2 ของรายการ ส่งผลให้พลาดโควต้าลุย “สโมสรชิงแชมป์โลก” ไปอย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตาม ดาวตบสาวไทยวัย 22 ปี ยังคว้ารางวัลหัวเสายอดเยี่ยของการแข่งขัน เคียงคู่กับ นาเดีย โคโดลา หัวเสาทีมชาติยูเครน ของทีมอัลทาย วีซี ไปอีกหนึ่งรางวัล
ข่าวใหญ่สั่นสะเทือนวงการ!
เมื่อจบการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรเอเชียแค่เพียงไม่กี่วัน สโมสรนครราชสีมาฯ ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า ชัชชุอร โมกศรี ได้รับข้อเสนอจากทีมในลีกต่างประเทศ และตอบรับข้อเสนอที่จะย้ายไปร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้มีการเปิดเผยภายหลังว่า ซาริเยร์ เบเลดิเยสปอร์ ทีมต้นสังกัดของ อัจฉราพร คงยศ ในลีกตุรกี คือทีมที่เซ็นสัญญาคว้าตัว “บุ๋มบิ๋ม” ไปร่วมทีมนั่นเอง
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เราแทบจะไม่ได้ยินข่าวการย้ายไปเล่นในลีกต่างประเทศของ ชัชชุอร เลยในช่วงที่ผ่านมา เพราะการจะย้ายไปเล่นลีกต่างประเทศส่วนมากจะต้องเปิดเจรจากันมาตั้งแต่ช่วงโปรแกรมทีมชาติ เพราะเสร็จสิ้นภาระกิจนักกีฬาก็จะแยกย้ายกันออกเดินทางทันที เหมือนกับในเคสของ 4 ดาวตบไทยสาวไทย ที่ย้ายไปเล่นในลีกประเทศญี่ปุ่น
ทัดดาว นึกแจ้ง, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, หัตถยา บำรุงสุข และ จรัสพร บรรดาศักดิ์ ต่างก็มีข่าวหลุดออกมากันตั้งแต่ช่วงโปรแกรมทีมชาติ หรือแม้แต่ในรายของ อัจฉราพร คงยศ ที่ย้ายไปเล่นกับ ซาริเยร์ ในลีกตุรกี ก็มีข่าวมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม รวมทั้งรายการ “สโมสรเอเชีย” ก็เพิ่งจะเริ่มแข่งกันในเดือนตุลาคม ยิ่งทำให้โอกาสย้ายไปลีกต่างประเทศเป็นไปได้ยากมากกว่าเดิม เพราะว่าลีกใหญ่ๆดังๆต่างทยอยเปิดฤดูกาลกันไปหมดแล้ว
หัวใจสำคัญของนครราชสีมา
ผลงานต่างแดนครั้งแรกของ ชัชชุอร ในการย้ายไปร่วมทัพ พีเอฟยู บลูแคทส์ บนเวที วี.ลีก(ดิวิชั่น 1) ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อฤดูกาล 2018-19 “บุ๋มบิ๋ม” สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม และถูกส่งลงลงสนามเป็นตัวจริงแทบจะทั้งฤดูกาลโดยทำแต้มรวมไปถึง 251 คะแนน และเมื่อจบซีซั่นที่แดนปลาดิบ ชัชชุอร กลับมาร่วมทีม “แมวปีศาจ” อีกคำรบ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เจ้าตัว ก็โชว์ฟอร์มได้สุดยอดมาโดยตลอด
หลังจากย้ายไปเก็บประสบการณ์บนเวที วี.ลีก มาเป็นเวลา 1 ฤดูกาล เกมรุกที่เป็นจุดเด่นของ ชัชชุอร ได้เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ เจ้าตัว กลายเป็นผู้เล่นที่มีเกมรุกเด็ดขาดเฉียมคมมากที่สุดเป็นเบอร์ต้นๆของเมืองไทย และเมื่อย้ายกลับมาลงเล่นใน ไทยแลนด์ลีก อีกครั้ง หัวเสาดาวรุ่งรายนี้ ก็กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ นครราชสีมาฯ ที่แทบจะขาดไม่ได้เลยทีเดียว
ชัชชุอร เป็นกำลังหลักนำทัพ “โคราช” ผ่านเข้าสู่ “รอบไฟนอลโฟร์” ของฤดูกาล 2020 ก่อนที่จะมางัดฟอร์มเก่งพาทีมจบอันดับที่ 3 ของฤดูกาล และต่อเนื่องในซีซัน 2020-21 ชัชชุอร รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมของ “แมวปีศาจ” และยังเป็นตัวความหวังหลักในการทำแต้มให้กับทีม บวกกับบรรยากาศที่คึกคักสนุกสนานภายในทีม ส่งผล ชัชชุอร พาทีมจบเป็น “รองแชมป์” ทั้งใน 2 เลก และผ่านเข้าสู่ “รอบไฟนอลโฟร์” ได้อีกครั้ง
ทว่าสุดท้าย “แมวปีศาจ” ก็ยังไม่ถึงฝั่งฝัน พ่ายให้กับ ไดมอนด์ ฟู้ด และทำให้จบเป็น รองแชมป์ไทยแลนด์ลีก แต่ว่าด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของ ชัชชุอร ทำให้หลายๆคนมองว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่ เจ้าตัว จะต้องไปเก็บประสบการณ์ลีกต่างแดน ยิ่งไปกว่านั้นการลงเล่นในศึก “สโมสรเอเชีย” ที่จ.โคราชเป็นเจ้าภาพ ชัชชุอร ก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในทุกๆเกมที่ลงสนาม จังหวะเข้าทำเกมรุกที่ดุดันและปราดเปรื่อง เป็นทีเด็ดที่หาตัวจับยาก และเป็นบทพิสูจน์ว่ามีดีพอที่จะย้ายไปเล่นในลีกต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเอเชียหรือยุโรป
2 คน 1 ทีม ครั้งแรกในลีกตุรกี
จนเมื่อการแข่งขันรายการทวีปเอเชียจบลง ชัชชุอร ก็ได้รับข้อเสนอที่ดีจาก ซาริเยร์ ในการคว้าตัวเธอไปร่วมทีมเป็นเวลา 1 ฤดูกาล รวมไปถึงผู้ใหญ่ในสโมสรต่างก็ยินดีกับการที่ ดาวตบสาวไทย จะได้ย้ายไปเล่นที่ตุรกี เพราะต้องบอกว่าการปล่อย ชัชชุอร ไปเล่นให้กับทีมอื่นนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากของ “โคราช” เพราะว่านี่คือ “หัวใจสำคัญ” ที่ทีมขาดไม่ได้เลยในช่วงหลังๆ
แต่สุดท้ายดีลนี้ก็เกิดขึ้นและทำให้เราได้เห็นนักตบไทย 2 คนลงเล่นในทีมเดียวกันบนลีกตุรกี หนึ่งลีกที่ดีที่สุดของโลกในเวลานี้ เพราะว่าคราคร่ำไปด้วยดาวตบระดับซูเปอร์สตาร์ดังๆของโลก อาทิ ทิยานา บอสโควิช บีหลังทีมชาติเซอร์เบีย ที่อยู่กับทีมเอ็กซาซีบาซี ไดนาวิต (วิตรา), อารีนา เฟโดรอฟเซวา ดาวรุ่งตัวฉกากของทีมชาติรัสเซีย ของทีมเฟเนร์บาห์เช, กาบี หัวเสาฝีมือเยี่ยมของทีมชาติบราซิล ของ วากีฟแบงก์ หรือแม้แต่ มิเชลล์ บาร์ตส์ช-แฮ็คลีย์ หัวเสาทีมชาติสหรัฐอเมริกา ของ วากีฟแบงก์ และยังถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวงการลูกยางไทย ที่มีนักกีฬาถึง 2 คนลงเล่นอยู่ในทีมเดียวกันบนลีกตุรกี เพราะที่ผ่านมามีเพียงแค่ นุศรา ต้อมคำ คนเดียวเท่านั้นที่เคยลงเล่นกับ เฟเนร์บาห์เช
ชัชชุอร ลงสนามเป็นตัวสำรองให้กับ ซาริเยร์ ทันทีที่พร้อม และกลายเป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ดของทีมที่แผลงฤทธิ์ได้ทันทีแบบไม่ต้องปรับตัว และเชื่อเหลือเกินว่าอีกสักระยะ เจ้าตัว ก็คงจะเบียดขึ้นมาเป็น 1 ในทีมชุดแรกได้อย่างแน่นอนหากว่ามีเวลาในการฝึกซ้อมกับเพื่อร่วมทีมมากขึ้น และกลายเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าเดิมเพราะมี อัจฉราพร ที่ย้ายไปก่อนคอยเป็นคนคอยให้คำแนะนำอยู่ข้างๆ
เจาะผลงานบนแดนไก่งวง
ผลงานของ ชัชชุอร กับ ซาริเยร์ ในซีซั่นแรก พาทีมจบอันดับ 11 ของตาราง จาก 14 ทีม แข่ง 26 ชนะ 7 แพ้ 19 โดย บุ๋มบิ๋ม ทำแต้มได้ทั้งหมด 290 คะแนน รั้งอันดับ 18 ของลีก โดย 290 คะแนนแบ่งเป็นการได้แต้มจาก 25 แต้ม อันดับ 44 ร่วม, เสิร์ฟเอซ 9 ครั้ง อันดับ 75 ร่วม และแต้มจากการตบ 256 คะแนน นับว่าเป็นการประเดิมซีซั่นแรกบนหนึ่งในลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกได้อย่างน่าสนใจ และดีพอที่จะทำให้ ซาริเยร์ สโมสรต้นสังกัดต่อสัญญาออกไปอีกหนึ่งฤดูกาล
เชื่อว่านี่จะเป็น 1 ซีซั่นแห่งการเรียนที่คุ้มค่าของ ชัชชุอร ซึ่งเธอคงได้เรียนรู้จาการเล่นกับนักแข่งระดับโลกในทุกสัปดาห์ เพื่อนำมาปรับปรุงและต่อยอดให้กับทีมชาติไทยต่อไป
TAG ที่เกี่ยวข้อง