17 ธันวาคม 2564
“ไม่เคยคิดว่าเราจะทำได้ จากวันแรกที่ได้ลงเล่น จนถึงวันนี้ ดีใจกับผลงานกับตลอดเวลาที่ทำมา”
“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย ยอมรับด้วยน้ำเสียงแบบถ่อมตนว่า ไม่เคยคิดอยู่ในหัวมาก่อนว่าตัวเองจะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในอาเซียน
เมื่อตอนนี้ “เอล แดงดา” ในวัย 33 ปี กลายเป็นเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ” ไปแล้ว แต่กว่าจะมาถึงวันที่เขาขึ้นชั้นเป็นแข้งเบอร์ 1 ของอาเซียน ปลายสตั๊ดของธีรศิลป์ต้องย่ำโคลน โดนเสียงวิจารณ์ และผ่านคืนวันร้ายดีมามากมาย นับตั้งแต่สวมยูนิฟอร์มทีมชาติไทยในรายการนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2008
ประตูแรกในวัยละอ่อน
ย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 2008 หรือ พ.ศ. 2551 ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าวัยละอ่อน ที่เพิ่งจะอายุ 20 ปีหมาดๆ ถูกเรียกติดทีมชาติไทยครั้งแรก ลุยศึกชิงความเป็นหนึ่งอาเซียน ภายใต้การคุมทีมของ ปีเตอร์ รีด พร้อมมอบเสื้อหมายเลข 10 ที่เคยเป็นของ ตะวัน (ธชตวัน) ศรีปาน มายาวนานให้ด้วย
สนามสุระกุล จังหวัดภูเก็ต ถูกแฟนบอลยัดทะนานเข้าไปเต็มความจุกว่า 15,000 คนในเกมนัดสุดท้ายรอบแรก ยืนแน่นเบียดเสียดกัน ชื่อของธีรศิลป์ปรากฏบนสกอร์บอร์ดครั้งแรกในศึกชิงแชมป์อาเซียน จากจังหวะแทงทะลุช่องให้ของ ดัสกร ทองเหลา ไหลให้เขาหลุดไปแตะหลบผู้รักษาประตูก่อนจะดีดบอลเข้าตาข่ายไปในนาทีที่ 46
เจ้าของรหัส TD10 นับหนึ่งได้สำเร็จ วันนั้นมุ้ยทำคนเดียว 2 ประตู ส่งให้ทีมชาติไทยถล่มมาเลเซีย 3-0 ทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ในปีนั้นแม้ธีรศิลป์เองจะโขกประตูเวียดนามได้ด้วยในรอบชิงชนะเลิศนัดที่ 2 แต่ก็ไม่เพียงพอ ช้างศึกได้แค่รองแชมป์ อย่างไรก็ตามปิดบัญชีซูซูกิ คัพครั้งแรก กองหน้าวัยกระเตาะกดไปเบาะๆ 4 เม็ด ได้รางวัลดาวซัลโวร่วมไปครอง
เคยปืนฝืด และฝันร้าย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแม้ไทยจะเป็นเต้ยในย่านภูมิภาคนี้ ได้แชมป์สูงสุดถึง 5 สมัย แต่ก็เคยตกรอบแรก และธีรศิลป์เองก็เคยปืนฝืด เป้าสะอาดมาแล้วในการฟาดแข้งรายการนี้่ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2010
ธีรศิลป์เติบโตขึ้น เริ่มเป็นกองหน้าตัวความหวังของทีมมากขึ้น แต่ยังอยู่ภายใต้ร่มเงาของพี่ๆ ทั้ง “โจ้ 5 หลา” ศรายุทธ ชัยคำดี, “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย, ดัสกร ทองเหลา, สุธี สุขสมกิจ แต่ปีนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อช้างศึกภายใต้การคุมทีมของ ไบรอัน ร็อบสัน ที่ต้องไปเตะที่อินโดนีเซีย เจ้าภาพร่วมในรอบแรก ทำได้เพียงแค่เสมอกับลาวแบบกระเสือกกระสนในแมตช์แรก 2-2 ทำให้เกมนัดอื่นๆ ต้องร้อนรน ต่อด้วยการเสมอกับมาเลเซีย 0-0 นัดสุดท้ายต้องชนะเท่านั้น แต่ไทยไปแพ้อินโดนีเซีย 1-2 โดยมุ้ยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนัดแรก และเป็นตัวจริงอีก 2 แมตช์หลัง ทำประตูในอาเซียนคัพ 2010 ไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว แถมทีมช้างศึกต้องตกรอบแรกพร้อมกับต้องรับเสียงวิจารณ์ที่ถาโถมเข้าใส่อย่างหนักหน่วงอีกด้วย
แฮตทริกแรก แต่จบด้วยน้ำตา
ธีรศิลป์ในวัย 24 ปีกลายเป็นตัวหลักในแนวรุกของทีมชาติไทย ตอนนั้นกำลังฮอตสุดขีดกับต้นสังกัดเมืองทอง ยูไนเต็ด เพิ่งคว้ารางวัลดาวซัลโวร่วมไทยลีก 2012 มา ฝีเท้าถูกใจกุนซือต่างชาติของช้างศึกอย่าง วินฟรีด เชเฟอร์
ดาวเตะหมายเลข 10 ฟอร์มเด่นตั้งแต่รอบแรกที่ไทยเป็นเจ้าภาพร่วม โดยในนัดที่ 2 กับเมียนมา ธีรศิลป์ระเบิดแฮตทริกแรกใน “อาเซียนคัพ” ได้สำเร็จ ด้วยประตูที่โชว์คลาสอันเหนือชั้นทั้ง 3 ลูก ทั้งหลุดเข้าไปดีด, วอลเลย์เต็มข้อ และปิดท้ายด้วยการดูดบอลลงและยิงด้วยซ้ายเข้าไปอย่างสวยงาม พลพรรคแดนสยามถล่มทีมหม่องแบบหาทางกลับบ้านไม่ถูก 4-0 ทีมชุดนั้นเล่นกันเป็นพระเอกในรอบแรก และมุ้ยยังมากดอีก 2 เม็ด เขี่ยเสือเหลืองตกรอบรองชนะเลิศ
แต่ธีรศิลป์และทีมชาติไทยต้องอกหักเมื่อแพ้สิงคโปร์ในรอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 2-3 ได้เพียงแค่รองแชมป์ ผู้เล่นหลายคนนอนแผ่หมดแรงกลางสนามศุภชลาศัยที่เต็มไปด้วยน้ำตา ธีรศิลป์ต้องรับบทพระรองครั้งที่ 2 แต่ยังได้รับรางวัลดาวซัลโวปลอบใจจากการทำไป 5 ประตู
แชมป์อาเซียนครั้งแรก
“เอล แดงดา” ไม่ถูกเรียกติดทีมชุดแชมป์ปี 2014 เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในลาลีกา สเปน กับทีมอัลเมเรีย แต่ปี 2016 “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้เรียกผู้เล่นระดับซีเนียร์ ทั้งธีรศิลป์รวมถึง ธีราทร บุญมาทัน ที่ยังไม่เคยชูถ้วยรายการนี้ มาเป็นพี่ใหญ่ในทีม พร้อมกับมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้กับมุ้ยในวัย 28 ปี ที่เติบโตทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ
เกมรอบแรกกลุ่มเอ ไปชิงชัยที่ฟิลิปปินส์ มุ้ยทำแฮตทริกครั้งที่ 2 ใน “อาเซียนคัพ” ได้สำเร็จในเกมนัดเปิดสนาม ปราบซ่า อินโดนีเซีย 4-2 สองประตูในนาทีที่ 79 และ 90+4 ถือว่าสำคัญมาก ทำให้ไทยที่เสมออยู่กับทีมอิเหนา 2-2 กลายเป็นจบด้วยชัยชนะ 4-2 ประเดิม 3 คะแนนได้สำเร็จ
รอบรองชนะเลิศ มุ้ยเหมา 2 ประตูในนัดแรกที่บุกไปเยือนเมียนมา ตุนไว้ก่อน ทำให้เกมนัดที่ 2 ง่ายขึ้น ก่อนทัพช้างศึกเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 6-0
จากนั้นในไฟนอลแมตช์ นัดแรกมุ้ยยิงประตูสำคัญที่บ้านอินโดนีเซีย แม้จะแพ้มาก่อน 1-2 แต่แมตช์ต่อมาในนัดที่ 2 ได้ สิโรจน์ ฉัตรทอง เหมาคนเดียว 2 ลูก พาช้างศึกดับอินโดนีเซียด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-2 ทีมชาติไทยต่อยอดความสำเร็จจากปี 2014 ได้แชมป์อาเซียน 2 สมัยติดต่อกัน และเป็นครั้งแรกที่กัปตันมุ้ยได้ยกถ้วยรายการนี้ขึ้นเหนือศีรษะ นอกจากนั้นธีรศิลป์ยังโหดสุดๆ คว้ารางวัลดาวซัลโวเป็นครั้งที่ 3 ด้วยการยิงถึง 6 ประตู
ขึ้นชั้นตำนานเบอร์ 1 อาเซียน
ในปี 2018 ธีรศิลป์กำลังอยู่ระหว่างการจัดระเบียบชีวิตในเจลีก ญี่ปุ่น จึงไม่ได้มาบรรเลงเพลงแข้งในอาเซียนคัพเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ทัพช้างศึกไปถึงแค่รอบรองชนะเลิศ
แต่มาครั้งนี้ในรอบจัดปี 2020 แต่ต้องเลื่อนมาระเบิดศึกในปี 2021 เจ้าของรหัส TD10 ในวัย 33 ปี ถูกเรียกกลับมาติดทีมอีกครั้งกับภารกิจ “กู้ศรัทธาบอลไทย” เนื่องจากระยะหลังไม่ค่อยประสบความสำเร็จทั้งตกรอบรองชนะเลิศอาเซียนคัพ 2018 ตกรอบแรกซีเกมส์ 2019 ไปไม่ถึงรอบ 12 ทีมสุดท้ายเกมคัดฟุตบอลโลก 2022 โซนเอเชีย
แต่สิ่งที่หลายคนตั้งคำถามคือ สภาพร่างกายมุ้ยยังไหวหรือไม่ เพราะยังมีอาการเจ็บให้เห็นอยู่บ่อยครั้งระหว่างสวมยูนิฟอร์มต้นสังกัด
อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ หนึ่งในเรื่องที่ถูกพูดถึงกันมากคือ สถิติการยิงประตูใน “อาเซียนคัพ” รวมทั้งหมดของธีรศิลป์ เข้าใกล้สถิติตลอดกาลของ นอห์ อลัม ชาห์ ตำนานสิงคโปร์เข้าไปทุกที โดยดาวยิงลอดช่องทำไว้ที่ 17 ประตู ส่วนมุ้ยทำ 15 ประตูแบบปราศจากจุดโทษ
“เอล แดงดา” ไม่ทำให้ต้องรอกันนานในการทำลายสถิติเมื่อกด 2 ประตูใส่เมียนมาในเกมรอบแรกนัดที่ 2 ทำสกอร์ไปเทียบเท่าสถิติตลอดกาลที่ 17 ประตู
จากนั้นในเกมกับฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นแมตช์ที่ 3 ในรอบแรก เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ธีรศิลป์กดประตูทำลายสถิติซึ่งเป็นลูกที่ 18 อย่างสุดสวยด้วยการวิ่งมาหวดด้วยซ้ายอย่างเฉียบคม และประตูที่ 19 มาจากจุดโทษส่งให้ทีมชาติไทยเก็บ 3 คะแนนด้วยการชนะทีมตากาล็อก 2-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศอาเซียนคัพ 2020 ได้สำเร็จ
ธีรศิลป์ แดงดา ยืนเด่นเป็นสง่า กลายเป็นเจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดตลอดกาลในศึกชิงแชมป์อาเซียนแต่เพียงผู้เดียว และอาจต้องรอกันอีกนับสิบปี หากจะมีใครสักคนทำลายตาข่ายมากกว่าเขา หรืออาจจะไม่มีเลยก็เป็นได้
TAG ที่เกี่ยวข้อง