25 กุมภาพันธ์ 2564
คิม ยอน คยอง ชื่อนี้แฟนวอลเลย์บอลในบ้านเรา รวมทั้งทั่วโลกรู้จักกันดี เพราะโลดแล่นอยู่ในวงการมากกว่า 10 ปีเข้าไปแล้ว รวมทั้งยังเป็นเสาหลักที่ทีมชาติเกาหลีใต้ขาดไม่ได้
ตัวตบหัวเสาวัย 33 ปี พาชาติบ้านเกิดประสบความสำเร็จมามากมายโดยเฉพาะในเอเชียน เกมส์ ที่ได้ครบทั้งเหรียญทอง, เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ขณะที่ชิงแชมป์เอเชียก็เป็นรองแชมป์ 1 สมัย และอันดับ 3 อีก 4 สมัย
แต่ยังมีอีกเป้าหมายหนึ่งที่เธออยากจะทำให้สำเร็จก่อนอำลาวงการ นั่นก็คือการคว้าเหรียญ โอลิมปิก เกมส์
"สิ่งที่ฉันอยากทำให้สำเร็จมากที่สุดคือการคว้าเหรียญโอลิมปิก เกมส์ นี่คือความผันสุดท้ายที่เหลืออยู่ ดังนั้นฉันจึงต้องทำให้ตัวเองพร้อมที่สุดสำหรับ โตเกียว 2020" คิม ยอน คยอง ให้สัมภาษณ์สื่อในงานแถลงข่าวตอนตัดสินใจหวนกลับมาร่วมทีม พิงค์ สไปเดอร์ สโมสรแรกในอาชีพอีกครั้ง
และหากเราย้อนไปดูโอลิมปิก เกมส์ 2 ครั้งที่ผ่านมา ก็เป็น คิม ยอน คยอง นี่แหละที่พาทีมคว้าตั๋วไปลุยมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติได้สำเร็จ
เดอะแบกแห่งเกาหลีใต้
"สถิติ" เป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ "โอลิมปิกเกมส์ 2012" รอบคัดเลือก ที่ประเทศญี่ปุ่น คิม ยอน คยอง ทำเเต้มสูงที่สุดในทัวร์นาเมนต์ 134 เเต้ม เเละมากกว่า ฮัน ซอง ยี กับ ฮวาง ยูน จู เพื่อนร่วมทีมที่ทำแต้มสูงสุดเป็น "อันดับ 2" ของเกาหลีใต้ 68 คะเเนน (ทั้ง 2 คนทำได้ 66 คะเเนน) ถัดมาในปี 2016 "กัปตันคิม" นำทีมลงเเข่งขัน "โอลิมปิกเกมส์" รอบคัดเลือก อีกครั้งที่ประเทศญี่ปุ่น เเละทำไป 135 คะเเนน สูงที่สุดของ "สาวกิมจิ" เหมือนเดิม แต่หล่นมาเป็น "อันดับ 3" ของทัวร์นาเมนต์ ส่วนคนที่ทำเเต้มสูงสุดรองจาก "กัปตันคิม" ในสีเสื้อเกาหลีใต้ คือ ยาง ฮโย จิน ทำได้ 74 คะเเนน น้อยกว่า คิม ยอน คยอง 61 คะเเนน
นอกจากนี้ "ลอนดอนเกมส์" หรือว่า "โอลิมปิกเกมส์ 2012" รอบสุดท้าย ที่ประเทศอังกฤษ "กัปตันคิม" ยังเป็นผู้เล่นที่ทำเเต้มสูงสุดในทัวร์นาเมนต์ จากการลงเล่น 8 เกม ทำไป 207 คะเเนน เฉลี่ยเกมละ 25.87 เเต้ม หรือพูดง่ายๆคือทุก 1 เกม เกาหลีใต้ จะได้เเต้มจาก คิม ยอน คยอง คนเดียว 1 เซต ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตัว ยังทำลายสถิติเเต้มสูงสุดต่อทัวร์นาเมนต์(โอลิมปิกเกมส์) ที่ เยคาเทริน่า กาโมว่า ยอดตำนานดาวตบชาวรัสเซีย เคยทำเอาไว้ 204 คะเเนน ในการเเข่งขัน "โอลิมปิกเกมส์ 2004" รอบสุดท้าย ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
ย้อนกลับไป 8-9 ปีก่อน โค้ชดังชาวอิตาเลียน จิโอวานนี่ กุยเด็ตติ ที่ปัจจุบันคุมทัพ ตุรกี เคยให้คำนิยาม "กัปตันคิม" เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า "รูปร่างสูงเหมือนผู้เล่นรัสเซีย, เเข็งเเรงเหมือนผู้เล่นสหรัฐฯ, เทคนิคดีเหมือนผู้เล่นญี่ปุ่น, รวดเร็วเหมือนผู้เล่นบราซิล" สรุปง่ายๆคือ คิม ยอน คยอง เป็นนักกีฬาที่ครบเครื่องมากที่สุดในโลกนั่นเอง
จากบ้านเกิดสู่ระดับนานาชาติ
สมัยเรียนมัธยมต้น คิม ยอน คยอง เคยหันไปเอาดีกับ "ฟุตบอล" อยู่ประมาณ 2-3 ปี เพราะไม่ค่อยมีความสุขกับ "วอลเลย์บอล" เนื่องจากตัวไม่สูงมากนัก(170 ซม.) เเต่พอขึ้นมาเรียนชั้นมัธยมปลาย เจ้าตัวกลับสูงขึ้นกว่าเดิมเกือบ 20 ซม. จึงตัดสินใจกลับมาเลือก "กีฬาที่รัก" อีกครั้ง เเละทำได้ดีจนกลายเป็น "ดาวรุ่งพุ่งเเรง" ของวงการลูกยางเกาหลีใต้ ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นระดับอาชีพตั้งเเต่อายุ 17 ปีกับทีม ชอนัน ฮึงกุก ไลฟ์ อินชัวรันซ์ พิงค์ สไปเดอร์ โดยได้รับการดราฟต์เป็นอันดับ 1
คิม ยอน คยอง โลดเเล่นใน "วีลีก" ประเทศบ้านเกิด เป็นเวลา 4 ฤดูกาล(2005-2009) คว้าแชมป์ลีก 3 สมัย ก็ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ เจที มาร์เวลัส ในประเทศญี่ปุ่น เเละกลายเป็น "นักวอลเลย์บอลเกาหลีใต้คนเเรก" ที่ย้ายออกไปเล่นนอกประเทศ
หลังจากช่วยให้ เจที มาร์เวลัส คว้าแชมป์ 1 สมัย รองแชมป์ 1 สมัย มาถึงในฤดูกาล 2011 โฮเซ่ กิมาเรซ โค้ชระดับตำนานของบราซิล พยายามอย่างสุดความสามารถในการนำตัว คิม ยอน คยอง มาเล่นบนลีกยุโรป ซึ่งเวลานั้น เจ้าตัวคุมทีม เฟเนร์บาห์เช่ ในประเทศตุรกี ซึ่ง "เซ โรเเบร์โต้" เชื่อเหลือเกินว่า "กัปตันคิม" จะก้าวขึ้นมาเป็น "ผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก" ได้อย่างเเน่นอน ทั้งที่ยังไม่เคยย้ายมาเล่นนอกเอเชียเลยสักครั้ง
ใครเลยจะเชื่อว่า "เซ โรเเบร์โต้" คิดไว้ไม่ผิดจริงๆ เพียงฤดูกาลเเรกเท่านั้น คิม ยอน คยอง สามารถนำต้นสังกัดอย่าง เฟเนร์บาห์เช่ คว้าเเชมป์ถ้วยใบใหญ่ของยุโรป "ซีอีวี เเชมเปี้ยนส์ลีก" มาครองได้สำเร็จ เเละเป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์สโมสร ยิ่งไปกว่านั้น "กัปตันคิม" ยังทำไปคนเดียว 228 คะเเนน สูงที่สุดในทัวร์นาเมนต์ โดยเฉพาะ รอบรองฯ เเละ รอบชิงฯ เจ้าตัว ทำรวมกัน 55 คะเเนน(32-23) เเละสุดท้ายพ่วงตำแหน่ง "MVP" ไปครองอีก 1 รางวัล
คิม ยอน คยอง ใช้เวลา 6 ฤดูกาลกับ เฟเนร์บาห์เช่ สามารถคว้าเเชมป์มาครองได้มากมาย ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ เซี่ยงไฮ้ ในประเทศจีน 1 ฤดูกาล และโยกกลับไปเล่นในลีกตุรกีเป็นครั้งที่ 2 แต่คราวนี้สวมยูนิฟอร์ม เอ็คซาชิบาซี่ วิตร้า ร่วมกับ ทิยาน่า บอสโกวิช สตาร์ดังชาวเซอร์เบีย คราวนี้เธอลงเล่น 3 ฤดูกาล (2018-2020) ช่วยทีมคว้ารองแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย รองแชมป์ลีก 1 สมัย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
กัดฟันทนอาการบาดเจ็บเพื่อโอลิมปิก เกมส์
หลังจากเป็นผู้เล่นสำคัญที่ช่วยให้ เกาหลีใต้ ผ่านเข้าไปเล่นโอลิมปิกมาตลอด 2 ครั้งที่ผ่านมา ในโตเกียว 2020 คิม ยอน คยอง ก็รับบทบาทเดิมอีกครั้ง พร้อมกับอุปสรรคที่ชื่อว่าอาการบาดเจ็บ
ในศึกชิงตั๋วโอลิมปิกโซนเอเชียที่จ.นครราชสีมา เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว คิม ยอน คยอง นำทัพเกาหลีใต้เข้าชิงชัยด้วยร่างกายที่อ่อนล้า จากการกรำศึกหนักในระดับสโมสรอย่างต่อเนื่อง กัปตันคิมมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อท้องฉีกจนพลาดเกมรอบรองชนะเลิศกับ ไชนีส ไทเป แต่เธอก็กลับมาแข่งอีกครั้งในแมตช์ชิงชนะเลิศที่เจอทีมชาติไทยเจ้าภาพ
คิม ยอน คยอง ที่ฝืนคำแนะนำของเฮดโค้ช สเตฟาโน่ ลาวารินี่ ที่หวั่นว่าอาการจะรุนแรงกว่าเดิม กัดฟันโชว์ฟอร์มพาทีมเอาชนะไทย 3 เซตรวด ได้ไปเล่นโอลิมปิกหนที่ 3 ในชีวิต ซึ่งเธอเปิดเผยในภายหลังว่าต้องใช้ยาแก้ปวดก่อนลงแข่ง
การฝืนตัวเองในครั้งนั้นทำให้อาการแย่กว่าเดิม และส่งผลในพลาดช่วย เอ็คซาชิบาซี่ ต้นสังกัดร่วมเดือนในฤดูกาล 2019-2020
กลับบ้านเกิดเพื่อเป้าหมายสุดท้าย
ในวัย 33 ปี จึงไม่แปลกอะไรที่ คิม ยอน คยอง จะประกาศว่า โตเกียว 2020 จะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายในชีวิต และการที่เกาหลีใต้คว้าสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ทำให้เธอตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นที่บ้านเกิด หลังหมดสัญญากับ เอ็คซาชิบาซี่ เพื่อรักษาสภาพร่างกายให้พร้อมที่สุด
"ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ตัวเองลงเล่นได้ต่อไปรวมทั้งรักษาฟอร์มการเล่นเอาไว้ให้ได้ก่อนจะถึงโอลิมปิก ซึ่งการกลับไปเล่นที่เกาหลีใต้คือหนทางที่ดีที่สุด" คิม ยอน คยอง เปิดเผยสาเหตุในงานแถลงข่าวหวนกลับมาร่วมทีม อินชอน ฮึงกุก ไลฟ์ อินชัวรันซ์ พิงค์ สไปเดอร์ (ชอนัน ฮึงกุก ไลฟ์ฯ ในชื่อเดิม) ต้นสังกัดแรกในอาชีพ
11 ปีจากการย้ายไปเล่นในต่างแดน คิม ยอน คยอง หวังใช้ประสบการณ์ที่ได้รับช่วยเหลือรุ่นน้องอย่างเต็มที่
"สำหรับผู้เล่นทีมชาติเกาหลีใต้คนอื่น ๆ แล้ว เป็นเรื่องยากที่จะได้ข้อมูลจากผู้เล่นต่างชาติ ซึ่งบทบาทของฉันในฐานะผู้นำทีมคือการส่งต่อข้อมูลให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ให้มากที่สุด"
TAG ที่เกี่ยวข้อง