เบิ้ล ปทุมราช : “ฟุตบอลอาชีพต่างจากเล่นกับเพื่อนราวฟ้ากับเหว”

สร้างสีสันและกระแสให้กับฟุตบอลลีกอาชีพของไทยได้ไม่น้อยกับปรากฏการณ์ “ดาราหลบกล้อง” “นักร้องวางไมค์” (ชั่วคราว) หันมาสวมสตั๊ดรับบทนักฟุตบอลอาชีพค้าแข้งในลีกลูกหนัง

ในอดีต “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์” เคยเล่นให้กับบีอีซี เทโร ศาสน, “หนุ่ม ศรราม” เคยเล่นให้กับทหารอากาศ, “จอห์น บราโว่” เคยเล่นให้กับสินธนา หรือ “โจ๊กเกอร์” เคยเล่นให้กับสมุทรปราการ ยูไนเต็ด

หรือปัจจุบัน “บ่าววี” นักร้องลูกทุ่งเพื่อชีวิตชื่อดังที่ยังเล่นให้กับสมุทรปราการ ยูไนเต็ด ในไทยลีก 3 หรือ “มังกรฟ้า ลีก” เช่นเดียวกับ “ไผ่ พงศธร” นักร้องลูกทุ่งเจ้าของเพลงดัง “คนบ้านเดียวกัน” ที่ยังจริงจังกับการเล่นฟุตบอลให้กับทีมยโสธร เอฟซี ซึ่งเคยเป็นที่ฮือฮาในการทำประตูให้ “บั้งไฟพิฆาต” ชนะ สุรินทร์ โขงชีมูล 3-0 เมื่อปลายปี 2563

รวมไปถึงไทยลีก 2 หรือ M-150 แชมเปี้ยนชิพ มี “ก้อง ห้วยไร่” เจ้าของเพลงดังระเบิดเถิดเทิงทั่วไทยอย่าง “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน” และ “คู่คอง” เซ็นสัญญาค้าแข้งกับราชประชา เอฟซี ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจากไทยลีก 3 กับเพื่อนซี้ “เบิ้ล ปทุมราช” ที่มีผลงานเพลงโด่งดังอย่าง “อ้ายมีเหตุผล” ที่ร่วมทัพกับ “นาคามรกต” เกษตรศาสตร์ เอฟซี

แต่ที่ฮือฮาสุดคงหนีไม่พ้น “โตโน่ ภาคิน” ศิลปินมาดเท่ ที่เซ็นสัญญากับราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทีมในลีกสูงสุด “รีโว่ ไทยลีก” ถึงขั้นมีชื่อลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 ด้วย

อย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงศิลปิน ดารา นักร้อง แม้จะเป็นคน “บ้าฟุตบอล” เคยเล่นกับเพื่อนๆ แบบฝีเท้าไม่เป็นรอง ชิงเงินแสนในระดับภูธร ล่อกันฝุ่นตลบ แต่แทบทั้งนั้นก็เล่นแค่เอาสนุก ไม่ได้จริงจัง

ก็เลยมักจะมีคำถามว่า ศิลปิน ดารา นักร้อง เหล่านั้นเก่งพอจะเล่นฟุตบอลอาชีพจริงหรือ?

“เบิ้ล ปทุมราช” หรือ อาทิตย์ สมน้อย นักร้องดังวัย 25 ปี ที่เซ็นสัญญาอาชีพสวมเสื้อหมายเลข 99 ในสีเสื้อ “นาคามรกต” เกษตรศาสตร์ เอฟซี ทีมในไทยลีก 2 มีมุมมองถึงฟุตบอลอาชีพได้อย่างน่าฟัง

“ฟุตบอลอาชีพแตกต่างจากฟุตบอลที่ผมเล่นกับเพื่อนๆ มากครับ มันต่างราวฟ้ากับเหว ตั้งแต่วิธีการยืดกล้ามเนื้อ ฟิตเนส หรือเรื่องวินัยที่ต้องมีสูงมาก ถ้าเราเล่นเองกับเพื่อนก็จะรู้สึกว่าเล่นอย่างไรก็ได้ แต่พอมาเล่นฟุตบอลอาชีพ มันเป็นระบบ มีคนออกแบบการเล่น ทุกอย่างอยู่ในตาราง มันมากกว่าการเล่นเพื่อสุขภาพ”

แน่นอนว่าในโลกของฟุตบอลอาชีพกับการเตะฟุตบอลเล่นๆ มันต่างกันคนละเรื่อง เพราะกว่านักฟุตบอลอาชีพจะมาถึงขั้นนี้ ต้องผ่านการฟูมฟักมาตั้งแต่เยาวชน ทั้งในเรื่องสภาพร่างกายที่ค่อยๆ เสริมสร้างกระดูก และที่สำคัญคือความเข้าใจเกม เรียนรู้ระบบ และความฟิต ที่ไม่ใช่จะมาอัดกันง่ายๆ แค่ 2-3 เดือน

“จริงๆ ผมอยากจะบอกกับทุกคนว่า ผมมายืนอยู่ตรงนี้ มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว ผมไม่ได้คาดหวังในการที่จะได้ลงเล่น เพราะจริงๆ แล้วผมตั้งใจเข้ามาตรงนี้ ผมต้องการโอกาสในการพิสูจน์และออกกำลังกาย รวมทั้งช่วยทีมด้านอื่นมากกว่า แต่ถ้าวันหนึ่งโอกาสและจังหวะมันเหมาะ ทีมเรารู้สึกว่าอยู่ในจุดที่มันไปได้แล้ว ถึงวันนั้นถ้ามีโอกาสได้ลงก็ยินดีมากๆ ครับ”

แฟนบอลคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าศิลปิน ดารา นักร้อง ไม่มีทางจะมาซ้อมกับทีมได้ทุกวัน เพราะต่างมีการมีงานที่กอบโกยเงินมหาศาล ยิ่งปัจจุบันมีโลกโซเชียล เพราะฉะนั้นผลประโยชน์ที่ได้รับกับเกมลูกหนัง นอกจากความฝันของตัวเองแล้ว นั่นก็คือช่วยสร้าง “กระแส” และ “สีสัน” เพื่อเพิ่มมูลค่าทีมให้น่าสนใจและน่าติดตามมากขึ้น

แต่เมื่อมีโอกาส สำหรับ “เบิ้ล ปทุมราช” การวางไมค์มาใส่สตั๊ดเพื่อนั่งรอข้างสนาม หลังมีชื่อเป็นตัวสำรองครั้งแรกในแมตช์เดย์ 4 ที่เกษตร์ศาสตร์ เอฟซี เปิดบ้านต้อนรับ ลำปาง เอฟซี เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็ตื่นเต้นไม่แพ้การขึ้นร้องเพลงบนเวที

“ผมรู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากครับแม้จะมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรองครั้งแรก แม้ว่าผมจะตั้งใจมาให้กำลังใจทีมอยู่แล้ว เนื่องจากผลงานสามนัดที่ผ่านมาของทีมยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1) จึงอยากให้เพื่อนๆ ทุกคนได้สามแต้ม”

อย่างไรก็ตามผลการแข่งขันไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง เมื่อเกษตรศาสตร์ เอฟซี เปิดบ้านพ่าย ลำปาง เอฟซี 1-2 ทำให้ “นาคามรกต” ไม่ชนะใครเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน และอันดับหล่นไปอยู่ที่ 13 ของตาราง

“ผมก็อยากจะขอโทษแทนพี่ๆ สำหรับผลการแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ก็ไม่เป็นไรครับ แต่เชื่อผมเถอะครับ ทุกคนทำเต็มที่แล้ว ผมอยู่กับทีมตลอดทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง หรือห้องแต่งตัว ไม่มีใครอยากแพ้ครับ ขอให้แฟนๆ เกษตรศาสตร์ เอฟซี ทุกคนส่งกำลังใจให้พวกเรา พวกเราจะสู้กันเต็มที่ เพราะยังมีอีกหลายเกม พวกเราจะตั้งใจทำให้ดีกว่าเดิม เราทำได้อย่างแน่นอนครับ”

หลายคนอาจจะทราบ ศิลปิน ดารา นักร้อง รักฟุตบอลมีมาก และก็มีความฝันสักครั้งที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ขณะเดียวกันโค้ชทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเวลาไหนเหมาะ เวลาไหนควร ที่จะส่งลงสนามไม่ให้ทีมเสียหาย เพื่อไม่ให้ศิลปิน ดารา นักร้อง คนนั้นโดนด่า

ดังนั้นการที่ศิลปิน นักร้อง ดารา มาเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ไม่ใช่จะมาเป็นกำลังหลัก และทำให้ทีมแกร่งขึ้น แต่ถือว่ามาเติมเต็มความฝัน และช่วยให้สโมสรได้กระแส เรียกแฟนคลับ เพิ่มมูลค่าทีม ขณะที่แฟนบอลก็ได้ตื่นเต้นไปกับพวกเขา

ในมุมมองแบบนี้คงบอกได้ว่าไม่มีอะไรเสียหาย และได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย