10 เรื่องต้องรู้ก่อนเชียร์ช้างศึก U23 ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก

ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี มีคิวลงเตะในยุค “กู้ศรัทธาบอลไทย” ในรายการชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก ที่จะเริ่มปะทะนัดแรก วันที่ 25 ตุลาคมนี้ ที่ประเทศมองโกเลีย มีเรื่องอะไรที่ต้องรู้บ้างก่อนจะเชียร์แข้งไทยทั้ง 3 แมตช์ เรารวบรวมมาให้แล้ว...

1. ถอนทีมไป 3 ชาติ ส่งผลดีต่อไทย

การฟาดแข้งฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือกหนนี้ เดิมทีมี 42 จาก 47 ชาติสมาชิกสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ร่วมเตะ เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมนี้ แบ่งกัน 11 กลุ่ม เอถึงเค โดยทุกกลุ่มจะมีประเทศเจ้าภาพ แต่ไม่ทันไรก็มีชาติที่ถอนตัวไปแล้ว 3 ทีม คือ จีน, บรูไน และเกาหลีเหนือ ด้วยเหตุผลเรื่องโควิด-19 และทีมไม่พร้อม ทำให้การคัดเลือกทีมในกลุ่มจี ที่เดิมที ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, จีน และบรูไน อยู่ร่วมสายกัน จะเหลือเพียงแค่ 2 ทีมเท่านั้น เตะกันเอง 2 นัด กลุ่มนี้มีเพียงแค่แชมป์กลุ่มที่ได้โควตาไปลุยรอบสุดท้าย (16 ทีม) เดือนมิถุนายนปีหน้า ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ส่งผลดีกับไทย คือ หากทีมช้างศึกตกเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ก็จะเหลือตัวเลือกแย่งโควตาอันดับ 2 น้อยลง เพราะตัดทีมรองแชมป์กลุ่มจีออกไปแล้ว

2. อันดับ 2 มีสิทธิ์เข้ารอบ 

ทีมชาติไทยอยู่ในโถที่ 1 เป็นทีมวางลำดับที่ 3 ของสายตะวันออก ได้อยู่ในกลุ่มเจ ร่วมกับ มาเลเซีย, ลาว และมองโกเลีย ซึ่งในกลุ่มของไทย เป็นมองโกเลียที่ได้เป็นเจ้าภาพ เริ่มเตะนัดแรกกับมองโกเลีย วันที่ 25 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ตามเวลาประเทศไทย นัดที่ 2 พบลาว วันที่ 28 ตุลาคม เวลา 14.00 น. และนัดสุดท้าย พบมาเลเซีย วันที่ 31 ตุลาคม เวลา 10.00 น. เนื่องจากแต่ละกลุ่มมีจำนวนทีมไม่เท่ากัน บางกลุ่มมี 3 ทีม ดังนั้นกลุ่มที่มี 4 ทีมต้องตัดผลการแข่งขันนัดที่พบกับทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่มออกไป ยกเว้นกลุ่มดี ที่ต้องตัดผลในการพบกับ อุซเบกิสถาน เจ้าภาพรอบสุดท้ายออก

ขณะที่กลุ่มจีจะมีทีมเดียว ไม่ออสเตรเลียก็อินโดนีเซียที่จะผ่านเข้ารอบ อย่างไรก็ตามหากทีมชาติไทยพลาดตกไปเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเจ ก็ยังมีสิทธิ์ในการเข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 จาก 10 กลุ่ม ซึ่งต้องไปวัดคะแนน, ผลต่างประตูได้-เสีย กับกลุ่มอื่นๆ ต่อไป

3. แข้งไทยมาจาก 19 สโมสร 4 ประเทศ

ดาวรุ่งไทยที่ถูกประกาศรายชื่อมา 27 คน ในชุดที่เดินทางไปมองโกเลียชุดแรกก่อนการตัดตัวนั้น มาจากหลายสโมสร กระจายเป็น 19 สโมสร 7 ลีก (ไทยลีก 1-3, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เดนิช ซูเปอร์ลีกา, ลีกวัน อังกฤษ และลีกเบลเยียม) 4 ประเทศ (ไทย, เดนมาร์ก, เบลเยียม, อังกฤษ) มากสุดคือมาจากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 4 คน คือ นาคิน วิเศษชาติ (กองหลัง), กฤษณพล บุญชารี (กองหลัง), ชยธร เทพสุวรรณวร (กองกลาง), กัณตภณ คีรีแลง (กองหน้า) ส่วนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองลงมา 3 คนคือ รณชาติ ภูชุม (ผู้รักษาประตู), ธวัชชัย อินทร์ประโคน (กองหลัง), อิรฟาน ดอเลาะ (กองกลาง)

4. มีนักเตะลูกครึ่ง 4 คน

ไม่นับ “กัน” ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ที่เล่นอยู่กับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะมีคุณพ่อ และแม่เป็นคนไทยแท้ ๆ  ทีมชุดนี้จะมีลูกครึ่ง 4 รายคือ อันโตนิโอ แสนใจรักษ์ กองหลังลูกครึ่งไทย-สวีเดน วัย 19 ปี มีคุณพ่อเป็นสวีเดน คุณแม่เป็นคนไทย ส่งเข้าประกวดโดยทีมฉลามชล

โอเว่น ชาร์ลี บัวพิศ แบ็กลูกครึ่งไทย-เบลเยียม วัย 18 ปีที่ล่าสุดอยู่กับทีมเยาวชนของแซงต์ ทรุยด็องส์ ในลีกสูงสุดเบลเยียม มีคุณพ่อเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน และมีคุณแม่เป็นชาวเบลเยียม

โจนาธาน เข็มดี เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 19 ปี ลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก พ่อเป็นชาวเดนมาร์ก แม่เป็นคนไทย เป็นเด็กปั้นของโอบี โอเดนเซ ในลีกสูงสุดเดนมาร์ก

คนสุดท้ายคือ เบนจามิน เดวิส กองหน้าจากอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ทีมจากลีกวันของอังกฤษ ดาวเตะวัย 20 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-เวลส์ พ่อเป็นชาวเวลส์ แม่เป็นคนไทย เคยเล่นให้กับทีมชาติสิงคโปร์ชุดเล็กมาแล้ว

5. ทำไมจึงเลือก “โค้ชโย่ง” เป็นกุนซือ

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะผู้จัดการทีม ตัดสินใจเลือก “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ รับตำแหน่งหัวหน้าโค้ชทีมชุดนี้ โดยให้เหตุผลว่า “โค้ชโย่งเป็นผู้มีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ และต่างก็มีผลงานประจักษ์ในระดับนานาชาติมาแล้ว จึงมีความเหมาะสมที่เข้ามาทำงานนี้ให้สำเร็จตามเป้าหมาย”

สำหรับ “โค้ชโย่ง” เคยทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุด 23 ปี ชุดคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2017 มาแล้ว และเคยคุมทีมชุด 23 ปีลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือก แบบเดียวกับรายการนี้มาแล้ว ตอนนั้นไทยเป็นเจ้าภาพที่สนามศุภชลาศัยเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ผลการแข่งขันครั้งนั้น ไทยเสมอกับมองโกเลีย 1-1 ชนะมาเลเซีย 3-0 และเสมอกับอินโดนีเซีย 0-0 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฐานะทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุดได้สำเร็จ 

แต่กุนซือร่างใหญ่ก็มีผลงานที่ไม่น่าประทับใจนักในการทำทีม 23 ปี คือ ผลงานการพาทีมตกรอบแรกเอเชียนเกมส์ 2018 โดยเป็นการตกรอบแรกในรอบ 24 ปี ด้วยผลงานเสมอกาตาร์และบังกลาเทศ ด้วยสกอร์เดียวกัน 1-1 และไปแพ้อุซเบกิสถาน 0-1 

นอกจากนี้โค้ชโย่งยังเคยคุมสโมสรฟุตบอลอาชีพในไทยอีกหลายสโมสร อาทิ สงขลา เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี ทำให้รู้จักและมีข้อมูลของผู้เล่นไทยเป็นอย่างดี

6. ไร้ตัวเก่ง เนื่องจากลีกไม่หยุด

ทัพช้างศึกยังมีนักเตะฝีเท้าดีที่อายุไม่เกินเกณฑ์ แต่ไม่สามารถมาร่วมทัพได้ เนื่องจากโปรแกรมฟุตบอลลีกบ้านเราไม่เอื้ออำนวย อาทิ “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าวัย 19 ปีของทีมปราสาทสายฟ้า, “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา แนวรุกวัย 22 ปีจากสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, กฤษดา กาแมน กองกลางจอมทัพวัย 22 ปีจากชลบุรี เอฟซี ยังไม่นับนักเตะที่เล่นอยู่ต่างแดน และยากที่จะเดินทางมา อาทิ สิทธิโชค ภาโส กองหน้าที่เล่นอยู่กับเอฟซี ริวกิว ในลีกญี่ปุ่น หรือ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว กับอูนิโอน อดาร์เบ ทีมในดิวิชัน 4 สเปน 

7. รายการแรกของ “มาดามแป้ง”

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ เคยเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยมาแล้ว แต่เป็นทีมหญิง เธอเคยพาทีมชบาแก้วไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในปี 2015 และปี 2019 ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ของทีมชาติไทยที่ได้มีโอกาสสัมผัสเวทีระดับเวิลด์คัพ โดยมาดามแป้งได้รับคำชื่นชมมากมายในฐานะผู้ที่เป็นทุกอย่างของทีม เหลือแค่ไม่ได้ลงไปเตะเองเท่านั้น 

แต่กับการทำทีมชายแบบเต็มตัว “มาดามแป้ง” เข้ามานั่งเป็นประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี เมื่อปี พ.ศ. 2558 หรือ เมื่อ 6 ปีก่อน และเมื่อได้รับการแต่งตั้งจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้เป็นผู้จัดการทีมชาติไทยทั้งชุดใหญ่ และชุด 23 ปี เธอกล่าวไว้ในวันแรกของการรับตำแหน่งพร้อมกับน้ำตาแห่งความยินดีว่า

“งานผู้จัดการทีมชาติไทยเป็นงานที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นหนึ่งในวันที่สำคัญสุดในชีวิต แต่จะบอกว่ามากู้วิกฤติบอลไทยคงไม่ใช่ เพราะทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน สัญญาจะตั้งใจและทุ่มเทกับหน้าที่นี้ที่สุด”

8. กฎเหล็กของ “มาดามแป้ง-โค้ชโย่ง”

การที่นักเตะมาจากหลายสโมสร หลายประเทศ หลายลีก มารวมตัวกัน จำเป็นต้องมีกฎที่ใช้ในการอยู่ร่วมกัน โค้ชโย่งได้เน้นที่สุดเรื่องหนึ่งคือ “การสื่อสาร” เพราะในทีมมีนักเตะที่พูดภาษาอังกฤษหลายคน ทุกคนต้องคุยให้เข้าใจกัน หนึ่งในวิธีการที่นำมาใช้คือ ให้นักเตะที่อยู่สโมสรเดียวกันแยกห้องกัน เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยมากขึ้น โดยนอกจากเดิมจะมีเพื่อนสนิทที่อยู่สโมสรเดียวกันแล้ว จบศึกครั้งนี้จะยังมีเพื่อนใหม่จากสโมสรอื่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย

นอกจากนั้นยังมีกฎ เช่น ไม่ให้เล่นโทรศัพท์ระหว่างกินอาหารทุกมื้อ และต้องรอให้ทุกคนมาถึงห้องอาหารครบก่อนจึงจะเริ่มลงมือกินได้ อย่างไรก็ตามยังไม่ถึงขั้นยึดมือถือ แต่ห้ามนอนดึกเด็ดขาด หากมีเรื่องออกมาถึงหูทีมงานแม้แต่ห้องเดียว อาจโดนลงโทษทั้งทีม

ขณะที่มาดามแป้งย้ำกับนักเตะทุกคนเสมอว่า ให้เน้นทีมเวิร์ก ฟุตบอลทำงานกันเป็นทีม เล่นเป็นทีม ไม่สนว่าใครจะมาจากทีมไหน และห้ามคิดเด็ดขาดว่าตัวเองเป็นทีมบี หรือมาได้เพราะตัวหลักของไทยลีกไม่ถูกปล่อยมา ห้ามคิดหรือมีทัศนคติแบบนี้ เพราะทุกคนคือทีมชาติไทย

นอกจากนั้นอุปกรณ์ซ้อมในสนาม อาจจะเคยเห็นพวกนักเตะลูกครึ่งช่วยกันเก็บของ ยกถุงลูกฟุตบอลบ้าง เพราะเป็นอีกหนึ่งกฎที่ว่า ให้ช่วยกันหยิบจับสิ่งของของทีม เมื่อมีโอกาสต้องช่วยเหลือกัน ไม่ทำตัวสบายเกินไป 

9. บางคนเคยมาที่มองโกเลีย

สนามหิมะตก อากาศหนาวจับใจ สนามหญ้าเทียม บางคนในชุดนี้เคยผ่านมาแล้ว เพราะในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบคัดเลือก เมื่อปี 2017 กลุ่มของไทยต้องมาจัดแข่งกันที่เอ็มเอฟเอฟ ฟุตบอลเซ็นเตอร์ ในอูลานบาตาร์ ที่ประเทศมองโกเลียแห่งนี้ ทีมชุดนั้นคุมทีมโดย “โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร

โดย จตุรพัช สัทธรรม จากการท่าเรือ เอฟซี และ กรวิชญ์ ทะสา จากเมืองทอง ยูไนเต็ด สองรองกัปตันทีมชุดนี้ เคยมีประสบการณ์ในสนาม และรู้ซึ้งถึงสภาพอากาศหนาวต่ำสิบมาแล้ว นอกจากนั้นยังมี นาคิน วิเศษชาติ จากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, ธีรภัทร เลาหบุตร จากอยุธยา ยูไนเต็ด และ สกุลชัย แสงโทโพธิ์ จากเกษตรศาสตร์ เอฟซี ที่อยู่ในทีมชุดนั้น ซึ่งสังเวียนเอ็มเอฟเอฟแห่งนี้ เตรียมเปิดรับกองเชียร์ที่จะเข้าชมเกมได้ 50 เปอร์เซ็นต์ด้วย

10. ใช้ธงชาติไทยได้หรือไม่? 

ผลพวงจากการที่องค์กรต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาดา) แถลงการณ์ไม่ให้การรับรองไทย ในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ รวมถึงห้ามใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันเกมของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล และรายการที่วาดาเป็นผู้ดูแลจัดการแข่งขันนั้น ณ ขณะนี้ยังไม่มีบทสรุปจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี ว่า ทีมชาติไทยจะใช้ธงชาติไทย รวมถึงเพลงชาติไทยในรายการนี้ได้หรือไม่ เพราะต้องรอการแจ้งผลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่เมื่อถึงนัดเปิดสนาม หากเราไม่เห็นธงไตรรงค์ ไม่มีการเปิดเพลงชาติไทย ก็แสดงว่า เอฟเฟ็กต์จากวาด้าเดินทางมาถึงแล้ว