stadium

ยู23 ทีมชาติไทย..ทำไมต้องโค้ชโย่ง?

26 สิงหาคม 2564

ยู23 ทีมชาติไทย..ทำไมต้องโค้ชโย่ง?  

#ช้างศึกริงไซด์ by akinson149

 

“อะไรนะ...สมาคมฯตั้งโค้ชโย่งคุม ยู23!”

 

เชื่อว่านี่คือคำอุทานแบบอุปทานหมู่ที่โพล่งออกมาทันทีที่แฟนบอลได้เห็นประกาศแต่งตั้งจากสมาคมฯ และผมจะบอกว่า “ท่านไม่ได้ตาฝาด”  

 

ก็อย่างว่าหากพูดถึงเรื่องผลงานที่ผ่านๆมาบวกกับเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกและคาแรคเตอร์ของโค้ชโย่งเองที่ดูจะเป็นโค้ชร่างท้วมพูดตรงแถมออกไปทางสายเฮฮา-อารมณ์ขัน ใครก็ต้องอุทานแบบนั้น

 

เพียงแต่สิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมายกับการทำงานในฐานะผู้ฝึกสอนทีมชาติ และถ้าใครจะเบือนหน้าหนีหรือถือโอกาสปล่อยวลีในเชิง “ดูถูก” ว่าไม่มีคนอื่นแล้วหรอหรือมาดามหาได้ดีแค่เนี้ยะ ผมก็อยากจะขอถามกลับอยู่เหมือนกันว่าคนที่ท่านว่า(น่าจะ)ดีกว่าคือใครหล่ะ?

 

กับกรอบระยะเวลาในการเตรียมทีมแค่สองเดือนบนสเป็คพื้นฐานที่นานาชาติเขาใช้กันอยู่ในตอนนี้นั่นคือต้องเป็นโค้ชระดับโปรไลเซ่นส์เท่านั้น แถมเคมีก็ต้องเข้ากันกับแข้งไทยชุดนี้ ถ้าไม่ใช่โค้ชโย่งบวกโค้ชโชค เอาจริงๆนะ..ผมก็ยังนึกไม่ค่อยออกว่าใครเหมาะ!

 

บางคนอาจบ่นว่าโค้ชไทยที่เคยทำผลงานได้ดีในการคุมทีมระดับสโมสรหรือทีมชาติแถมยังถือโปรไลเซ่นส์ก็มีให้เห็นอยู่เกลื่อนตลาดหนิ (อย่างน้อยๆก็ 4-5 คน) อย่างโค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, โค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน, โค้ชอ้น รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, โค้ชอั๋น สุรพงษ์ คงเทพ หรือจะเป็น “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ ทำไมมาดามถึงไม่เหลียวตามามองโค้ชเหล่านี้บ้าง?  

 

ถามผมนะ..ผมว่าเขาก็มองอยู่หรอก แต่การจะเชิญโค้ชเหล่านี้(ที่ท่านว่า) มาทำทีมชาติไทยในเวลานี้อาจเป็นเรื่องที่ดูจะเสียมารยาทและผิดกาลเทศะ เพราะรายชื่อที่ท่านว่ามาล้วนแล้วแต่ยังคงมีภารกิจ-หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่กับสโมสรต้นสังกัดทั้งนั้น และมันก็คงไม่ค่อยเหมาะนักหรอกถ้ามาดามจะยกหูกริ๊งกร๊างแล้วบอกว่า “พี่ค่ะ/น้องขา..คนนี้ขอนะ“

 

โค้ชโย่งบวกโค้ชโชคอาจเป็นดูโอ้ที่อาจไม่โดดเด่นในด้านชื่อเสียงและสไตล์ในการทำทีม แต่ก็ถือว่าเหมาะอยู่หรอกสำหรับสถานการ์ณที่มันเป็นอยู่ในตอนนี้(มีเวลาเตรียมทีมแค่สองเดือนก่อนแข่ง แถมยังมีปัญหาร้อยแปดรายล้อมอยู่ทั้งเรื่องโควิดที่อาจลากยาวเป็นหนังชีวิต, สโมสรส่งเสียงกระซิบว่าจะไม่ปล่อยนักเตะตัวหลักมาร่วมทีม กับเป้าที่วางไว้คือต้องให้ได้แชมป์กลุ่มที่มองโกเลีย)

 

บอลแบบเน้นผลชนะหยุมหยิม 1-0, 2-1 ออกไปทางแนวดูแล้วหายใจไม่ทั่วท้องที่เราได้เห็นกันในซีเกมส์ปี 2017 หรือจะเป็นการตกรอบเอเชี่ยนเกมส์ปี 2018 ด้วยน้ำมือทีมรองบ่อนอย่างบังคลาเทศ (ที่ผลเสมอก็เหมือนแพ้ในครั้งนั้น) ใครๆก็คงจะบอกว่า “พอกันที”  

 

แต่ถ้าจะมองแบบกลางๆแบบลงลึกในรายละเอียดแต่ละเกมแต่ละทัวร์นาเมนต์จริงๆ ซีเกมส์หนนั้นก็เป็นไทยนี่แหละที่ได้แชมป์และนัดกับบังคลาเทศก็อาจถือเป็นอุบัติเหตุในเกมลูกหนัง เพราะหากใครจะยังพอจำกันได้เราอยู่ร่วมสายทั้ง กาตาร์ และ อุซเบกิสถาน ซึ่งจะว่าไปเกรดบอลของเราก็ไม่ได้เหนือกว่าพวกเขาและในเกมกับบังคลาเทศก็เป็นไทยที่เหนือกว่าทุกอย่างด้วยสถิติหลังเกมที่ถูกเปิดเผยออกมาภายหลังนั่นเอง

 

อีกเรื่องที่ถือเป็นเรื่องจริงที่ต้องให้เครดิต นั่นคือโค้ชโย่งมีสถิติในการคุมทีมชาติที่ถือว่า “โอเคอยู่” เพราะเขาพาทีมชนะได้มากถึง 17 จาก 33 นัด คิดเป็น 51% (เทียบตามหลักการประเมินแบบเคพีไอหรือเอาง่ายๆว่าจ่ายไปเท่าไหร่แล้วได้อะไรกลับมาบ้าง โค้ชโย่งยังมีอัตราส่วนพาทีมเข้าวินมากกว่าบรรดากุนซือต่างชาติโพรไฟล์ดีที่ค่าจ้างแพงหูฉี่แบบชัดเจน)  

 

และแม้ใครจะบอกว่าโค้ชโย่งทำบอลไม่มีทรง ดูแล้วชวนหัวลงหมอนก็ต้องบอกไว้ก่อนว่าจากสถิติที่ผ่านๆมามันมีแค่ 7 จาก 33 นัดเท่านั้นที่ทีมชาติไทยยิงทีมคู่แข่งไม่ได้ในสมัยที่โค้ชโย่งคุม

 

“เอาหน่า...” ผมว่าเราอย่าพึ่งตีตนไปก่อนไข้ และจะว่าไปแฟนบอลอย่างเราๆก็ควรเปิดใจและให้โอกาสทั้งโค้ชโย่งและโค้ชโชคได้ทำอีกซักครั้ง อย่างน้อยพวกเขาก็คือโค้ชไทยสายเลือดไทยที่ความจริงจังบวกจริงใจ, ความเข้าใจฟุตบอลไทยและเวลาที่พร้อมจะมีให้ทีมชาติคงจะมีมากกว่าโค้ชต่างชาติเป็นไหนๆ

 

เมื่อพวกเขาคือคนที่ถูกเลือก จะถูกใจไม่ถูกใจเราก็ต้องเชียร์และซัพพอร์ตพวกเขาเต็มที่ เพราะนี่คือทีมชาติไทย

 

ภารกิจที่มองโกเลียไม่ง่ายเพราะหนนี้เราไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ แต่ผมยังเชื่อลึกๆนะว่าครั้งนี้แม้มันจะตะกุกตะกักแต่ถ้าเราทำงานให้หนักและไม่ประมาท ด้วยคอนเซ็ปต์ง่ายๆแบบทีมชาติไทยโดยโค้ชไทยเพื่อคนไทยแบบนี้นี่แหละจะพาเราคว้าผลการแข่งขันที่ดีกลับมา..


stadium

author

akinson149

Moderator เพจ thailandsusu (Section: บทความ-แปลข่าวบอลไทย) และคอลัมนิสต์ฟุตบอลไทย 

โฆษณา