22 กรกฎาคม 2564
ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ที่ตัดสินใจดัน "โค้ชหมี" รักษ์พล สายเนตรงาม จากผู้ช่วยโค้ชขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตซอลไทย แทนที่ โฆเซ มาเรีย ปาซอส เมนเดส "ปูลปิส" กุนซือชาวสเปน ที่ต้องแยกทางกันไปแบบกระทันหัน
นอกจากนี้ ทีมชาติไทยยังระดมยอดโค้ชระดับแถวหน้าของเมืองไทย เข้ามาช่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น "โค้ชดม" อุดม ทวีสุข กุนซือมากฝีมือจาก การท่าเรือ รับตำแหน่งผู้ช่วยผู้ฝึกสอน และ คาร์ลอส เซซาร์ นูเนส กาโก้ กุนซือสเปน จาก ชลบุรี บลูเวฟ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิค
ซึ่งการเลือกใช้โค้ชชาวไทย ก็เกิดคำถามมากมายจากแฟนฟุตซอลไทย ว่าจะพาทีมชาติไทย ไปได้ไกลแค่ไหนบนเวทีโลก เพราะก่อนหน้านี้ ทีมฟุตซอลไทย ผ่านเข้ารอบสุดท้าย "ชิงแชมป์โลก" มาแล้ว 5 สมัยติดต่อกันตั้งแต่ปี 2000-2021 ไม่เคยใช้โค้ชชาวไทย ลงคุมทีมในเวทีระดับโลก แม้แต่ครั้งเดียว
แต่หากใครติดตาม ฟุตซอลไทย จริงๆ จะรู้ดีกว่า "โค้ชหมี" รักษ์พล สายเนตรงาม ฝีมือไม่ธรรมดา และเป็นศิษย์เอกของ ปูลปิส ที่ทำงานร่วมกันมานานเป็น 10 ปี โดยวันนี้เราจะพาแฟนฟุตซอลไทย ไปทำความรู้จักกับ โค้ชชาวไทย คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่จะได้คุมโต๊ะเล็กช้างศึก ลุยศึกเวิลด์คัพ 2021 กันให้มากขึ้น
ในวัยเด็ก ด.ช.รักษ์พล สายเนตรงาม เกิดในครอบครัวที่อบอุ่น แถวย่านคลองเตย กรุงเทพมหานคร ซึ่งคุณพ่อทำงานเป็นพนักงานการท่าเรือ ทำให้ เด็กชายหมี ได้ซึมซับผูกผันกับฟุตบอลมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จากการที่พ่อ และแม่ ทำงานอยู่ใกล้สนามฟุตบอลของสโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมเป็นเยาวชนของสโมสรการท่าเรือ ในนานทีม "ท่าเรือจูเนียร์"
ก่อนจะขยับไปเรียนต่อที่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ตั้งแต่อายุ 12 ปี ประสบความสำเร็จมากมายกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง สุรพงษ์ คงเทพ, อนุชา มั่นเจริญ, สระราวุฒิ ตรีพันธ์ คว้าแชมป์ กรมพลศึกษา 14 ปี, 16 ปี ก้าวไปติด ทีมชาติไทย 15 ปี ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติไทย อีกหลายชุดทั้ง 16 ปี, 19 ปี, ปรีโอลิมปิค และซีเกมส์ ที่มาเลเซีย แต่โชคชะตาเหมือนเล่นตลกเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวออกจากทีมไปทุกครั้ง
ส่วนในเส้นทางลีกอาชีพ มีชื่อเล่น "จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ไทยแลนด์ลีก" ตั้งแต่อายุ 17 ปี กับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย และเล่นควบคู่ไปกับ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ชุดฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง. ก่อนจบ ม.6 ก็ไปคัดตัวกับ การท่าเรือแห่งประเทศไทย จนสุดท้ายได้เข้ามาเป็นสมาชิกของสิงห์คลองเตย ได้สำเร็จ
เจ้าตัวยึดตำแหน่งแบ็คขวา ประสานงานกับพี่เขย รณชัย สยมชัย แม้ทีมจะไม่ได้แชมป์ แต่ รณชัย ยิงกระจาย 23 ประตูคว้ารางวัลดาวซัลโวไปครอง ซึ่งเป็นแอสซิสต์จาก รักษ์พล สายเนตรงาม ถึง 19 ประตู และย้ายไปประสบความสำเร็จกับ ธ.กรุงไทย คว้าแชมป์ ไทยลีก 2 สมัยติด
ย้ายทีมอีกครั้งไปร่วมทีม มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต พร้อมเป็นอาจารย์สอนควบคู่ไปด้วย ก่อนเลิกเล่นด้วยวัยเพียง 28 ปี ซึ่ง "โค้ชด่วน" ดนัย ศรีวัชรเมธากุล มอบหมายหน้าที่ให้ไปทำทีมฟุตซอลให้กับสถานบัน ร่วมกับ "น้าคีย์" สมจิตร วรรณวงษ์ กับ "โค้ชเอ๋” บัณฑิต จันทนะโสตถิ์ พร้อมดึงตัวหัวกระทิของเมืองไทย อย่าง อนุชา มั่นเจริญ กับ จเด็ด พูลเพิ่ม เข้ามาเรียน
หลังจากนั้นได้รับโอกาสคุมทีมมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ลุยศึกฟุตซอล ไทยลีก ก่อนได้รับโอกาสเข้ามาเป็นผู้ช่วยโค้ชฟุตซอลทีมชาติไทย ในยุคของ ปูลปิส ซึ่ง "โค้ชหมี" ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากยอดกุนซือชาวสเปน ทำงานทุกอย่างทั้งเก็บทุกรายละเอียดการเล่น ตัดต่อวิดีโอ และสเกาท์ฟอร์มคู่แข่ง
ก่อนได้รับโอกาสครั้งสำคัญขึ้นมา คุมทีม ธอส.อาแบค ด้วยวัยเพียง 31 ปี พาทีมประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ แชมป์ฟุตซอลลีก 6 สมัย(ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมฟุตซอลลีก 6 สมัย), แชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย, แชมป์สโมสรอาเซียน 1 สมัย และเป็นโค้ชชาวไทย คนแรกที่พาทีมคว้าแชมป์สโมสรเอเชีย พร้อมมีชื่อติด 1 ใน 10 โค้ชยอดเยี่ยมโลก เมื่อปี 2017 ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่สร้างชื่อกับ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี
ส่วนประสบการณ์คุมทีมในระดับนานาชาติ คุมทีมฟุตซอลหญิงไทย คว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ 2011 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ขยับไปคุมทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติเวียดนาม พาทีม คว้าเหรียญเงินซีเกมส์ ที่ประเทศเมียนมา และกลับมาทำทีมฟุตซอลหญิงไทย คว้าอันดับ 3 เอเชีย ปี 2015
นอกจากนั้นในช่วงปี 2014 คุม ทีมฟุตซอลไทย คว้าอันดับ 4 รายการกีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่ประเทศโปรตุเกส ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย สร้างชื่อล้ม ทีมชาติสเปน ด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งถือเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวจนถึงปัจจุบัน ที่ทีมชาติไทย สามารถ ชนะ สเปน ได้สำเร็จ
หลังจากนั้นยังรับบทบาทผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทย มาอย่างต่อเนื่องในยุคของ มิเกล โรดริโก้ และ ปูลปิส ปีล่าสุดย้ายไปคุมทีมในต่างแดนกับ สโมสรแบล็คสตีล พาทีมเถลิงแชมป์ลีกอินโดนีเซีย ด้วยสถิติไร้พ่าย ซึ่งโค้ชหมี เป็นโค้ชชาวไทย คนแรกที่สามารถคุมทีมคว้าแชมป์ลีกอินโดนีเซีย
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างมากมายในชีวิตคุมทีมทั้งในเมืองไทย และต่างประเทศ เมื่อโอกาสมาถึงคนที่พร้อมลุยอย่าง "โค้ชหมี" รักษ์พล สายเนตรงาม ก็ไม่ปฏิเสธโอกาสครั้งสำคัญของชีวิต ส่วนจะทำได้ดีแค่ไหน เวลา และผลงานในสนามจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง
TAG ที่เกี่ยวข้อง