stadium

อัคพล กล่อมเกลี้ยง แข้งพรสวรรค์ที่เลือกเส้นทางผิดชีวิตเปลี่ยน

1 กรกฎาคม 2564

อัคพล กล่อมเกลี้ยง : แข้งพรสวรรค์โต๊ะเล็กไทย เลือกเส้นทางผิดชีวิตเปลี่ยน
 

หากจะเอ่ยถึงนักฟุตซอล ที่ถูกยกให้เป็นผู้เล่นระดับแถวหน้าของเมืองไทย ในปัจจุบัน ชื่อของ "เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, "เนิส" จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, "กัปตันช้าง" กฤษดา วงศ์แก้ว, "ดอน" ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน, "ก๊อก" อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ และ "จ่าต๊อบ" เจษฎา ชูเดช ต้องอยู่ลำดับต้นๆ ในใจแฟนโต๊ะเล็กไทย อย่างแน่นอน  

 

แต่หากเราย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ดาวรุ่งรุ่นราวคราวเดียวกับนักเตะที่กล่าวมาข้างต้นอย่าง "ปอนด์" อัคพล กล่อมเกลี้ยง ถือเป็นผู้เล่นที่ถูกพูดถึงอย่างมากในวงการฟุตซอลไทย ยุคนั้น ตั้งแต่ฟุตซอลนักเรียน มีชื่อเสียง โด่งดัง และฝีเท้าหาตัวจับยาก ต่อยอดขึ้นมาเล่นลีกอาชีพ และติดทีมชาติไทย ด้วยเพียง 18 ปีเท่านั้น

แต่เส้นทางชีวิตกลับไม่เป็นอย่างที่ฝัน เมื่อชื่อเสียงมาไวตั้งแต่อายุยังน้อย บวกกับสิ่งเย้ายวนใจมากมาย ที่น่าสนใจกว่าการซ้อมบอล ทำให้เลือกเส้นทางผิด หลงแสงสี, ติดเพื่อน, ติดแอลกอฮอล์ โดนไล่ออกจากโรงเรียน ตัดสินใจผิดถอนตัว ทีมชาติไทย เพราะซ้อมไม่ไหว จนสุดท้ายเจ้าตัวไม่เคยกลับไปสู่จุดสูงสุดในชีวิตค้าแข้งของตัวเองได้อีกเลย  

 

ด.ช.อัคพล กล่อมเกลี้ยง เกิดในครอบครัวที่อบอุ่น ณ อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีความชอบในกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่วัยเด็ก ได้รับการสนับสนุนจาก นายมาโนช หัทยามาตย์ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านสร้าง จนมีชื่อเสียงในจังหวัดอยุธยา จนฟอร์มไปเข้าตา “ป๋าวีป" ดิสพงษ์ คงสวัสดิ์ ยอดโค้ชนักปั้นมือทอง จากจังหวัดสมุทรปราการ  

สุดท้าย "ปอนด์" อัคพล กล่อมเกลี้ยง วัย 15 ปี ได้ย้ายมาเรียนที่ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ด้วยฝีเท้าที่เก่งเกินวัย แข้งดาวรุ่งจากเมืองกรุงเก่า ข้ามรุ่นไปเล่นกับรุ่นพี่พา "สิงห์ปากน้ำ" ประสบความสำเร็จมากมาย และคว้ารองแชมป์ ควิก จูเนียร์ ฟุตซอลแชมเปี้ยนชิพ 2006 และอันดับ 3 ฟุตซอล เนชั่นแมน สพฐ. ฟุตซอลลีก รุ่นไม่เกิน 17 ปี

 

แต่เมื่อชื่อเสียงมาไว คิดว่าตัวเองเก่ง ติดเพื่อน ทำให้เจ้าตัวเลือกเล่นแต่กีฬาที่รัก ไม่เอาเรื่องเรียน สุดท้ายติดศูนย์ยาวเป็นหางว่าว จนหมดสิทธิ์สอบ และโดนไล่ออกจากจากโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ไปทันที  

 

แต่ด้วยฝีเท้าที่ดี อาจารย์ เจษฎากรณ์ ป้อมขุนพรม ครูและโค้ชระดับตำนานของโรงเรียนอิสลามวิทยาลัย ไม่รอช้าดึงตัว อัคพล กล่อมเกลี้ยง มาร่วมทีมทันที ซึ่งเจ้าตัวไม่ทำให้ผิดหวังช่วย อิสลามวิทยาลัย คว้าแชมป์รายการ นอร์ทกรุงเทพ แชมป์เปี้ยนชิพ, รองแชมป์แพน-พัชรบงกช ฟุตซอล, รองแชมป์ กทม. ฟุตซอลลีก และแชมป์ฟุตซอลเขตการศึกษา(ในนามกรุงเทพมหานคร)

 

ปี 2009 ขุนพล "กุ้งสายฟ้า" สุราษฎร์ธานี ที่มี อาจารย์ เจษฎากรณ์ ป้อมขุนพรม คุมทีม ไม่รอช้าดึง อัคพล กล่อมเกลี้ยง ในวัย 18 ปี ลุยลีกอาชีพครั้งแรกในชีวิตทันที ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่น มีเท้าซ้ายที่หนักหน่วง และเทคนิคแพรวพราว เจ้าตัวขึ้นมาเป็นแกนหลักของกุ้งสายฟ้า พาทีมจบอันดับที่ 8 ในศึกไทยแลนด์ฟุตซอลลีก 2009 ได้สำเร็จ  

 

จากผลงานที่โดดเด่นยิงไปถึง 19 ประตูในลีกสูงสุด จนถูก โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส "ปูลปิส" กุนซือทีมชาติไทย เรียกตัวไปซ้อมกับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ทันที ด้วยวัยเพียง 18 ย่าง 19 ปี อยู่ในชุดคว้าแชมป์อาเซียน ปี 2009 ซึ่งในตอนนั้นเจ้าตัวเบียด ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน กระเด็นหลุดจากชุดนี้ไป และทำได้ 2 ประตูในเกมที่ชนะ เมียนมา 16-6

 

หลังจากนั้นกราฟชีวิตยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง เจ้าตัวติด ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ลุยศึกอุ่นเครื่อง ไทยแลนด์ ไฟว์ "ครั้งที่ 4" ยิง 1 ประตูใส่ อาเจนติน่า(ไทย แพ้ 1-4) และถูกยกให้เป็นนักเตะความหวังใหม่ของวงการฟุตซอลไทย ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของทัพโต๊ะเล็กช้างศึก ในอนาคต ถึงอนาคตที่ว่า "ปูลปิส" เคยเอ่ยปากชมว่า ปอนด์ ฝีเท้าดีพอเล่นลีกยุโรปได้เลย

 

แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตก็มาถึง อัคพล กล่อมเกลี้ยง ยังติดทีมชาติไทย ต่อเนื่อง ชุดเตรียมทีมลุยศึก เอเชี่ยน อินดอร์เกมส์ 2009 แต่ด้วยวิธีการใช้ชีวิตที่ผิด ขาดระเบียบวินัย ไม่ดูแลตัวเอง ทำให้ร่างกายทนต่อการฝึกซ้อมหนักไม่ไหว สุดท้ายขอถอนตัวไปแบบเหลือเชื่อ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่สามารถทนโปรแกรมการฝึกซ้อมหนักได้ แม้จะถูกตามตัวให้กลับมาซ้อม แต่ ปอนด์ ที่ยังเด็กยืนยันของถอนตัวกับทีมชาติไทย ชุดนี้  

 

ด้าน โค้ชปูลปิส แม้จะเสียดายแต่ก็เคารพการตัดสินใจก่อนจะเรียกตัว "จ่าต๊อบ" เจษฎา ชูเดช จากสโมสรราชนาวี เข้ามาทดแทน ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของ "ปอนด์" อัคพล กล่อมเกลี้ยง ที่จะเปลี่ยนอนาคตในเส้นทางฟุตซอลไปทั้งชีวิต

 

หลังจากนั้นเจ้าตัวย้ายไปเล่นกับหลายทีมทั้ง ราชนาวี, สมุทรสาคร, ลำปาง ยูไนเต็ด แต่ชีวิตนอกสนามยังคงใช้ชีวิตวัยรุ่นเหมือนเดิมจนน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นไปถึง 85 กิโลกรัม จากฝีเท้าที่ดี ความรวดเร็วก็หายไป เคลื่อนตัวช้าลง จนสุดท้ายหันหลังให้ฟุตซอลลีกไป 1 ปี  

 

ต่อมาปี 2012 อัคพล กล่อมเกลี้ยง กลับมาสู้อีกครั้ง ได้รับโอกาสจาก ชลบุรี บลูเวฟ ที่มี “โค้ชหมี “ รักษ์พล สายเนตรงาม คุมทีม ก่อนเลกที่สอง กุนซือคู่บุญอย่าง ปูลปิส จะกลับมาคุมทีม แต่โค้ชชาวสเปน ก็แปลกใจกับขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นของ ปอนด์ ความฟิตที่ไม่เหมือนเก่า และไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีเหมือนวันวาน แม้จะช่วยทีมคว้าแชมป์ลีก แต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีนัก  

 

ปี 2014 เจ้าตัวตัดสินใจย้ายกลับไปช่วยทีมบ้านเกิด อยุธยา ซิตี้ แต่ต้องเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน รวมทั้งปัญหาการควบคุมน้ำหนักตัว ทำให้ฟอร์มไม่เปรี้ยงปร้าง ต่อมาย้ายไปเล่นกับ มอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแกนหลักของทีมจนถึงปี 2020 ปัจจุบันในวัย 32 ปี เจ้าตัวยังเป็นนักเตะไร้สังกัด สโมสรไหนสนใจสามารถติดต่อได้เลย  

 

เส้นทางชีวิตของ อัคพล กล่อมเกลี้ยง ถือเป็นบทเรียนชั้นเยี่ยมให้กับนักฟุตซอลรุ่นหลัง ที่กำลังจะเติบโตขึ้นมา จากแข้งพรสวรรค์โต๊ะเล็กไทย เจอสิ่งเย้ายวนใจมากมาย จนหลงทางไป บวกกับการตัดสินใจผิด ทำให้เส้นทางชีวิตลูกหนังของเขากับ ทีมชาติไทย เหมือนเส้นขนาน และไม่เคยกลับไปสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองได้อีกเลย  

 

แม้พยายามกลับตัวอีกครั้ง แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น ฟอร์มการเล่นก็ไม่เหมือนก่อน  สุดท้ายก็ยังไม่สามารถทำผลงานได้ดีเหมือนเก่า หลายครั้งที่ อัคพล กล่อมเกลี้ยง มองดูเพื่อนร่วมรุ่นที่เคยเล่นด้วยกันมา ทั้ง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง,  จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, กฤษดา วงศ์แก้ว, ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน ไปได้ไกลถึงระดับทีมชาติไทย มีรายได้ที่ดี ก่อนมองย้อนดูตัวเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีโอกาสมากกว่าคนอื่น

 

จำไวว่า นักกีฬาที่ดีนอกจากมีพรสวรรค์ และพรแสวง ควบคู่กันไปแล้ว ยังต้องมีร่างกาย และจิตใจที่เข้มแข็ง รู้จักหน้าที่ มีความรับผิดชอบ และวินัยกับตัวเองให้สูงขึ้น เพราะเส้นทางที่เราเลือกเดิน จะส่งผลกับชีวิตเราไปตลอดกาล.


TAG ที่เกี่ยวข้อง

stadium

author

Futsal Addict

Play Now Content Creator

La Vie en Rose