stadium

โตเกียวโอลิมปิกยังน่าดูอยู่มั้ย?

1 กรกฎาคม 2564

โตเกียวโอลิมปิกยังน่าดูอยู่มั้ย?

#Olympic On Pitch by akinson149

 

ซิโมน่า ฮาเลป นักเทนนิสหญิงชื่อดังซึ่งปัจจุบันรั้งมือ 3 ของโลกคือนักเทนนิสรายล่าสุดที่ประกาศว่าเขาจะไม่ไปแข่งโตเกียวโอลิมปิก เฉกเช่นเดียวกับเซเรน่า วิลเลี่ยมส์, ราฟาเอล นาดาล, โดมินิก ธีม, คาสเปอร์ รุด, เดนิส เชโปวาลอฟ และ สแตน วาวรินก้า เพื่อนร่วมวงการลูกสักหราดที่ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ไม่นานว่า “ไอไม่ไปโตเกียวนะ”  

 

เบน ซิมมอนส์ นักบาสเก็ตบอลชื่อดังชาวออสเตรเลีย, โทมัส โรห์เลอร์ นักกีฬาพุ่งแหลนชาวเยอรมัน เจ้าของเหรียญทองครั้งก่อน, เนธาน เอ็บเนอร์ นักรักบี้ชื่อดังจากรัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ และแม้แต่พี่ใหญ่แห่งวงการกอล์ฟอย่างหลุยส์ อุสธุยเซ่น, เซร์คิโอ การ์เซีย และ ไทร์เรลล์ ฮัตตัน ทั้งหมดที่ว่ามาก็บอกว่าจะไม่เดินทางไปโตเกียวแน่ๆ

 

แม้แต่ในแวดวงกีฬาที่ป็อบปูล่าที่สุดของโลกอย่างฟุตบอลก็มีรายงานข่าวออกมาว่าบรรดาสตาร์ตัวทีมชาติก็เริ่มทยอยประกาศถอนตัวไปดินแดนอาทิตย์อุทัยกันแล้ว ทั้งโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงชาวอียิปต์ของหงส์แดงลิเวอร์พูลและ อิบราฮิมา โกนาเต้ กองหลังชาวฝรั่งเศสที่พึ่งจะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในแอนฟิลด์ ทั้งสองรายต่างพร้อมใจกันโบกมือ “บ๊ายบาย”  

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถอนตัวจากการเล่นให้ทีมชาติอียิปต์ ในโอลิมปิก

 

ในขณะที่กระแสแข้งทีมชาติสเปนจากสโมสรชั้นนำทั้งจากแมนฯ ซิตี้, บาร์เซโลน่า, แอธ บิลเบา,เรอัล โซเชียดาด หรือแม้แต่เยลโล่ ซับมารีน บียาร์เรอัลอย่าง เฟร์รัน ตอร์เรส, โรดรี้, เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ, อูไน ซิมอน, มิเกล โอยาร์ซาบัล, เอริก การ์เซีย และ เปา ตอร์เรส ทั้งหมดที่ว่ามาสโมสรต้นสังกัดก็แสดงท่าทีที่ชัดเจนพร้อมทั้งอ้างแถลงของฟีฟ่าว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะไม่ปล่อยนักเตะรายดังกล่าวมาโตเกียวหากมันมีความเสี่ยงและอาจกระทบต่อการทำทีมในอนาคต ถึงแม้ว่าทางสมาคมฟุตบอลสเปนจะเสียงแข็งว่า “พวกยูต้องมาโตเกียวให้ได้นะ”  

 

ไม่ต่างจากฟากฝั่งฝรั่งเศสและออสเตรเลียเองที่หลายสโมสรได้เริ่มร่อนจดหมายถึงสมาคมฟุตบอลของพวกเขาให้ทบทวนและประเมินสถานการ์ณอย่างละเอียดอีกครั้งเกี่ยวกับภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในญี่ปุ่นที่หลายสโมสรต่างมองว่ากำลังล่อแหลมและน่าเป็นห่วงอย่างที่สุด  

 

“เอาแล้วไง..ถ้ามาอีหรอบนี้โอลิมปิกหนนี้จะเหลืออะไรให้ดูหล่ะ?”

 

ยอมรับและเข้าใจทุกๆฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นโอซีเอ, รัฐบาลญี่ปุ่น, สมาคมฟุตบอลและบรรดาสโมสรที่ได้กล่าวถึงทั้งหมด รวมไปถึงตัวนักกีฬาเองทุกคน เพราะทุกคนต่างมีเหตุผลส่วนตัวที่พอจะเข้าใจได้

 

โอลิมปิกหากยกเลิกขึ้นมาจริงๆ (ตามที่หลายฝ่ายพยายามขอร้อง) แล้วบรรดาเงินๆทองๆที่ลงไปตั้งกี่หลายร้อยพันกุรุสที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของญี่ปุ่นระดมกันลงทุน เงินเหล่านั้นมันจะไปเรียกเก็บกับใครล่ะ?

 

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง “เงินที่ควรจะได้” จากบรรดาสปอนเซอร์, ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด, การจำหน่ายของที่ระลึก, การขายตั๋วเครื่องบิน-ค่าเช่าโรงแรม และบรรดากิจกรรมทางการตลาดมากน้อย ทั้งหมดมันจะหายวับไปกับตา ถึงขนาดที่ว่ามีนักวิชาการจำนวนไม่น้อยเลยที่บอกว่าหากโตเกียวโอลิมปิกมีอันต้องถูกยกเลิก เผลอๆเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นหลังจากนี้ไปคงถึงคราวเข้าขั้นวิกฤติ!

 

ในขณะที่การพาเหรดถอนตัวของบรรดานักกีฬาจากหลายวงการชนิด “ถอนกันถ้วนหน้า” มันก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าในความคิดของพวกเขาเหล่านั้น “สุขภาพสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด” และแม้ว่าเหรียญโอลิมปิกพวกเขาก็อยากได้แต่ก็จำใจขอเลือกที่จะเพลย์เซฟเอาไว้ก่อนดีกว่า

 

ทีนี้กลับมาค้นหาคำตอบกับสิ่งที่ผมพาดหัวไว้กับคำถามที่ว่าโอลิมปิกที่โตเกียวหนนี้ยังน่าดูอยู่มั้ย?

 

ผมขอตอบแบบมองโลกในแง่ดีว่า “มันยังน่าสนใจและน่าดูอยู่นะ”

 

เพราะอะไรนะหรอ?

 

จริงอยู่ที่เราอาจจะไม่ได้เห็นการวาดลวดลายของซุปเปอร์สตาร์บางคนในสนาม และก็จริงอีกเช่นกันที่ว่าโอลิมปิกหนนี้ดูจะเงียบเหงาลงไปบ้างในแง่ของการประชาสัมพันธ์และข้อจำกัดหลายๆอย่างจากมาตราการของทางภาครัฐของญี่ปุ่นเอง แต่ทว่ามันก็มีสิ่งที่น่าสนใจที่ทำให้เราต้องตั้งตาดูอยู่เหมือนกัน

 

ผมว่าคงมีไม่บ่อยหรอกที่มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่มีสเกลระดับซุปเปอร์ๆบิ๊กแบบนี้จะถูกจัดขึ้นท่ามกลางอุปสรรค์และความยากลำบากที่มีตัวการมาจากโรคระบาดแบบนี้  

เหนือสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากเรื่องที่ว่าชาติไหนจะได้เหรียญเท่าไหร่, ใครจะเป็นจ้าวเหรียญทอง และนักกีฬาคนไหนจะได้ฉายแววเป็นประกายในมหกรรมครั้งนี้แล้ว สิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนดูอย่างเราๆท่านๆคือการได้เรียนรู้และได้ดูการจัดการของทางญี่ปุ่นแบบทุกขั้นตอน, ทุกกระเบียดนิ้ว, ทุกวินาที ได้ศึกษาว่าพวกเขาจัดการกันอย่างไร และเมื่อเกิดปัญหาพวกเขาเลือกที่จะแก้ไขปัญหานั้นแบบไหน นั่นแหละคือสิ่งที่น่าสนใจที่เราจะได้เห็น

 

อีกอย่างมองในแง่ของอรรถรสในการเชียร์ ผมว่าหากในหลายชนิดกีฬามันมีนักกีฬาระดับซุปเปอร์สตาร์ที่ถอนตัวออกไป มองในมุมของกองเชียร์ก็อาจจะได้ลุ้นกันสนุกมากขึ้นก็ได้ เพราะในเมื่อเวทีไร้ซึ่งตัวเต็ง(ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ) แน่นอนว่าความเข้มข้นในการแข่งขันในหลายๆรายการก็น่าจะเพิ่มขึ้น และบรรดาแฟนๆคงได้เชียร์และติดตามผ่านทางหน้าจอกันอย่างสนุก (โดยเฉพาะกองเชียร์บอลรองหรือแฟนบอลทีมเล็ก)

 

โตเกียวโอลิมปิกใกล้เข้ามาแล้วนะ..นักกีฬาทีมชาติของเราก็พร้อมแล้วเหมือนกันล่ะ!  

 

ว่าแต่ท่านผู้อ่าน..พร้อมเชียร์กันแล้วหรือยัง?

 


TAG ที่เกี่ยวข้อง

stadium

author

akinson149

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose