ย้อนดูเส้นทางในอดีต 4 ทีมไทยใน AFC Champions League | STADIUMTH

ย้อนดูเส้นทางในอดีต 4 ทีมไทยใน AFC Champions League

ศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2021 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อย่างที่รู้กันคือในปีนี้ มีทีมตัวแทนจากประเทศไทยถึง 4 ทีมด้วยกัน คือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, เชียงราย ยูไนเต็ด และ ราชบุรี เอฟซี  

โดย 3 จาก 4 ทีมนั้น ไม่ใช่น้องใหม่ในรายการนี้แต่อย่างใด ไปย้อนดูกันดีกว่าว่าเหล่าตัวแทนจากประเทศไทยในปีนี้ เคยมีผลงานอย่างไรบนเวทีระดับเอเชีย

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 หรือ พ.ศ. 2557 บีจีภายใต้ชื่อเก่า “บางกอกกล๊าส เอฟซี” ล้มชลบุรี เอฟซี คว้าถ้วย ไทยคม เอฟเอ คัพได้สำเร็จ ทำให้พวกเขาคว้าโควต้าไปเตะเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบคัดเลือกรอบที่สองในซีซั่นถัดมา

บีจีแต่งตั้ง ริคาร์โด โรดิเกวซ กุนซือชาวสเปนที่เพิ่งแยกทางกับราชบุรี มิตรผล เอฟซี เพื่อมาคุมทีมสู้ศึกเอเชีย พร้อมทัพนักเตะนำโดย บดินทร์ ผาลา, ณรงค์ จันทร์เสวก, แมทธิว สมิธ, ดาร์โก้ ทาเซฟสกี้, ลาซารัส คาอิมบี้ และกองหน้าที่เพิ่งเซ็นมาจากท่าเรือ เลอันโดร โอลิเวียรา

“เดอะ แรบบิท” ลงเล่นรอบคัดเลือกรอบสองกับแชมป์มาเลเซีย ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม ซึ่งตัวแทนจากไทยก็จัดการถล่มไปแบบสบาย ๆ 3-0 ได้ประตูจากมิดฟิลด์ชาวไทย ณรงค์ จันทร์เสวก และการเบิ้ลของ ตัวรุกชาวนามิเบีย ลาซารัส คาอิมบี้

รอบต่อมา พวกเขาได้เจอกับ ปักกิ่ง กั๋วอัน รองแชมป์ไชนีส ซุปเปอร์ลีก แต่คราวนี้ฝั่งบีจีผู้ไปเยือน ก็ต้านความแกร่งของปักกิ่งไม่ไหว พ่ายไปด้วยสกอร์ 3-0 จอดเส้นทางในเอซีแอลไว้ที่รอบเพลย์ออฟ  

เวลาผ่านไป 6 ปี บีจีพบกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งตกชั้นลงไปเล่นแชมเปี้ยน ชิพ และสร้างทีมกลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง จนคว้าแชมป์ไทยลีกได้แบบเกือบไร้พ่าย แน่นอนว่าทัพกระต่ายแก้ว จะพร้อมสำหรับการแก้ตัวบนเวทีเอเชียอีกครั้ง โดยในปีนี้ บีจีอยู่ร่วมกลุ่มเอฟ กับ อุลซาน ฮุนได (เกาหลีใต้), เวียตเทล (เวียดนาม) และ คายา เอฟซี อิโลอิโล (ฟิลิปปินส์) ที่สร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกของสโมสรเช่นเดียวกันกับทัพกระต่ายแก้ว

การท่าเรือ เอฟซี

สิงห์เจ้าท่า คว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอคัพ จากการดวลจุดโทษเอาชนะราชบุรีไปได้เมื่อปี 2019 (พ.ศ. 2562) ทำให้พวกเขาคว้าตั๋วไปลุยเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร (หลังเคยไปเพียงแค่ เอเอฟซี คัพ เมื่อปี 2010)  

ท่าเรือเสริมทัพอย่างแข็งแกร่งเพื่อเตรียมสู้ศึกแห่งเอเชีย ทั้งการยืมตัว เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ตัวรุกสารพัดตำแหน่งชาวบราซิลมาจากเมืองทอง ยูไนเต็ด, ยืมตัว อดิศักดิ์ ไกรษร มาจากเมืองทองฯเช่นกัน และเซ็นสัญญากับ ธนาสิทธิ์ ศิริผาลา ปีกตัวเก่งจากสุพรรณบุรี เอฟซี

แต่ปาร์ตี้ก็จบไวไปอย่างน่าใจหาย การท่าเรือภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ เปิดบ้าน แพท สเตเดี้ยม ที่เพิ่งปรับปรุงให้ได้มาตรฐานเอเชีย พ่ายให้กับแชมป์จากลีกฟิลิปินส์ เซเรส-เนกรอส ไปอย่างน่าเสียดาย 1-0 ทำให้สิงห์เจ้าท่าจอดป้ายตั้งแต่เกมแรกไป

การจบอันดับ 2 ของไทยลีกในเลกแรกของซีซั่น 2020 ทำให้ท่าเรือคว้าตั๋วไปลุยรอบแบ่งกลุ่มของศึกเอซีแอลได้สำเร็จ พร้อมหวังจะแก้มือจากความผิดหวังในปีก่อนหน้าให้ได้ โดยสิงห์เจ้าท่า อยู่ร่วมกลุ่มเจ กับ กว่างโจ่ว เอเวอร์แกรนด์ (จีน), คิตฉี เอสซี (ฮ่องกง) และ เซเรโซ โอซาก้า (ญี่ปุ่น)

เชียงราย ยูไนเต็ด

ความไม่ธรรมดาของ เชียงราย ยูไนเต็ด คือการจบฤดูกาลแบบ “มีถ้วยติดมือ” ติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2017 และแน่นอนว่าถ้วยแรกของพวกเขาในสถิตินี้ คือการล้มแบงค็อก ยูไนเต็ด คว้าถ้วย ช้าง เอพเอ คัพ นั่นก็ทำให้เชียงราย คว้าโควต้าไปเตะศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบคัดเลือก รอบที่สอง ในปี 2018

เชียงรายภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซานเดร กาม่า นำทัพโดย กิลแบร์โต มาเชน่า, เคลตัน ซิลวา, วิคเตอร์ คาโดโซ่, อี ยอง แร และ ฉัตรชัย บุตรพรม เอาชนะ บาหลี ยูไนเต็ด รองแชมป์ลีกอินโดนีเซียไป 2-1 ได้สองประตูจากนักเตะไทย อัครวิน สวัสดี และ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยทางเคลตัน ซิลวา เหมาคนเดียวสองแอสซิสต์อีกด้วย

แต่ในเกมต่อมา กว่างโซ้งมหาภัย ต้องเจอกับของที่แข็งกว่าเดิม อย่าง เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี รองแชมป์ไชนีส ซุปเปอร์ลีก ที่มีสตาร์ดังอย่าง ออสการ์ และ ฮัลค์ อยู่ในทีม

เชียงรายสู้สุดใจ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายไปด้วยสกอร์ 1-0 หยุดผลงานในศึกใหญ่ของเอเชียครั้งแรกไว้ที่รอบเพลย์ออฟ แต่สุดท้าย เชียงรายก็คว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ ได้อีกครั้งในปี 2018 ได้ตั๋วกลับไปลุยศึกเอซีแอลในปี 2019 อีกครั้ง

การกลับมาสานต่อภารกิจเดิมของเชียงรายในครั้งนี้ อยู่ภายใต้การคุมทีมของ ไอล์ตัน ซิลวา เฮดโค้ชชาวบราซิล นำทีมโดย บิลล์ โรซิมาร์, ศิวกรณ์ เตียตระกูล, เอกนิษฐ์ ปัญญา และโควตาเอเชียคนเดิมอย่าง อี ยอง แร และ พิธิวัตต์ สุขจิตรธรรมกุล  

พวกเขาเริ่มต้นในรอบคัดเลือกรอบที่สองเช่นเดิม คราวนี้ดวลกับแชมป์จากเมียนมาร์ ย่างกุ้ง ยูไนเต็ด ซึ่งฝั่งเชียงรายก็เอาชนะไปได้ 3-1 จาก อี ยอง แร, สุริยา สิงห์มุ้ย และ บิลล์ โรซิมาร์

แต่ก็ต้องจอดป้ายเดิมในรอบถัดมา จากการพ่ายให้กับ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิมา หลังเสมอกันในเกม 0-0 แล้วต้องดวลจุดโทษกัน โดยทางฮิโรชิมาแม่นกว่า เอาชนะในการดวลจุดโทษไป 4-3

เชียงราย ยูไนเต็ด ยังคงไม่ห่างหายไปจากรายการนี้ เพราะพวกเขาโชว์ฟอร์มแกร่งจนคว้าแชมป์ไทยลีก 2019 ได้สำเร็จ ตีตั๋วทะลุเข้าไปถึงรอบแบ่งกลุ่มในศึกเอซีแอล ปี 2020 ได้เลยทีเดียว โดยอยู่ร่วมกลุ่ม อี กับ เมลเบิร์น วิคตอรี่, ปักกิ่ง กั๋วอัน และ เอฟซี โซล

ภายใต้การคุมทีมของเศกสรร ศิริพงษ์ เชียงรายพ่ายในสองนัดแรกให้กับ เมลเบิร์น และ ปักกิ่ง แบบสูสีด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งสองนัด แต่ปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ก็ทำให้การแข่งขันต้องพักกันยาว ๆ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ มาเตะกันอีกทีเดือนพฤศจิกายน ที่สถานที่กลาง ประเทศกาตาร์  “โค้ชเต้” อลงกรณ์ ทองอ่ำ มาเป็นกุนซือขัดตาทัพ ร่วมกับ เอเมอร์สัน เปเรย์รา  แต่ก็ต้านความแกร่งของเอฟซี โซลไม่ไหว พ่ายไป 5-0 ในเกมที่สาม  

เชียงรายปลดล็อก เก็บชัยชนะนัดแรกได้สำเร็จด้วยการแก้แค้นเอฟซี โซล 2-1 จากการเบิ้ลของ บิลล์ ที่ติดโทษแบนไปในเกมที่แล้ว ต่อด้วยการเสมอกับเมลเบิร์น วิคตอรี่ แบบได้ใจแฟน ๆ เพราะถูกนำไปก่อนในครึ่งแรก 2-0 แต่ไล่ตามตีเสมอในครึ่งหลังได้ จากศิวกร เตียตระกูล และ จอนาตาร์ แวร์ตูร่า แม้ผลเสมอจะเป็นการคอนเฟิร์มว่าพวกเขาไม่ได้ไปต่อในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ก็เป็นเกมที่ได้ใจแฟนบอลไม่น้อยเลย ส่วนนัดสุดท้าย กว่างโซ้งก็ยังไว้ลาย ยันเสมอกับจ่าฝูง ปักกิ่ง กั๋วอัน ไป 1-1 ได้ประตูจาก เอกนิษฐ์ ปัญญา สุดท้ายเชียงรายก็จบด้วยอันดับที่ 4 มี 5 แต้ม ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 3 นัด  

การคว้าอันดับ 3 ในเลกแรกของไทยลีก 2020 พาเชียงรายกลับไปลุยเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีนี้ได้อีกครั้ง โดยพวกเขาจะอยู่ร่วมกลุ่ม เอช กับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส, กัมบะ โอซาก้า และ แทมปิเนส โรเวอร์ แต่จะมีเพียงทีมที่จบอันดับ 1 เท่านั้น ที่จะได้ลุยต่อในรอบต่อไป พ่วงด้วยอันดับสองที่ดีที่สุด 3 ทีม ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นการแข่งขันที่ยากกว่าเดิมของเชียงรายในการทะลุสู่รอบน็อคเอ้าท์

ราชบุรี เอฟซี

ราชันมังกร ราชบุรี เอฟซี เคยอยู่ในจุดที่ “เกือบ” จะได้เตะ ACL มาแล้ว เมื่อปี 2017 หลังจากเป็นแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ ร่วมกันกับ ชลบุรี เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี และชัยนาท ฮอร์นบิล ในปี 2016 ซึ่งสุดท้ายจากผลการจับสลาก ก็เป็นสุโขทัย ที่ได้ไปลุยศึกนี้แทน

ราชบุรีทำผลงานได้ดีเยี่ยมในเลกแรกของไทยลีกเมื่อปี 2020 พวกเขาจบอันดับที่ 4 ภายใต้การคุมทีมของ โค้ชเจี๊ยบ สมชาย ไม้วิลัย พร้อมผู้ช่วย มิลอส โจซิค โดยมีผู้เล่นเด่น ๆ อย่างเช่น ฟิลิปส์ โรเลอร์, อภิวัฒน์ เพ็งประโคน, ยานนิค โบลี และ สตีเฟ่น ล็องจิล ทำให้คว้าตั๋วไปลุยศึกเอซีแอล ปี 2021 ได้สำเร็จ แถมได้ตรงเข้าไปเตะรอบแบ่งกลุ่ม หลังจากที่ เจียงซู ซูหนิง แชมป์ไชนีส ซุปเปอร์ลีก ตัดสินใจยุบทีมไปจากปัญหาการเงิน

การเสริมทัพของทางราชบุรีก็ไม่ธรรมดา พวกเขาคว้า เซบาสเตียน วูธริช อดีตกองกลางเยาวชนทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์, จูเนียร์ มาปูกู กองหน้าชาวคองโก, ยืมตัว สรรวัชญ์ เดชมิตร มาจากแบงคอก ยูไนเต็ด และแต่งตั้งโค้ชระดับโปรไลเซนส์ เสกสรร ศิริพงษ์ มาคุมทีมเพื่อสู้ศึกครั้งนี้โดยเฉพาะ  

ราชันมังกร ลงประเดิมสนามนัดแรกของพวกเขาไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา พ่ายให้กับ โปฮัง สตีลเลอร์ส จากเกาหลีใต้ไป 2-0 โดยทีมอื่นที่อยู่ร่วมสายมี ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม และ นาโกยา แกรมปัส ซึ่งพวกเขาจะลงสนามนัดที่สองในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ เวลา 21.00 น. พบกับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

นับเป็นครั้งแรก ที่มีทีมจากประเทศไทยได้เข้าไปลุยในรอบแบ่งกลุ่มของศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 4 ทีมด้วยกัน ทางช้างศึกก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทั้งบีจี ปทุม, การท่าเรือ เอฟซี, เชียงราย ยูไนเต็ด และ ราชบุรี เอฟซี สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลย ขอเชิญชวนแฟนบอลชาวไทยทุกคน มาร่วมเชียร์ ร่วมส่งกำลังใจ ให้กับเหล่าตัวแทนจากไทยลีก ในการสู้ศึกใหญ่ระดับทวีปครั้งนี้ไปด้วยกัน เพราะพวกเขาเป็นตัวแทนของ “สโมสรไทย”