23 มิถุนายน 2564
ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ดาวยิงความหวังสูงสุดของทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ยังคงเดินหน้าทำตามความฝัน ย้ายไปค้าแข้งในลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น กับสโมสร นาโงย่า โอเชียนส์ เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน
หากมองในแง่ของความสำเร็จ “พ่อมดฟุตซอลเมืองไทย” ถือว่าทำได้ดี สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักฟุตซอลคนแรกที่คว้าแชมป์ F.League ประเทศญี่ปุ่น แต่เทียบกับผลงานส่วนตัว "สอบตก" แบบไม่ต้องสงสัย เพราะย้ายมาสบทบกับทีมล่าช้าเนื่องสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้การปรับตัวกับเพื่อนร่วมทีม และเรื่องภาษา ที่เป็นอุปสรรคใหญ่ที่เจ้าตัวต้องเจอ
ส่วนผลงานในสนาม ทำได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ลงเล่นเพียง 7 นัด ยิง 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ส่วนฟุตซอลถ้วยเอฟเอ คัพ ไม่มีชื่อลงเล่น ถ้าเป็นนักเตะคนอื่นอาจท้อแท้ และคิดย้ายกลับมาค้าแข้งที่เมืองไทย เพราะยังไงย้ายกลับมาแผนดินเกิด ก็เป็นตัวหลักของสโมสร และทีมชาติไทย ได้อยู่แล้วไม่ต้องไปเหนื่อยอะไรมาก
แต่ตรงกันข้าม "เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่แม้อายุกำลังจะเข้าสู่วัย 32 ปี ที่ไม่ได้คิดแบบนั้น และอยากพิสูจน์ให้คนญี่ปุ่น ได้รู้ว่านักเตะจากประเทศไทย มีดีแค่ไหน ทำให้ดาวเตะจากจังหวัดราชบุรี ไม่ลังเลใจต่อสัญญากับทีมออกทันทีไปอีก 1 ปี เช่นเดียวกับ นาโงย่า โอเชียนส์ เองก็มั่นใจในศักยภาพของ ศุภวุฒิ เช่นกัน
ซึ่งในครั้งนี้ทุกอย่างดูพร้อมและลงตัวมากขึ้น ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง มีเวลาเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมอย่างเต็มที่ ได้เรื่องรู้ระบบต่างๆ จากโค้ช ปรับทัศนคติความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทีม
ส่วนอุปสรรคเรื่องภาษา ที่ใช้สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม นาโงย่า โอเชียนส์ เองไม่นิ่งนอนใจ ติดต่อล่ามอย่าง คุณมนัสนันท์ ชิราโทริ มาตามประกบ "เทพอาร์ม" ทำให้เจ้าตัวหมดกังวลเรื่องภาษา พร้อมช่วยเหลือเกือบทุกอย่างทั้งในสนามและนอกสนาม ทำให้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง มีสมาธิกับฟุตซอลเพียงอย่างเดียว
แน่นอนทุกอย่างลงตัว ผลงานในสนามก็ดีตามไปด้วย ในช่วงปรีซีซั่นก่อนเปิดฤดูกาล 2021 เจ้าอาร์ม ทำผลงานได้อย่างร้อนแรง ยึดตัวหลักของทีมในเกมอุ่นเครื่อง ระเบิดสกอร์ไปถึง 7 ประตู เอาชนะใจ ฆวน เฟนเต้ กุนซือใหญ่ชาวสเปน ได้สำเร็จ
ตั้งแต่เปิดฤดูกาล "ฟุตซอลเอฟลีก 2021" หรือ ฟุตซอลลีกสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น ในช่วง 3 เกมแรกของ "เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ยึดตัวหลักของ นาโงย่า โอเชียนส์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้ง 3 นัด พาทีมคว้าชัยชนะได้ทุกเกม เก็บ 9 คะแนนเต็ม ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของลีกอยู่ในขณะนี้
ส่วนผลงานส่วนตัวของ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ยิง 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ แบ่งเป็น เกมแรก ยิง 1 ประตูใส่ บอร์ค บุลเล็ต คิตะคิวชู 3-1 เกมที่สอง ทำแอสซิสต์ประตูชัยเฉือนชนะ ฟูกาดอร์ ซูมิดะ 2-1 และล่าสุด ยิง 1 ประตูพาทีมถล่มชนะ โชนัน เบลมาเร่ 5-0
พร้อมได้รับการโหวตเลือกจากแฟนคลับนาโงย่า ให้รับรางวัล MVP หรือผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสรในช่วง 3 เกมแรก แม้รางวัลนี้อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่มันสร้างความภูมิใจให้ เจ้าอาร์ม ได้เป็นอย่างมาก ที่สามารถทำให้คนญี่ปุ่นยอมรับในฝีเท้าของนักเตะไทย ได้สำเร็จ และเป็นเชื้อไฟชั้นดี ที่ทำให้เจ้าตัวมีพลังสู้ต่อไป
เส้นทางในการค้าแข้งของดาวเตะจากอำเภอโพธาราม ในฟุตซอลลีกญี่ปุ่น ยังอีกยาวไกล และต้องทำงานหนักต่อไป ซึ่งเราชาวไทย มั่นใจว่าในปีนี้ "เทพอาร์ม" จะสามารถระเบิดฟอร์มเก่ง พา นาโงย่า โอเชียนส์ กันแชมป์ลีกได้อีกสมัย และมาลุ้นกันว่า ดาวยิงหมายเลข 9 จากประเทศไทย จะยิงประตูได้มากน้อยแค่ไหนในปีนี้
นี่ถือเป็น "บทเรียนสำคัญ" จาก ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่แม้จะถูกยกให้เป็นเบอร์หนึ่งในวงการโต๊ะเล็กไทย แต่ก็ต้องอดทน และปรับตัวให้ได้กับชีวิตค้าแข้งในต่างประเทศ บวกกับหัวใจนักสู้ที่แข็งแกร่งไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ รู้หน้าที่ของตัวเองดีว่าทำไร เพื่อใคร จนสามารถพิสูจน์ตัวเองได้สำเร็จว่า "เจ๋งพอ"
เพราะหาก ศุภวุฒิ ทำผลงานได้น่าประทับใจ ก็จะเป็นใบเบิกทางชั้นดีเปิดตลาดนักฟุตซอลไทย ได้มีโอกาสย้ายไปค้าแข้งในแดนปลาดิบต่อไปในอนาคต ในศึกฟุตซอลลีกอาชีพของประเทศญี่ปุ่น.
TAG ที่เกี่ยวข้อง