stadium

ช้างศึกดวลเสือเหลืองกับโจทย์จะไว้ลายหรือสิ้นลาย?

15 มิถุนายน 2564

ช้างศึกดวลเสือเหลืองกับโจทย์จะไว้ลายหรือสิ้นลาย?

#ช้างศึกริงไซด์ by akinson149

 

​อันที่จริงจะว่าไปมันก็มีความเหมือนคล้ายในหลายๆอริยาบทระหว่างไทยและมาเลย์อยู่เหมือนกันก่อนที่ทั้งสองทีมจะลงห้ำหั่นกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

 

​เพราะนับตั้งแต่ที่พลพรรคช้างศึกและเสือเหลืองทำการแลนดิ้งลงยูเออีเพื่อกลับมาเตะคัดบอลโลกอีกครั้งหลังจากพักเบรคไปนานถึงเกือบสองปี ทั้งสองทีมต่างยังควานหาคำว่า “ชัยชนะ” ไม่เจอ แถมยังพาเหรดแจกคะแนนฟีฟ่าให้บรรดาทีมคู่แข่งกันอย่างถ้วนหน้า(ทั้งเอแมตช์และคัดบอลโลก)แบบแจกไม่อั้นชนิด “เสี่ยสั่งลุย”

 

​เสมอทาจิกิสถาน, เสมออินโดฯ และโดนยูเออีเผาเครื่อง นั่นคือผลงานทั้งหมดของไทยหากนับเฉพาะแมตช์ที่คิดคะแนนฟีฟ่า(เสียไปแล้วมากมายถึง13.72คะแนน) ในขณะที่เสือเหลืองก็ไม่น้อยหน้าเพราะเล่นแจกแต้มแบบจ้าวบุญทุ่มด้วยการแพ้รวดทั้งสามนัดให้กับบาห์เรน, ยูเออีและเวียดนาม(เสียไปมากพอๆกันที่15.02แต้ม) มันเลยไม่แปลกที่ผมจะบอกว่าทั้งไทยและมาเลย์ต่างกำลังตกอยู่ในสถานะ “เมาหมัด” ซึ่งต้องรีบหาทางกลับมาให้ได้ไวๆเท่านั้นก่อนที่อะไร ๆ มันจะสายเกิน

 

​ไทยและมาเลย์ต่างกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนในด้านศรัทธาและความเชื่อมั่นของแฟนบอลที่มีต่อทีมชาติ ในขณะที่สิ่งที่รออยู่ข้างหน้าก็เป็นอะไรที่หมิ่นเหม่เหลือเกิน เพราะอย่างที่ผมเน้นไปนั่นแหละว่าเรื่องของอันดับฟีฟ่าซึ่งจะเป็นที่มาของโถทีมวางในการจับฉลากเอเชียนคัพรอบคัดเลือกรอบสามซึ่งหนนี้มีคิวหวดกันตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.นี้เลยมันเป็นอะไรที่ทั้งเราและเขายังต้องโฟกัส

 

​ด้วยความที่โควิด “เลื่อน” โปรแกรมทางการที่ได้วางไว้เดิมออกไปและทำให้โปรแกรมใหม่มีอันต้องถูก “เร่ง” ให้กลับมาแข่งกันเร็วขึ้น เหมือนอย่างที่เอเอฟซีเคยให้สัมภาษณ์ในทำนอง “ส่งซิก” ว่าหลังจากที่โปรแกรมคัดบอลโลกรอบสองนี้แข่งจบเรามีความจำเป็นที่จะต้องบอกว่าโปรแกรมการแข่งขันหลังจากนี้ไปจะมาในรูปแบบที่ทั้งเข้มข้นและกระชับมากขึ้น(เตะถี่ยิบแบบข้ามปีด้วยโหมดอัดแน่นแบบปลากระป๋อง)ซึ่งทุกทีมจะต้องทำการเตรียมความพร้อมไว้เสียแต่เนิ่นๆทั้งรายละเอียดเรื่องตารางแข่งขันลีกภายในรวมไปถึงการขึ้นทะเบียนนักเตะที่จะใช้

 

​อีกนัยหนึ่งว่าด้วยเรื่องการจับติ้วรอบคัดเลือกเอเชียนคัพก็มีการคาดการ์ณออกมาว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วในช่วงเดือนสิงหาคมซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะเท่ากับว่ารายการคัดบอลโลกรอบสองนี่แหละคือ “โอกาสสุดท้าย” ในการโกยแต้มฟีฟ่า(นั่นจึงเป็นที่มาที่เราได้เห็นผลการแข่งขันที่น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อยสำหรับทีมที่ตกรอบบอลโลกไปแล้วไม่ว่าจะเป็นมองโกเลียที่ฮึดชนะคีร์กิซสถานแบบเหลือเชื่อ, เติร์กเมนิสถานพลิกล็อคเบียดชนะเลบานอนซะอย่างงั้น หรือแม้แต่เนปาลก็ยังกดชนะไต้หวันทั้งที่อันดับฟีฟ่าอยู่ห่างกันมากถึงสามสิบอันดับ)

 

​“ผมกำลังจะบอกอะไรนะหรอ?”

 

​ไม่มีใครอยากพาตัวเองเข้าหาความยากลำบาก และผมกำลังจะบอกว่าแมตช์ระหว่างไทยและมาเลเซียมันคือโอกาสสุดท้ายของทั้งสองทีมในการกำหนดชะตาชีวิตตัวเองในรายการใหญ่ที่กำลังจะมาถึงอย่างเอเชียนคัพ

 

​จริงอยู่ที่เราได้เล่นรอบคัดเลือกรอบสามแล้วแน่ ๆ ไม่ว่าผลการแข่งขันกับมาเลย์จะจบลงแบบไหน แต่ก็ต้องไม่ลืมนะว่าหากเราแพ้ก็ได้โบกมือ “บ๊ายบาย” ได้เลยสำหรับโถทีมวางหมายเลข 1

 

​ในขณะที่มาเลย์ก็เช่นกันผลแพ้ชนะกับไทยในค่ำคืนนี้จะเป็นตัวกำหนดเบอร์ม้านั่งให้พวกเขาระหว่างเบอร์3หรือเบอร์4 ซึ่งแน่นอนว่าการได้เขยิบก้นมานั่งรวมกลุ่มกับบรรดาทีมในเกรดใกล้ๆกันในม้านั่งเบอร์ 3 คงเป็นอะไรที่วิเศษกว่าการนั่งไขว่ห้างแบบเซ็งๆในม้านั่งเบอร์4ยังไงหยั่งงั้น

 

​แมตช์ระหว่างยูเออีกับเวียดนามอาจน่าดูในมุมของทีมที่จะลุ้นเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายบอลโลกที่กาตาร์ แต่แมตช์ระหว่างไทยกับมาเลย์คือนิยามของคำว่า “ไว้ลายหรือสิ้นลาย”

 

​ชัยชนะเพื่อการกลับมาของศรัทธา, ชัยชนะเพื่อเป็นของฝากจากยูเออีถึงคนในชาติ และชัยชนะเพื่องานที่ง่าย(ขึ้น)ในภายภาคหน้า


stadium

author

“akinson149” พงศ์รัตน์ วินัยวัฒนวงศ์

Moderator เพจ thailandsusu (Section: บทความ-แปลข่าวบอลไทย) และคอลัมนิสต์ฟุตบอลไทย

La Vie en Rose