อุ่นเครื่องไร้ชัย..เราแผ่วปลายหรือลับ-ลวง-พรางหลอกคู่แข่ง

อุ่นเครื่องไร้ชัย..เราแผ่วปลายหรือลับ-ลวง-พรางหลอกคู่แข่ง?  

#ช้างศึกริงไซด์ by akinson149

แพ้โอมานแบบยิงเขาไม่ได้ซักลูก, นำก่อนตั้งสองลูกแต่ดันโดนท้ายเกมจนเสมอทาจิกิสถาน และโดนอุซเบฯสอนเชิงยิงแซงรวดเดียวสี่ลูกรวดทั้งๆที่เป็นฝ่ายออกนำ นั่นคือผลงานลับแข้งทั้งหมดบนดินแดนทะเลทรายก่อนเข้าทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ของทีมชาติไทยเรา ซึ่งถ้าจะว่ากันด้วยผลการแข่งขันแบบนี้คงไม่แปลกที่ใครหลายคนจะแอบอดห่วงเสียมิได้

“ไม่ได้เหนือความคาดหมาย” ผมเองไม่ได้รู้สึกเซอร์ไพร์สเท่าไหร่กับสกอร์ที่เกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องแบบปิดทั้งสามนัด เพราะโดยส่วนตัวก็แอบอ่านใจอาจาร์ยนิชิโนะว่าเขาคงให้น้ำหนักในการเทสตัวผู้เล่นและระบบมากกว่าผลการแข่งขัน เพราะมองในมุมโค้ชเองกับการพาทีมมาเตะที่ยูเออีหนนี้ที่เป้าใหญ่คงหนีไม่พ้นการพาไทยเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายให้ได้และการจะทำให้มันเกิดขึ้นคือต้องทำอย่างไรให้ทีมตัวเองพร้อมที่สุด

อย่าลืมนะว่านี่คือการพาทีมไปแข่งที่ขนาดของทีมน่าจะมากที่สุดในบรรดาทีมที่เข้าแข่งขันทั้งหมด แถมนักเตะไทยหลายคนยังไม่เคยลงสนามให้โค้ชได้เห็น มันก็เลยไม่แปลกที่ว่าการอุ่นเครื่องทั้งสามเกมเราจะได้เห็นการเปลี่ยนตัวผู้เล่นชนิด “ไม่ซ้ำหน้า” เพื่อให้โค้ชใหญ่สามารถเห็นศักยภาพของนักเตะไทยได้ครบทุกคนซึ่งมันมีผลในการฟอร์มทีมเพื่อให้ได้ทีมที่สมบูรณ์แบบตามที่โค้ชต้องการที่สุด

เพียงแต่มันยังมีคำถามที่ต้องถกกันเมื่อผลการแข่งขันมันออกมาอย่างที่เห็นว่า “ไทยเองมีปัญหาแผ่วปลายจากสภาพความฟิตหรือไม่? หรือมันแค่ผลข้างเคียงจากการเปลี่ยนผู้เล่นแบบลับ-ลวง-พลางเพื่อหลอกคู่แข่ง?”

“เออว่ะ..น่าคิดเหมือนกันกับคำถามนี้” เพราะจากสิ่งที่แฟนบอลได้เห็นไม่ว่าจะเป็นคลิปไฮไลท์สั้นๆหรือรูปภาพจากในเพจช้างศึกเองมันก็พอจะอนุมานได้ทั้งสองอย่าง(ยิงเขาได้ก็จริงแต่ก็เสียประตูบ่อยแถมยังเป็นช่วงท้ายเกมหรือหลังจากเปลี่ยนชุดผู้เล่น)

ประกอบกับถอดจากบทสัมภาษณ์ของลุงโนะเองทั้งก่อนพาทีมเดินทางมาแข่ง, ช่วงฝึกซ้อมและช่วงหลังเกม สิ่งที่เราทุกคนได้ฟังมักจะเป็นเรื่องของความกังวลถึง “คอนดิชั่น” ของนักเตะไทย ซึ่งถ้าฟังผ่านๆก็พอจะจับใจความได้ว่าสภาพความฟิตของนักเตะไทย(บางคน)ยังไม่ได้ในระดับที่จะไปให้ถึงแทคติกที่โค้ชจะจับใส่ให้ในเกม(อาจเป็นผลพวงจากการที่โควิดป่วนแคมป์ทีมชาติที่ไทยหรืออาจเป็นเพราะการร้างสนามไปนานแบบเป็นเดือนๆเป็นสาเหตุ)

มีคนบอกว่าอย่าไปคิดไรมากกับเกมอุ่นเครื่องทั้งสามนัดเพราะมันก็แค่เครื่องมือในการเสาะหา, ค้นคว้าและให้เรียกมาซึ่งตัวนักเตะและระบบการเล่นที่โค้ชต้องการในสามเกมสำคัญที่รอเราอยู่ก็แค่นั้น และก็มีอีกไม่น้อยเช่นกันที่สมทบด้วยว่าบางทีนี่อาจเป็นแผนแบบ “ลับ-ลวง-พลาง” ของอาจาร์ยนิชิโนะแน่ๆ

เห็นๆกันมาแล้วกับชุดผู้เล่นที่ถูกโค้ชนิชิโนะเลือกใช้ในซีเกมส์กับของจริงที่เกิดขึ้นในรายการยู-23 ชิงแชมป์ทวีปที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจากเหตุการ์ณนั้นที่ตัวผู้เล่นเปลี่ยนไปแบบ “หน้ามือเป็นหลังเท้า” อย่างชัดเจน หนนี้ก็อาจจะอนุมานไปได้อีกว่ามันเหมือนกันนั่นแหละ และถ้าหากมันเป็นอย่างนั้นก็ไม่แปลกที่ผลการแข่งขันในแมตช์อุ่นเครื่องทั้งสามนัดมันจะออกมา “ยู่ยี่” อย่างที่เห็น

“ถูกทุกข้อเลย” ผมว่าถูกทั้งในเรื่องความฟิตของนักเตะไทย(บางคน)ที่ผมมองว่าน่าจะยังไม่ “ปั๋ง” เต็มถังเท่าที่ควร และก็ถูกอีกเช่นกันว่าลุงโนะเองก็คงมีแผนและผังตัวผู้เล่นในใจเป็นตุ๊กตาตั้งไว้อยู่แล้ว ส่วนสามเกมลับแข้งที่ได้ก็มีไว้เพื่อยืดเส้นยืดสาย, เทส, ทำให้แน่ใจและก็มีไว้เพื่อแก้ไขจุดบอดของทีมจากการเสียผู้เล่นตัวหลักหลายคน

ของจริงคือเกมกับอินโดฯ! และเผลอๆดีๆไม่ดีอาจมีลับ-ลวง-พลางซ้อนสองชั้นในเกมนั้น เพราะอย่างที่ผมเคยเขียนไว้ในเพจว่ากับบอลอินโดฯที่ชูเรื่องความสดและความเร็ว, สถานการ์ณใบเหลืองสะสมของนักเตะไทยบางคนและผลกระทบจากการที่เกาหลีเหนือถอนทีมกลางคันซึ่งทำให้เวลาคิดเรื่องโควต้าทีมอันดับสองที่ดีที่สุดต้อง “ดีลีท” เกมกับทีมบ๊วยออกทั้งหมด ผมว่าเกมแรกกับอินโดฯบางทีลุงโนะอาจกำชับผู้เล่นให้เน้นผล, เล่นให้เร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะซึ่งอาจนำมาซึ่งอาการบาดเจ็บ และคงเลือกส่งผู้เล่นลงสนามโดยพิเคราะห์อย่างละเอียดถึงที่สุดแบบวางหมากไว้อีกชั้นด้วยการส่งผู้เล่นรุ่นๆที่สดและ “อุปไต๋” ตัวหลักหรือพวกมากประสบการ์ณไว้สำหรับเกมกับเจ้าบ้าน

“ยิ่งคิด ยิ่งมันส์!” ผมชักอยากให้ถึงวันที่3เร็วๆซะแล้ว เพราะเราน่าจะได้เห็นอะไรหลายๆอย่างโดยเฉพาะ “กึ๋น” ของโค้ชและทีมงาน

ว่าแต่ท่านผู้อ่าน..จากเกมอุ่นเครื่องทั้งสามนัด ท่านว่าเราแผ่วปลายเพราะไม่ฟิตหรือมันคือแผนลับ-ลวง-พลางเพื่อหลอกคู่แข่ง?