stadium

หลาง ผิง : อัจฉริยะแห่งวงการวอลเลย์บอล

16 พฤษภาคม 2564

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ในการเเข่งขัน "โอลิมปิกเกมส์" ที่กรุงริโอฯ ประเทศบราซิล "ตบสาวเเดนมังกร" ทีมชาติจีน สามารถคว้า "เเชมป์วอลเลย์บอลในร่ม" มาครองได้สำเร็จ หลังจากตบเอาชนะ เซอร์เบีย ทีมเเกร่งจากยุโรป ไปแบบสุดมัน 3-1 เซต รวมทั้งยังน็อค "เจ้าภาพ" บราซิล เเบบสุดช็อคในรอบก่อนรอง ฯ ต่อหน้าแฟนลูกยางเกือบ 10,000 คน ที่สนาม มาราคาน่าฯ

 

จู ถิง ยอดดาวตบเจ้าของความสูง 197 เซนติเมตร อาจเปรียบเหมือนหัวใจสำคัญของ "ตบสาวจีน" ที่นำทีมคว้า "เหรียญทองโอลิมปิกฯ" มาครองเป็นหนที่ 3 ในประวัติศาสตร์(1984, 2004, 2016) โดยได้รับเลือกเป็น "ผู้เล่นทรงคุณค่า" หลังทำไปทั้งสิ้น 179 คะเเนน(สูงที่สุดในทัวร์นาเมนต์) เเต่ความจริงเเล้วคนที่สำคัญที่สุดในทัวร์นาเมนต์ของ "ตบสาวจีน" คงหนีไม่พ้น หลาง ผิง ยอดโค้ชจอมเเท็คติค ที่เคยได้สัมผัส "เเชมป์โอลิมปิกฯ" มาเเล้วในฐานะนักกีฬาจีน เมื่อปี 1984 ที่ลอสเเอนเจลิส สหรัฐอเมริกา

 

 

 

"สาวน้อยจากเทียนจิน สร้างชื่อดังก้องโลก"

 

หลาง ผิง เกิดเมื่อปี 1960 ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน โดยก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ "ตบสาวจีน" ด้วยวัยเพียงเเค่ 18 ปี หลาง ผิง ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมชาติจีนได้สำเร็จ (ช่วงเเรกมีรุ่นพี่ได้รับบาดเจ็บ) โดยเเชมป์ใหญ่รายการเเรกคือ "เวิลด์ คัพ" ปี 1991 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในรายการระดับโลกครั้งเเรกของ "ตบสาวจีน" เพราะว่าก่อนหน้านั้นพวกเขาทำได้ดีที่สุดเเค่ เเชมป์เอเชีย(1979) เท่านั้น

 

นับตั้งเเต่ปี 1980 เป็นต้นมา "ตบสาวจีน" กลายเป็นทีมระดับเเนวหน้าของวงการลูกยางโลก เเละประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ซึ่งหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมยุคนั้นคือ หลาง ผิง โดยเฉพาะในการเเข่งขันวอลเลย์บอลชิงเเชมป์โลกปี 1992 ที่ประเทศเปรู, วอลเลย์บอลโอลิมปิกฯ 1984 ที่ลอสเเอนเจลิส เเละ วอลเลย์บอลเวิลด์ คัพ 1985 ที่ประเทศญี่ปุ่น

 

"ตบสาวจีน" ภายใต้การนำทัพของ หลาง ผิง สามารถผงาดคว้าเเชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ทั้ง 3 รายการ ไล่จากตบเอาชนะ "เจ้าภาพ" เปรู ในรอบชิงชนะเลิศ วอลเลย์บอลชิงเเชมป์โลกฯ ต่อด้วยสอนเชิง "เจ้าถิ่น" สหรัฐฯ ในรอบชิงเหรียญทองโอลิมปิกฯ เเละปิดท้ายด้วยการเบียดชาติมหาอำนาจอย่าง คิวบา เข้าป้ายเเชมป์ "เวิลด์ คัพ" สมัยที่ 2 ของทีมชาติจีน โดยทั้ง 3 รายการ รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า "MVP" ตกเป็นของ ยอดดาวตบที่มีชื่อว่า หลาง ผิง

 

 

ชีวิตมันต้องเดินตามหาความฝัน

 

เหมือนเป็นเรื่องที่ช็อควงการลูกยางจีนพอสมควร เพราะว่าในปี 1996 หรือว่าหลังจากคว้าเเชมป์ "เวิลด์ คัพ" สมัยที่ 2 มาครองได้เพียง 1 ปี หลาง ผิง ตัดสินใจประกาศอำลาทีมชาติด้วยวัยเพียงเเค่ 26 ปีเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าอยากที่จะก้าวขึ้นไปเป็น ผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอล เเละเตรียมออกเดินทางไปเรียนต่อสาขาการจัดการกีฬา ณ มหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก สหรัฐฯ

 

นอกเหนือจากการเรียนเเล้ว หลาง ผิง ยังรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมลูกยางมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสาย "ผู้ฝึกสอนอาชีพ" เเม้ว่าจะยังไม่ได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันจากการทำงานที่นี่ เเต่ว่าอย่างน้อยที่สุด หลาง ผิง ก็ได้รับประสบการณ์สำคัญเกี่ยวกับการทำทีมวอลเลย์บอล รวมทั้งยังได้ฝึกภาษาจนสามารถสื่อสารได้อย่างคล่องเเคล่ว โดยเฉพาะในเรื่องของวอลเลย์บอล

 

 

 

 

 

จากนักวอลเลย์บอล ผันตัวเองสู่ผู้ฝึกสอน

 

ในปี 1990 "ตบสาวจีน" ประกาศเรียกตัว หลาง ผิง กลับมาช่วยทีมอีกครั้งในการเเข่งขันวอลเลย์บอลชิงเเชมป์โลก ที่จีนรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ เเต่ว่าคราวนี้ หลาง ผิง ทำได้ดีที่สุดเพียงเเค่การพาทีมจบเป็น "รองเเชมป์" หลังจากพ่ายต่อ สหภาพโซเวียต ในรอบชิงชนะเลิศ 1-3 เซต เเละนั่นคือการลงเล่นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายอย่างเป็นทางการของ หลาง ผิง

 

หลังจากบ่มเพราะฝีมืออยู่หลายปีกับ มหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก ก็ถึงเวลาที่ หลาง ผิง ต้องลงวาดลวดลายในสนามจริง ทีมชาติจีน ตัดสินใจเรียกตัว หลาง ผิง มาร่วมงานอีกครั้งเเต่เป็นในบทบาทของ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ซึ่งถือเป็น "โค้ชหญิง" คนเเรกในประวัติศาสตร์ของทีมชาติจีน โดยผลงานที่ออกมาค่อนข้างน่าพอใจเเม้ว่าจะไม่มีเเชมป์ระดับโลกติดมือ

 

เริ่มจากปี 1995 ทีมชาติจีน จบเป็นอันดับ 3 ในการเเข่งขันเวิลด์ คัพ ที่ญี่ปุ่น, "รองเเชมป์" โอลิมปิกฯ 1996 ที่แอตแลนต้า โดยพ่ายต่อยอดทีมอย่าง คิวบา 1-3 เซต, เเชมป์วอลเลย์บอลชิงชนะเลิศแห่งเอเชียปี 1997, แชมป์เอเชียนเกมส์ 1998 ที่กรุงเทพมหานครฯ เเละ รองแชมป์วอลเลย์บอลหญิงชิงเเชมป์โลกปี 1998 ที่ญี่ปุ่น ซึ่งพ่ายต่อ คิวบา อีกครั้งด้วยสกอร์ 0-3 เซต รวมทั้งยังเคยได้รับเลือกเป็น "ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม" ประจำปี 1996 ของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ "FIVB"

 

หลาง ผิง ตัดสินใจประกาศอำลาตำแหน่ง ผู้ฝึกสอนทีมชาติจีน ในช่วงปลายปี 1998 ด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพ เเต่ถัดมาในช่วงกลางปี 1999 กลับตอบรับงานคุมทีม โมเดน่า ในลีกอีตาลี ซึ่งเป็นช่วงใกล้เคียงกับที่ เจ้าตัว ได้รับการติดต่อทาบทามจาก ทีมชาติสหรัฐฯ ให้ไปคุมทีมเช่นเดียวกัน เเต่ว่าสุดท้าย หลาง ผิง ต้องตอบปฏิเสธเพราะเพิ่งจรดปากกาเซ็นสัญญากับ โมเดน่า ไปก่อนหน้าเพียงไม่นาน

 

 

รับงานคุมทีมระดับโลก ความท้าทายครั้งสำคัญ

 

หลาง ผิง โลดเเล่นอยู่ใน ลีกอิตาลี เป็นเวลา 5 ฤดูกาล จนกระทั่งปี 2005 ก็ตัดสินใจเข้ารับงานคุมทัพ สหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการ หลังเคยตอบปฏิเสธไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน โดยเป้าหมายสำคัญคือการนำทีมลุย โอลิมปิกฯ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เเต่กว่าที่ เจ้าตัว จะตัดสินใจตอบรับข้อเสนอของ สหรัฐฯ ก็คิดไตร่ตรองเป็นเวลานานพอสมควร เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของแฟนวอลเลย์บอลชาวจีน เเต่สุดท้ายทุกคนก็เข้าใจเธอเป็นอย่างดีเเละยังอวยพรให้ประสบความสำเร็จ

 

โค้ชสาวคนดัง เเสดงให้เห็นถึงฝีมือระดับโลกในการคุมทัพ สหรัฐฯ โดยนำลูกทีมตีตั๋วทะลุสู่ รอบชิงชนะเลิศ โอลิมปิกฯ 2008 ได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากล้มยอดทีมอย่าง คิวบา ลงได้เเบบราบคาบ 3 เซตรวดในรอบตัดเชือก เเต่ว่าน่าเสียดายที่สุดท้ายเเล้ว สหรัฐฯ ก็ต้องพ่ายต่อ บราซิล ไปแบบน่าเสียดาย เเละทำได้ดีที่สุดเพียงเเค่ เหรียญเงินโอลิมปิกฯ เท่านั้น ซึ่งนั้นเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของ หลาง ผิง กับการคุมทีม สหรัฐฯ 

 

ย้อนกลับไป รอบเเบ่งกลุ่ม หลาง ผิง มีโอกาสคุมทัพ สหรัฐฯ ลงสนามดวลกับ จีน ผลปรากฏว่า สหรัฐฯ เป็นฝ่ายเอาชนะไปแบบสุดมัน 3-2 เซต โดยเกมนั้น หู จิ่นเท่า ประธานาธิบดีของจีน เเละ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางเข้ามาชมการเเข่งขันที่ข้างสนาม รวมทั้งยังมียอดคนดูการถ่ายทอดสดในจีนสูงถึง 250 ล้านคน

 

 

 

 

 

หวนคืนทีมชาติบ้านเกิด กับการปลุกยักษ์หลับให้ตื่น

 

หลาง ผิง ตัดสินใจกลับมาคุม ทีมชาติจีน อีกครั้งในปี 2013 ด้วยชื่อเสียงเเละเกียรติยศที่สั่งสมเอาไว้อย่างต่อเนื่องนับตั้งเเต่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ฝึกสอน ส่งผลให้ทุกคนคาดหวังว่า หลาง ผิง จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับ ทีมชาติจีน ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงขาลงเเละได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นหลักพอสมควร เเต่ทุกอย่างมันไม่ง่ายอย่างที่คิด หลาง ผิง เจอกับเรื่องสุดช็อคในการเเข่งขันชิงเเชมป์เอเชีย 2013 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยพวกเขาทำได้เพียงเเค่อันดับที่ 4 เท่านั้น ซึ่งถือเป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์ที่ "ตบสาวจีน" จบต่ำกว่าอันดับที่ 3 ในการเเข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ เเละนั่นกลายเป็นอีก 1 จุดเปลี่ยนสำคัญของ ทีมชาติจีน

 

นับตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา ทีมชาติจีน เริ่มมีผลงานดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้การคุมทัพของ หลาง ผิง สไตล์การเล่นเริ่้มมีการผสมผสานเเละเปลี่ยนแปลงจากเดิม ผู้เล่นดาวรุ่งหน้าใหม่ ๆ เริ่มตบเท้าเข้ามาติดธงรับใช้ชาติมากขึ้น เเละพวกเขาเหล่านี้กลายเป็นกำลังสำคัญในการช่วย หลาง ผิง พาทีมชาติบ้านเกิดกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง เริ่มจากการจบเป็น อันดับที่ 2 ในรายการชิงเเชมป์โลกที่อิตาลี(เเพ้ต่อ สหรัฐฯ ในรอบชิงฯ) ตามมาด้วยคว้า เเชมป์เวิลด์ คัพ 2015 ที่ญี่ปุ่น 

 

ส่วนผลงานชิ้นโบว์แดงของ หลาง ผิง กับการคุมทัพ จีน ในรอบล่าสุดคือ เเชมป์โอลิมปิกฯ 2016 ที่ประเทศบราซิล เเม้ว่าพวกเขาจะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์มาได้แบบหวุดหวิด เเต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ "มังกรสาว" ได้มีโอกาสออกมาอาละวาดกันอีกครั้ง โดยในรอบก่อนรองฯ จีน น็อคทีมเต็งจ๋าเเละเจ้าภาพอย่าง บราซิล ไปแบบสุดมัน 3-2 เซต ต่อด้วยแก้เเค้น เนเธอร์เเลนด์ ในรอบตัดเชือกได้สำเร็จ หลังจากที่พวกเขาเคยเเพ้มาในรอบเเบ่งกลุ่ม ก่อนสุดท้ายจะทุ่มเททั้งเเรงกายเเรงเเซงเอาชนะ เซอร์เบีย ไปได้ 3-1 เซต ผงาดครองตำแหน่ง เเชมป์โอลิมปิกฯ ได้อย่างยิ่งใหญ่ ณ กรุงริโอ เดอ จาเนโร

 

 

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา

 

หลังจบการเเข่งขัน โอลิมปิกฯ 2016 ที่บราซิล หลาง ผิง ก็ยังคงดูเเล ทีมชาติจีน มาอย่างต่อเนื่อง ประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์สำคัญ ๆ เหมือนที่ผ่าน ๆ มา ไม่ว่าจะเป็น เเชมป์เวิลด์ คัพ 2019 ที่ญี่ปุ่น, อันดับ 3 วอลเลย์บอลชิงเเชมป์โลกปี 2018 ที่ญี่ปุ่น หรือเเม้เเต่ อันดับที่ 3 เนชั่นส์ ลีก ปี 2018 เเละ ปี 2019 ที่ประเทศจีน ส่วนเป้าหมายสำคัญ คือการพาทีมลงป้องกัน เเชมป์โอลิมปิกฯ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2020

 

เมื่อช่วงกลางปี 2020 หลาง ผิง ได้ออกมาประกาศว่า ตนเอง จะวางมือจากการคุมทัพ "ตบสาวจีน" หลังจบการเเข่งขัน โอลิมปิกฯ ที่กรุงโตเกียว เพราะว่าต้องการพักผ่อนเเละใช้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ หลังจากโลดเเล่นอยู่ในวงการวอลเลย์บอลมาอย่างยาวนานนับตั้งเเต่อายุ 18 ปี ซึ่งความจริงเเล้ว เจ้าตัว จะต้องยุติบทบาทการคุมทัพไปตั้งเเต่ปีก่อนหากว่าไม่มีการเเพร่ระบาดของโควิด-19 เเต่ว่าการเลื่อนเเข่ง "โตเกียวเกมส์" มาเป็นในปี 2021 ทำให้ เจ้าตัว ยังรอเวลาที่จะก้าวลงจากบัลลังก์อย่างเป็นทางการ


TAG ที่เกี่ยวข้อง

stadium

author

Plug

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose