stadium

ขอกำลังใจให้ทีมชาติไทยในวันที่เราต้องรบทั้งในและนอกสนาม

11 พฤษภาคม 2564

ขอกำลังใจให้ทีมชาติไทยในวันที่เราต้องรบทั้งในและนอกสนาม

#ช้างศึกริงไซด์ by akinson149

 

“ทำไมถึงไม่ระวังกัน?”  

 

“อยากรู้จังว่าคนที่ติดโควิดเป็นใคร”

 

“’งานเข้าแระ! คงต้องพึ่งนักเตะชุด2ที่ยังไม่ได้เข้าแคมป์บวกตัวนอกแล้วล่ะ”

 

นี่เป็นส่วนหนึ่งของคอมเม้นต์ตามหน้าไซเบอร์หลังจากที่ข่าวการติดเชื้อโควิด-19 ในแคมป์ทีมชาติได้ถูกประกาศออกมาไม่นาน แถมก็มีเซียนคีย์บอร์ดจำนวนไม่น้อยที่ซอยแป้นพิมพ์รัวๆในเชิงคล้ายตามไม่ต่างจากช่วงเวลาแห่ง “ความเพลิดเพลิน” ในการแสดงออกทางความคิดเห็นซึ่งอาจตกหล่นและหลงลืมไปว่านี่มันทีมชาติ  

 

“วิจารณ์กันได้ไม่ว่าแต่จะดีกว่าหากมาช่วยระดมสมองกัน” เพราะคอมเม้นต์แบบข้างต้นมันไม่ได้ก่อให้เกิดพลังงานด้านบวก, ไม่สามารถช่วยให้สถานการ์ณของทีมดีขึ้น แถมอาจทำให้ “คนหน้างาน” ต้องเสียกำลังใจตั้งแต่ก่อนไปขึ้นเครื่องเลยด้วยซ้ำ

 

จริงอยู่ที่ว่าเรามีกลุ่มนักเตะและทีมงานทีมชาติหลายชีวิตที่กำลังตกอยู่ในสภาวะ “เสี่ยง” ที่อาจจะติดเชื้อ แต่มันก็ยังไม่ได้หมายถึงว่าทีมของเราจะต้อง “สูญเสียจนเสียศูนย์” ถึงขนาดที่ต้องโละทีมงานชุดแรกทิ้งทั้งหมดแล้วไปหวังเอาดาบหน้ากับนักเตะชุดสอง, ตัวนอก หรือแม้แต่ผู้เล่นนอกลิสต์ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันไม่ทันกับวันและเวลาบนหน้าตั๋วเครื่องบินแค่นั้น

กรณีศึกษาก็เคยมีให้เห็นมาแล้วหลายเคสและหนึ่งในนั้นคือเคสของทีมชาติเยอรมันที่ครั้งหนึ่งมีรายงานข่าวปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์ทั้งแบบออนไลน์และเปเปอร์ว่ามีนักเตะในแคมป์ทีมชาติติดเชื้อโควิดก่อนที่เกมทางการที่พวกเขาจะต้องลงเล่นกับไอซ์แลนด์จะมีขึ้นไม่นาน

 

และในครั้งนั้นทีมงานโค้ชก็ได้จัดแจงแยกนักเตะรายที่ติดเชื้อออกเพื่อกักตัวรวมถึงกันเพื่อนร่วมห้องและผู้ใกล้ชิด แต่นักเตะรายอื่นที่ไม่อยู่ในข่ายคลุกคลีกับนักเตะรายดังกล่าว โค้ชโยอาคิม เลิฟ ก็จัดแจงออกแบบโปรแกรมการฝึกซ้อมที่เน้นเป็นกิจกรรมแบบเดี่ยวหรือเป็นกิจกรรมที่มีการเว้นระยะห่างแทนการฝึกซ้อมแบบปกติ โดยมีการร้องขอพื้นที่ฝึกซ้อมรวมไปถึงอุปกรณ์ที่มากขึ้นถึงสามเท่าตัว มีการแบ่งนักเตะออกเป็นกลุ่มย่อยๆหลายๆกลุ่มและแยกกันซ้อมกระจายหลายๆสนามโดยแต่ละกลุ่มจะมีทีมงานโค้ชคอยกำกับการฝึกซ้อมตลอดเพื่อให้เป็นไปตามโปรแกรมที่เลฟต้องการ

 

ในขณะที่ก่อนที่เกมการแข่งขันจะมาถึงก็มีการยืนยันว่านักเตะเยอรมันทุกคนได้รับการตรวจแบบ “รีเช็ค” ถึงสามครั้ง และทุกๆสามวันเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่เป็นผู้ติดเชื้อได้ลงสนาม

อีกเคสที่เคยเกิดขึ้นจากผลของการพิษโควิด-19 ที่ป่วนทีมฟุตบอล ครั้งนั้นเกิดขึ้นกับทีมเล็กๆในบราซิลอย่างทีมมิราสโซล ทีมในเซเรีย ดี หรือระดับดิวิชั่น4 ของลีกแซมบ้า ซึ่งหนนั้นพวกเขาได้ส่งทีมเข้าแข่งขันในรายการคัมปิโอนาโต้ เปาลิสต้า ซึ่งเป็นรายการที่จัดแข่งทุกๆปี ถือเป็นรายการกึ่งสมัครเล่นที่ถือว่าเก่าแก่และจัดมาแล้วต่อเนื่องถึง 119 ครั้ง ซึ่งทีมที่สามารถเข้าสู่รอบชิงฯรายการนี้ได้จะได้รับสิทธิ์ลงเล่นในรายการโคปา เดอ บราซิล ซึ่งถือเป็นบอลถ้วยระดับประเทศที่ผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์หนึ่งที่นั่งในโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส รายการแข่งขันที่มีสเกลใหญ่ที่สุดระดับชิงแชมป์สโมสรทวีป

 

ก่อนที่เกมที่พวกเขาต้องดวลกับทีมใหญ่อย่าง เซาเปาโล ในรอบแปดทีมสุดท้ายจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ทีมมิราสโซลถูกตรวจพบว่ามีนักเตะมากถึง 18 คน ติดเชื้อโควิด-19 แถม 8 จาก 18 คนยังเป็นนักเตะในชุดตัวจริงเสียด้วย นั่นทำให้ทีมงานโค้ชเครียดอย่างหนักเพราะพวกเขาเหลือเวลาให้แก้ไขสถานการ์ณไม่ถึง 48 ช.ม. ก่อนที่เดทไลน์ส่งรายชื่อนักเตะชุดสุดท้ายจะมาถึง แถมตัวเลือกที่เหลืออยู่ก็มีแต่นักเตะจากอะคาเดมี่ที่แต่ละคนอายุยังไม่ถึง20ปีทั้งนั้น

 

ครั้งนั้น โค้ชริคาร์โด้ กาตาล่า จัดแจงแก้ไขสถานการ์ณด้วยการร้องขอ เซ โรแบร์โต้ ซึ่งขณะนั้นนั่งแท่นตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของสโมสรลงเล่นในเกมดังกล่าวภายใต้ความเชื่อที่ว่าแม้เจ้าตัวจะอายุปาเข้าไปถึง45ปีแต่ความเก๋าและประสบการ์ณของเขาจะช่วยพยุงทีมให้ฝ่าวิกฤตินี้ไปได้

เซ โรแบร์โต้ อดีตแบ๊กซ้ายทีมชาติบราซิล

 

“ผมได้รับสายโทรศัพท์เมื่อช่วงกลางดึกถึงสถานการ์ณของทีมที่เลวร้ายเอามากๆ ผมรีบหาตั๋วเครื่องบินทันทีและบินมาที่นี่ในวันรุ่งขึ้น และผมก็ลงเล่นในวันนี้ในขณะที่พึ่งจะได้ซ้อมกับทีมแค่ไม่กี่ชม.ก่อนแข่ง”  

 

“สิ่งเดียวที่ผมได้บอกกับลูกทีมของผมซึ่งหลายคนดูจะกังวลและตื่นเต้นอย่างมากคือ ให้เชื่อมั่นในกันและกันและเราจะผ่านมันไปให้ได้” ถอดจากบทสัมภาษณ์ของเจ้าตัวหลังอดีตแบ็คซ้ายทีมชาติบราซิลซัลโวในเกมดังกล่าวถึงสองลูกพาทีมบ้านเกิดชนะทีมใหญ่อย่าง เซาเปาโล ทะลุเข้ารอบสี่ทีมสุดท้ายได้เป็นประวัติศาสตร์สโมสร

“พระเจ้ามักประทานอุปสรรค์ที่ยากเพื่อทดสอบศรัทธาและความเชื่อมั่น”    

 

ผมคิดว่าในเวลาที่เรากำลังตกอยู่ในสถานการ์ณที่ยากลำบากแบบนี้ หากเราช่วยกันระดมความคิดและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เราจะฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปได้  

 

ขอเป็นกำลังใจให้นักเตะไทยและทีมงานสต๊าฟทุกคนให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤตินอกสนามนี้ไปให้ได้  

 

“ไทยแลนด์!”

 


stadium

author

“akinson149” พงศ์รัตน์ วินัยวัฒนวงศ์

ผู้จัดการสื่อสารการตลาด & มีเดีย หนุ่มเมืองเหนือไฟแรง : ผู้บรรยายฟุตบอล และบรรณาธิการกีฬา ที่คลั่งไค

La Vie en Rose