stadium

"แนวรุกในฝัน" ของทัพ "ช้างศึก" ก่อนตะลุยคัดบอลโลก ณ ยูเออี

8 พฤษภาคม 2564

"แนวรุกในฝัน" ของทัพ "ช้างศึก" ก่อนตะลุยคัดบอลโลก ณ ยูเออี
#แบกเป้ดูบอลไทย By #เก้นนิติพงษ์

 

ขึ้นชื่อว่าการมีเกมรุกที่ดี เท่ากับว่าคุณมีโอกาสหยิบจับชัยชนะเกินครึ่งแล้ว เพราะสุดท้ายแล้วฟุตบอลนั้นตัดสินกันที่จำนวนประตูที่ทำได้ ดังนั้น “ผู้เล่นในแนวรุก” จึงเป็นอะไรที่แฟนบอลทุกให้การจับตามองมากเป็นพิเศษ

 

จาก 47 ผู้เล่นที่ อากิระ นิชิโนะ เลือกเข้ามาติดธงในครั้งนี้ แน่นอนว่าจะมีเพียงแค่ 25 คนเท่านั้นที่ได้เดินทางไปยัง ยูเออี ท่ามกลางเป้าหมายของการเก็บ 3 คะแนนในแต่ละนัด เพื่อพาทีมชาติไทยเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายให้ได้ แน่นอนว่า 25 ขุนพลทัพ “ช้างศึก” ชุดนี้ จะต้องเป็นนักเตะที่ นิชิโนะ หมายมั่นปั้นมือ และคาดหวังในฝีเท้ามากพอสมควร

 

ท่ามกลางกลุ่มนักเตะที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย วันนี้เราจะมาโฟกัสกลุ่มนักเตะในแนวรุกที่เชื่อว่าอาจจะเป็นเซ็ตแผงรุกในฝันของทีมชาติไทย ด้วยการผสมผสานระหว่างผลงานห้วงเวลาปัจจุบัน, ความสามารถ และประสบการณ์ ที่เราเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ทัพ “ช้างศึก” มีลุ้นในคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รอบต่อไปนั่นเอง

 

"แนวรุกในฝัน" ของทัพ "ช้างศึก" ทั้งสามคนนั้นจะเป็นใคร เราไปติดตามกัน...

 

เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์

เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์

 

ว่ากันว่านี่คือหนึ่งในแข้งรุ่นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยศักยภาพมากที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอลไทยในยุคปัจจุบัน จนมีข่าวหลายครั้งว่า เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ นี่แหละคือคนที่ใช่ และพร้อมที่สุดที่จะเดินทางไปสานต่อความยิ่งใหญ่ของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในเวทีเจลีก และผลงานการแอสซิสต์มากที่สุดในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 ด้วยจำนวน 14 ครั้ง ก็น่าจะเพียงพอต่อการพิสูจน์ว่า เจ้าเท่ห์พร้อมแล้วกับการลงรับใช้ทีมชาติไทยในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกหนนี้

 

จุดเด่นของเจ้าตัวที่ชัดเจนที่สุดก็คือ “ความเร็ว” ชนิดหาตัวจับได้ยาก บวกกับเทคนิค และสายตาการมองหาช้อยส์ที่ใช่ที่สุดในการทำให้ทีมได้ประโยชน์ คืออาวุธหลักที่ทำให้แนวรุกจาก สมุทรปราการ ซิตี้ ฉายฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้

 

นอกจากนี้ “เจ้าเท่ห์” ยังสร้างอิมแพคในสนามได้มากกว่าแนวรุกในลีกหลายๆคน โดยเฉพาะการสร้างสรรค์เกม ตลอดจนการเคลื่อนที่ในยามที่ไม่มีบอล เรียกได้ว่าต่อให้บอลจะอยู่ในเท้า หรือไม่อยู่ในเท้า แต่ เจริญศักดิ์ ก็ยังสร้างประโยชน์ และเพิ่มความน่ากลัวให้กับทีมอยู่เสมอ

 

สุภโชค สารชาติ

สุภโชค สารชาติ

 

จากนักเตะในระดับเยาวชน เจ้าตัวได้ใช้เวลาแค่ไม่กี่ปีในการพัฒนาตัวเองก้าวขึ้นมาสู่การเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดีที่สุดของประเทศ การประกาศศักดายึดตำแหน่งตัวจริงในทีมที่เต็มไปด้วยมาตรฐาน และการแข่งขันที่สูงลิบอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย คือผลงานที่พิสูจน์ถึงความเก่งกาจของ สุภโชค สารชาติ ได้เป็นอย่างดี และคงไม่มีเหตุผลอันใดที่ อากิระ นิชิโนะ จะไม่ใส่ชื่อเจ้าตัวเป็นหนึ่งในแข้งที่บุกตะลุย ยูเออี

 

ผลงาน 9 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ คือสิ่งที่บ่งบอกถึงมาตรฐานการเล่นที่เปี่ยมไปด้วยความคงเส้นคงวา นี่คือข้อดีที่แนวรุกจากทัพ “ปราสาทสายฟ้า” รายนี้ทำได้ดีไม่มีตก และด้วยวัยที่กำลังจะย่างกรายเข้า 23 ปี นี่คือจุดเด่น และเป็นข่าวดีของแฟนบอลไทยทุกคนว่า เจ้าเช็คยังมีเวลาที่จะพัฒนาฝีเท้าไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก

 

ความสารพัดประโยชน์ในตำแหน่งการเล่น และการจบสกอร์ได้ในทุกรูปแบบ คืออาวุธเด็ดที่มั่นใจว่า หาก อากิระ นิชิโนะ วางชื่อของเจ้าตัวเป็นหนึ่งใน 11 ตัวจริง เราจะได้เห็น สุภโชค แผลงฤทธิ์ และปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งได้อย่างแน่นอน

 

ชนาธิป สรงกระสินธ์

ชนาธิป สรงกระสินธ์

 

คงไม่ต้องสาธยายถึงคุณภาพในฝีเท้าของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพราะนี่คือความภูมิใจของวงการลูกหนังบ้านเรา และเราคงพูดได้อย่างเต็มปากว่า เจ คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย ด้วยความครบเครื่องทั้งลูกยิง ลูกจ่าย มันสมอง และความแข็งแกร่ง

 

ความเป็นมืออาชีพทั้งใน และนอกสนาม มันสมองในการเล่น บวกกับเซนส์การเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่คับขัน กระดูกบอลที่แข็งโป๊กหลังได้ลับแข้งกับนักเตะฝีเท้าชั้นเลิศในลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในเอเชียอย่าง เจลีก ได้ช่วยหล่อหลอมให้เพลย์เมคเกอร์จาก คอนซาโดเล ซัปโปโร รายนี้ก้าวขึ้นมาเป็นแข้งระดับเอเชียเป็นที่เรียบร้อย และถึงแม้ว่าจะมีข่าวออกมาว่าเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่มั่นใจได้เลยว่า เจ้าตัวนั้นพร้อมที่จะสวมเสื้อหมายเลข 18 เดินนำทัพนักเตะทีมชาติไทยลงต่อกรกับคู่แข่งบนผืนแผ่นดินตะวันออกกลางได้อย่างแน่นอน

 

สำหรับ ทีมชาติไทย จะเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 21 พฤษภาคม และมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 2 นัด พบกับ โอมาน ในวันที่ 25 พฤษภาคม และพบกับ ทาจิกิสถาน วันที่ 29 พฤษภาคม ก่อนทำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2

 

โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย

 

วันที่ 3 มิถุนายน 2564

- ทีมชาติไทย พบ อินโดนีเซีย เวลา 23.45 น. ณ สนามอัล มัคตูม

วันที่ 7 มิถุนายน 2564

- ยูเออี พบ ทีมชาติไทย เวลา 23.45 น. ณ สนามซาบีล

วันที่ 15 มิถุนายน 2564

- ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย เวลา 23.45 น. ณ สนามอัล มัคตูม


stadium

author

“เก้น” นิติพงษ์ ยวนตระกูล

ผู้บรรยายฟุตบอล และบรรณาธิการกีฬา ที่คลั่งไคล้มนต์เสน่ห์ลูกหนังอย่างจริงจังโดยเฉพาะฟุตบอลไทย จนตัดสิ

โฆษณา