stadium

"สามแข้งจอมเก๋า"กับประสบการณ์ที่ต้องการ ในศึกคัดบอลโลก

5 พฤษภาคม 2564

ถึงเวลา "สามแข้งจอมเก๋า" กับประสบการณ์ที่ทัพ "ช้างศึก" ต้องการ ในศึกคัดบอลโลกหนนี้

#แบกเป้ดูบอลไทย By #เก้นนิติพงษ์

 

ในยามที่เราต้องเผชิญกับคู่แข่งที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง บวกกับปัจจัยรอบข้างที่อาจจะส่งผลให้นักเตะเกิดความกดดันจนงัดฟอร์มเก่งไม่ออก แน่นอนว่า “ประสบการณ์” คือกุญแจสำคัญที่อาจจะช่วยให้เราเอาตัวรอดจากสถานการณ์นั้นไปได้ด้วยดี และเชื่อได้เลยว่า อากิระ นิชิโนะ จำเป็นที่จะต้องเรียกใช้บริการผู้เล่นที่มีคุณสมบัติติดตัวดังกล่าวไปลุยที่ ยูเออี เป็นแน่

อากิระ นิชิโนะ

จาก 47 ผู้เล่นที่ อากิระ นิชิโนะ เลือกเข้ามาติดธงในครั้งนี้ แน่นอนว่าจะมีเพียงแค่ 25 คนเท่านั้นที่ได้เดินทางไปยัง ยูเออี ท่ามกลางเป้าหมายของการเก็บ 3 คะแนนในแต่ละนัด เพื่อพาทีมชาติไทยเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายให้ได้ แน่นอนว่า 25 ขุนพลทัพ “ช้างศึก” ชุดนี้ จะต้องเป็นนักเตะที่ นิชิโนะ หมายมั่นปั้นมือ และคาดหวังในฝีเท้ามากพอสมควร

 

ท่ามกลางกลุ่มนักเตะที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย วันนี้เราจะมาโฟกัสกลุ่มนักเตะมากประสบการณ์ที่เราเชื่อว่าจะเปี่ยมไปด้วยความสำคัญในยามที่ทีมต้องเผชิญกับความกดดัน เพราะอย่าลืมว่านี่คือสามแมตช์ที่ทุกทีมล้วนแต่หมายปอง เพราะมีตั๋วเข้าไปลุยในรอบต่อไป (รอบ 12 ทีมสุดท้าย) พร้อมกับโอกาสในการลุ้นไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ นั่นเอง

 

สามคนนั้นจะเป็นใคร เราไปติดตามกัน...

 

#จักรพันธ์แก้วพรม

จักรพันธ์ แก้วพรม

4 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ในศึกไทยลีก 2020/2021 คือสิ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพของมิดฟิลด์เชิงสูงวัย 32 ปีจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รายนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการรับบทเป็น “คอนดักเตอร์” ที่คอยบงการ และควบคุมจังหวะการเล่นของทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ทั้งเกมรุก และรับได้อย่างอยู่หมัด

 

สายตาอันเฉียบแหลม การออกบอลที่ง่าย ไม่ซับซ้อน กล้าได้กล้าเสีย แต่เปี่ยมไปด้วยความอันตราย คือคุณสมบัติเด่นของเจ้าตัว นอกจากนี้จังหวะการจบสกอร์ที่เด็ดขาด ยังเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่จะช่วยให้ทีมชาติไทยมีอาวุธที่หลากหลาย บวกกับประสบการณ์ในสีเสื้อทีมชาติ และเวทีฟุตบอลเอเชียกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด น่าจะช่วยให้ อากิระ นิชิโนะ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นถึงการใส่ชื่อ จักรพันธ์ แก้วพรม ไปลุย ยูเออี หนนี้อย่างแน่นอน

 

#สุมัญญาปุริสาย

สุมัญญา ปุริสาย

แม้ว่า สุมัญญา ปุริสาย อาจจะไม่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชาติไทยได้อย่างเต็มตัว หากแต่ในเวทีระดับสโมสร เจ้าตัวคือหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงว่า ดีที่สุดคนหนึ่งในประเทศเลยก็ว่าได้ และโทรฟี่แชมป์ไทยลีกซีซั่นล่าสุดของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนหากไม่มีการปั้นเกมของเพลย์เมคเกอร์เลือดร้อยเอ็ดรายนี้ ที่จัดไป 4 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ให้ทัพ “เดอะ แรบบิท”

 

แม้อายุอานามอาจจะเตรียมเข้าสู่หลัก 34 ปีในช่วงปลายปีนี้ หากแต่เจ้าตัวยังคงรักษาสภาพร่ายกาย และมันสมองในการเล่นฟุตบอลไว้ได้อย่างสุดยอดไม่ต่างไปจากคนหนุ่มวัยยี่สิบกลางๆ บวกกับทัศนคติการเล่นฟุตบอลที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นมืออาชีพที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมประสบความสำเร็จ พิสูจน์ได้จากผลงานในสนามตลอดหลายซีซั่นที่ผ่านมา

 

ลูกจ่าย-ลูกยิงอันเด็ดขาด พละกำลังอันเหลือล้น มันสมองของการอ่านเกม และประสบการณ์ที่เพาะบ่มจนสุกงอมได้ที่ คือคุณสมบัติที่มีอยู่ในตัวของดาวเตะจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รายนี้ และเชื่อว่าเขาดีพอที่จะอยู่ในสารบบขุนพลทัพ “ช้างศึก” กับการลงเล่นศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกในเดือนมิถุนายนนี้เป็นแน่

 

#อดิศักดิ์ไกรษร

อดิศักดิ์ ไกรษร

ไม่มีใครปฏิเสธถึงสัญชาตญาณการจบสกอร์อันเด็ดขาดของ “AK9” หลังจากกดไปถึง 11 ประตูในศึกไทยลีกซีซั่นนี้ บวกกับการถอนตัวของ ธีรศิลป์ แดงดา เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้ชื่อของ อดิศักดิ์ ไกรษร โผล่ขึ้นมาเป็นความหวังในการทำประตูอันดับหนึ่งของทีมในทันที

 

เจ้าตัวอาจจะไม่ได้ปีสปีดที่จัดจ้านราวกับจรวด หากแต่สิ่งที่คงความเป็น “อดิศักดิ์” และเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าตัวมาโดยตลอดนั่นคือ “การจบสกอร์” ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฮอร์ส ลูกกลางอาการ ลูกยิงในหรือนอกกรอบ เรียกได้ว่านี่คือ “ศูนย์หน้าอาชีพ” แบบเต็มตัว เมื่อรวมกับประสบการณ์ในสีเสื้อทีมชาติไทยที่เจ้าตัวรับใช้ชาติมาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งแสดงถึง “คุณภาพ” และการปรับตัวเข้าปรับเพื่อนร่วมทีมได้ไหลลื่น ไม่มีสะดุด นี่คือจุดแข็งที่เรามั่นใจว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด ชื่อของ อดิศักดิ์ ไกรษร จะปรากฎอยู่ในผังของ อากิระ นิชิโนะ อย่างแน่นอน

 

สำหรับ ทีมชาติไทย จะเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 21 พฤษภาคม และมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 2 นัด พบกับ โอมาน ในวันที่ 25 พฤษภาคม และพบกับ ทาจิกิสถาน วันที่ 29 พฤษภาคม ก่อนทำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2

 

#โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย

 

วันที่ 3 มิถุนายน 2564

- ทีมชาติไทย พบ อินโดนีเซีย เวลา 23.45 น. ณ สนามอัล มัคตูม

 

วันที่ 7 มิถุนายน 2564

- ยูเออี พบ ทีมชาติไทย เวลา 23.45 น. ณ สนามซาบีล

 

วันที่ 15 มิถุนายน 2564

- ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย เวลา 23.45 น. ณ สนามอัล มัคตูม


stadium

author

เก้น นิติพงษ์ยวนตระกูล

ผู้จัดการสื่อสารการตลาด & มีเดีย หนุ่มเมืองเหนือไฟแรง : ผู้บรรยายฟุตบอล และบรรณาธิการกีฬา ที่คลั่งไค

โฆษณา