28 เมษายน 2564
หนองบัว พิชญ เอฟซี - แชมป์ไทยลีก 2
เชียงใหม่ ยูไนเต็ด - รองแชมป์ไทยลีก 2
ขอนแก่น ยูไนเต็ด - ผู้ชนะจากรอบเพลย์ออฟไทยลีก 2
ถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และน่าภาคภูมิใจแทนแฟนบอลของทั้งสามทีมที่ได้เอ่ยมา เพราะนี่คือการประกาศศักดาความเป็นทีมท้องถิ่นที่ผงาดขึ้นมาอวดฝีเท้าบนเวทีลีกสูงสุดได้เป็น “ครั้งแรก” ในประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง
แต่ด้วยความโหดของของศึกโตโยต้า ไทยลีก 1 ที่เต็มไปด้วยคู่แข่งระดับพระกาฬที่ยืนรอพวกเขาอีกกว่า 13 ทีม แน่นอนว่าขวบปีแรกของทั้งทัพ “พญาไก่ชน”, “ช้างเผือก” และ “จงอางผยอง” ย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่หลายๆ คนคิด
วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ และอัพเดตสถานการณ์ล่าสุดว่า “สามทีมน้องใหม่” พร้อมแค่ไหนกับการรับมือ “นรกไทยลีก”...
#หนองบัวพิชญเอฟซี
ทีมแชมป์ไทยลีก 2 ที่เพรียบพร้อมไปด้วยโครงสร้างพื้นฐานอันยอดเยี่ยม ทั้งสนามแข่งขันของตัวเอง เม็ดเงิน และอคาเดมี่ไว้ฟูมฟักแข้งดาวรุ่งฝีเท้าดี บวกกับขุมกำลังนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ระดับสูง ภายใต้การนำของ สุเทพ ภู่มงคลสุริยา ประธานสโมสรฯ ที่ต้องการปักหมุดคำว่า หนองบัว พิชญ เอฟซี ให้เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่แฟนบอลไทยจะต้องมาเยือนสักครั้งให้ได้
แม้อาจจะยังไม่ได้มีการแถลงอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาสามารถปิดดีลใครได้แล้วบ้าง หากแต่การมีชื่อของ สถาพร แดงสี ที่เพิ่งถูกเรียกตัวเข้าแคมป์ทีมชาติไทย หรือ อกีนัลโด้ ในโควต้าอาเซียน ก็พอจะบอกได้ว่า พวกเขาเองก็เดินหน้าหาแข้งระดับไทยลีกมาเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง แต่กับประเด็นของตำแหน่งเฮดโค้ชที่มีข่าวว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยน ตรงนี้คงมีการอัพเดตกันในเร็ววันนี้
จุดเด่นที่หลายๆ คนมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับทัพ “พญาไก่ชน” ในการลงเล่นไทยลีก 1 นั่นก็คือ “เกมรับ” ที่ดีอยู่แล้ว พิสูจน์ได้จากผลงานในซีซั่นที่ผ่านมา เพราะอย่าลืมว่า แข้งแนวรุกของบรรดาทีมคู่แข่งนั้นล้วนแต่เขี้ยวลากดินทั้งสิ้น หากคุณมีเกมรับที่ดี แน่นอนว่าโอกาสที่คุณจะอยู่รอดปลอดภัยก็มีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น โจทย์ต่อไปสำหรับการเสริมทัพที่พวกเขาคงต้องเน้นให้เป็นพิเศษนั้นก็คือ “แนวรุก” ที่ต้องมาชั่งใจว่าจะเก็บใครไว้ระหว่าง วัลโดมิโร่ ซัวเรส หรือ เกร็ก ฮูล่า ตลอดจนการหาตัวเติมเต็มในบทบาทศูนย์หน้าตัวเป้าอีกสักคน ราวกับเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของทีมอย่างแท้จริง
#เชียงใหม่ยูไนเต็ด
ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ตกเป็นข่าวมากที่สุดในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบนี้ หลังทัพ “ช้างเผือก” มีข่าวลือกับนักเตะต่างชาติระดับท๊อปของไทยลีก 1 มากมาย โดยเฉพาะ แดร์เลย์ และจอห์น บักโจ้ นั่นคือเรื่องที่น่าติดตามต่อว่าสุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้ที่ได้ชูเสื้อ และผ้าพันคอของทีม เช่นเดียวกับตำแหน่งเฮดโค้ชที่ยังว่าง หลังการจากไปของ เดนนิส อมาโต้ กุนซือชาวเยอรมันที่หลงใหลการพาทีมเลื่อนชั้นเป็นชีวิตจิตใจ ต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะเลือกใครมาเป็นผู้กุมบังเหียนเก้าอี้ตัวนี้ ท่ามกลางข่าวลือมากมายถึงกุนซือระดับท็อปในไทยลีกหลายต่อหลายคน
การตัดสินใจเก็บนักเตะเซ็ตหลักของทีมไว้มากกว่า 15 คน คือหนึ่งในสัญญาณที่ดีว่า พวกเขาให้ความสำเร็จกับ “ระบบ” มากกว่าตัวบุคคล โดยเฉพาะนักเตะไทยกว่าค่อนทีมที่ล้วนแต่ผ่านเวทีลีกสูงสุดมาแล้วทั้งสิ้น นี่คือการเดินหมากที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เพราะอย่าลืมว่า จุดแข็งที่ทำให้พวกเขาคว้าตั๋วเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติมาครองได้นั่นก็คือ “ทีมสปิริต” โดยเฉพาะช็อตการโกงความตายมากมายในซีซั่นที่ผ่านมา และมั่นใจว่าแข้งเหล่านี้ดีพอที่จะขับเคลื่อนทีมให้เข้าใกล้สู่เป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ทางสโมสรฯ ยังส่งสัญญาณของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง หลังประกาศว่ากำลังพัฒนาสนามซ้อมแห่งใหม่ที่เพรียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน 2 สนาม, คลับเฮ้าส์, อคาเดมีเพื่อป้อนนักเตะสู่ทีม ตลอดจนช้อปสโมสร บวกกับการเตรียมโยกไปใช้สนามกีฬา 700 ปี ที่กำลังปรับปรุงขนานใหญ่ทั้งพื้นสนาม, ระบบไฟส่องสว่าง และติดเก้าอี้เพิ่มรอบทั้งสนาม ด้วยมาตรฐานระดับ AFC จึงเชื่อได้เลยว่า ทัพ “ช้างเผือก” หวังจะใช้ความได้เปรียบในฐานะการเป็นเจ้าบ้านคอยบดขยี้คู่แข่งระดับพระกาฬในไทยลีกเป็นแน่
การบริหารจัดการแบบมืออาชีพ ภายใต้การนำของประธานสโมสรอย่าง พิชัย เลิศพงศ์อดิศร บวกกับพลังอัดฉีด และเป้าหมายการหวังจบด้วยเลขตัวเดียวให้ได้ คือสิ่งที่น่าท้าทายทีมน้องใหม่จากแดนล้านนาทีมนี้เป็นอย่างยิ่ง...
#ขอนแก่นยูไนเต็ด
นี่คือหนึ่งในทีมที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะชื่อของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด นั้นการันตีได้ถึงพลังแฟนบอลจำนวนมหาศาลทั้งในสนาม และโลกโซเชี่ยล บวกกับการโชว์ความใจหินในรอบเพลย์ออฟที่ผ่านมา และการกล้าให้โอกาสกับนักเตะดาวรุ่ง และแข้งท้องถิ่น ทำให้ทัพ “จงอางผยอง” พร้อมเต็มที่กับขวบปีแรกบนเวทีไทยลีก 1
แม้จะยังไม่มีข่าวออกมาว่า ขอนแก่น ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ “บิ๊กต้อม” วัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรฯ จะมีการปรับทัพอย่างไร แต่เชื่อได้เลยว่าคอนเซ็ปต์คร่าวๆ ของทีมยังคงเป็นการขับเคลื่อนด้วยขุมกำลังที่เป็นแข้งท้องถิ่นเลือดเนื้อเชื้อไขชาวขอนแก่นเป็นหลัก เพราะด้วยคำว่า “ทีมเวิร์ค” นี่แหละที่เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทัพ “จงอาจผยอง” พิชิตตั๋วไทยลีกได้
ขณะที่ขุมกำลังต่างชาติตัวหลัก ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีชื่อชั้นโด่งดังเหมือนใคร หากแต่ชื่อของ ดักลาส โคโบ หรือดาบิด กูเอบา นั้นก็ล้วนแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในสนามราวกับเป็นผู้ปิดทองหลังพระ หากแต่ในเคสของ เปาโล คอนราโด้ ดาวซัลโวของทีมที่กำลังเนื้อหอมสุดๆ นั้นคงต้องมาลุ้นกันต่อว่าเจ้าตัวจะตัดสินใจจรดปากกาต่อสัญญากับทีมหรือไม่ นี่คือภารกิจแรกที่ทัพ “จงอางผยอง” ต้องลุยทันที
ส่วนเรื่องพลังการซัพพอร์ทของเหล่าแฟนบอลนั้นคงไม่ใช่ปัญหา และหากสถานการณ์โควิด-19 ในบ้านเราดีขึ้น เชื่อได้เลยว่าบรรยากาศในสนามกีฬา อบจ.ขอนแก่น ก็น่าจะเป็นหนึ่งในสังเวียนที่กดดันทัพคู่แข่งได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในไทยลีก ฉะนั้นสิ่งที่น่าท้าทายพวกเขาในซีซั่นใหม่นี้ก็คือ การเสริมทัพในทุกๆ ตำแหน่งเพื่อยกระดับทีม และต่อกรกับเหล่ายักษ์ใหญ่ให้สูสีที่สุด
แน่นอนว่าทั้ง หนองบัว พิชญ เอฟซี, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และขอนแก่น ยูไนเต็ด ล้วนแต่มีเป้าหมายการอยู่รอดปลอดภัยในศึกไทยลีก 1 ดังนั้น การเดินหมากในช่วงตลาดซื้อขายต่อจากนี้ทั้งการดีลนักเตะไทย และต่างชาติ จะเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่จะบอกได้ว่า สุดท้ายแล้วพวกเขาจะพร้อมแค่ไหนกับฤดูกาลที่จะเต็มไปด้วยความกดดัน และมาตรฐานที่แตกต่างออกไปจากศึกไทยลีก 2 อย่างสิ้นเชิง !!!
TAG ที่เกี่ยวข้อง