stadium

เปิดใจ "เจ๊นิด" แกนนำเชียร์หญิงเลือดกระต่ายแก้ว กับแชมป์ที่รอมา 12 ปี

19 มีนาคม 2564

เปิดใจ "เจ๊นิด" แกนนำเชียร์หญิงเลือดกระต่ายแก้ว กับแชมป์ที่รอมา 12 ปี

#ChangsuekOutField 

 

จากทีมตกชั้น สู่ทีมแชมป์ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองไทย คงไม่มีอะไรที่พีคไปมากกว่านี้แล้วสำหรับแฟนบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่จะได้ฉลองแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกของสโมสร ซึ่งวันนี้เราได้โอกาสพูดคุยกับแกนนำเชียร์ของทัพกระต่ายแก้ว ที่ต้องบอกว่าเป็นหญิงแกร่งแต่แซ่บเวอร์อย่าง “เจ๊นิด” รชาภา แสงดี เจ้าของร้านอาหารอีสาน“ครัวเจ๊นิดแซ่บเวอร์” ที่มอบจิตวิญญาณให้บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2009 จนเป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิต มาติดตามกันว่าความรู้สึกของเธอจากวันตกชั้น สู่การเป็นแชมป์ จะเป็นอย่างไร และมีมุมมองอย่างไรกับการเชียร์บีจี

 

จุดเริ่มต้นการดูฟุตบอลอย่างจริงจัง

 

จริงๆดูฟุตบอลมานานแล้ว จุดเริ่มต้นมาจากดูตามแฟนเลยค่ะ กลัวแฟนเหงาก็เลยดูเป็นเพื่อน มันก็เลยซึมซับจนกระทั่งแฟนพาไปเชียร์ในสนาม ซึ่งก็ต้องยอมรับอีกว่าจุดที่ทำให้เราเริ่มสนุกไปกับฟุตบอลคือนักฟุตบอล เล่นเก่ง เล่นดี เราก็เลยตามดู บอลนอกก็เชียร์ลิเวอร์พูล ส่วนแฟนจะเชียร์สเปอร์ส แต่ทีมชาติไทยตามเชียร์อยู่แล้วตั้งแต่ตอนเอเชียนเกมส์ ที่สนาม มธ.รังสิต ถ้าจำไม่ผิดก็ยุคดรีมทีมโค้ชโอ่งนั่นแหละ เวลาทีมชาติไทยแข่งที่สนามราชมังฯ เจ๊นิดก็จะอยู่โซน Cheerthai Power ก็ถือว่าบ้าบอลพอสมควรเลยค่ะ 

 

ส่วนการเชียร์บีจี เริ่มจากย้ายบ้านมาอยู่แถวลำลูกกา คลองสอง แล้วแฟนก็ชวนไปดูฟุตบอล ซึ่งแฟนก็ถามว่าระหว่างเมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บางกอกกล๊าส (ชื่อเดิม) จะเชียร์อะไร ก็แน่นอนว่าเจ๊นิดคิดว่าเราย้ายมาอยู่ที่ปทุมธานี ทะเบียนบ้านก็อยู่ที่นี่ เราก็ต้องเชียร์ทีมที่อยู่ที่นี่ นั่นคือบางกอกกล๊าส และแมตช์แรกที่เข้าไปเชียร์ในสนามคือปี 2009 ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลองหก สนามเหย้าเดิมก่อนที่ลีโอ สเตเดี้ยมจะสร้างขึ้นค่ะ

 

ขึ้นสู่การเป็นแกนนำเชียร์หลักได้อย่างไร

 

บางทีก็ตลกเหมือนกันนะเรื่องนี้ เพราะมีอยู่วันนึงประมาณปี 2011 เราก็เชียร์ของเราตามปกติ ร้องเพลงปกติ เพื่อนของเราที่เป็นคนนำเชียร์ไม่มา เพื่อนคนอื่นๆก็เลยผลักเราขึ้นไปเป็นคนนำเชียร์แทน ไอ่เราก็กล้าๆกลัวๆ แต่ด้วยความที่เราเป็นคนสนุก เรื่องเนื้อเพลงไม่มีปัญหาเลยเพราะได้ทุกเพลงมาตั้งแต่ปีแรกที่เชียร์แล้ว วันนั้นก็เลยได้ลองดูตามที่เพื่อนๆในสนามยุยง (ขำ) หลังจากนั้นเราก็ได้เป็นแกนนำเชียร์มาเรื่อยๆ ซึ้งเจ๊นิดเองก็เป็นแกนนำกลุ่มเชียร์ “กระต่ายแซ่บเวอร์” จนทุกวันนี้เป็นแกนนำเชียร์หลักของบีจีไปแล้วค่ะ

 

โดยหน้าที่ของแกนนำเชียร์ก็จะมีขึ้นนำเชียร์ ช่วยสโมสรดูแลแฟนบอลที่บางครั้งอาจจะมีคำพูดคำจาระหว่างเชียร์ที่ไม่ค่อยดีนัก เราก็ต้องเข้าไปห้าม ส่วนใหญ่ก็จะรู้จักกันอยู่แล้ว แฟนบอลบีจีคุมง่ายค่ะ น่ารักมาแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย โดยเฉพาะ Rabbit Girl ที่สวยและน่ารักมาก นอกจากนี้คือเรื่องการเป็นครอบครัวบีจี พวกเราค่อนข้างเหนียวแน่นกลมเกลียว เข้าถึงง่าย เป็นแฟมิลี่สุดๆค่ะ

 

“บีจี ตกชั้น” เหตุการณ์ดำดิ่งสุดสำหรับแฟนกระต่ายแก้ว

 

เรื่องตกชั้นเป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในหัวมาก่อนเลยนับตั้งแต่เชียร์สโมสรนี้มา วันนั้นมันแค่แต้มเดียวเท่านั้น แต่เราทำไม่ได้ มันเสียใจ มันดิ่ง ร้องไห้ออกมาเอง วันนั้นเรานำเชียร์ไปก็ถามผลการแข่งขันของอีกคู่ที่มีผลไปด้วย พอเสียงนกหวีดจบเกมดังคือน้ำตามาเองเลยค่ะ เราแพ้นครราชสีมา เอฟซี 1-2 ในบ้านของตัวเอง เสียใจมากนับตั้งแต่เชียร์มา 12 ปี ทุกอย่างในเกมคือปกติหมด เรายอมรับได้ที่เราแพ้โคราช เพราะวันนั้นเขาก็ดีจริงๆ แต่แค่รับไม่ได้กับการต้องตกชั้นเท่านั้นเอง จะบอกว่าอกหักก็ไม่เชิง เพราะเจ๊นิดไม่เคยอกหัก (ขำ) แต่มันรู้สึกแบบ “เป๊าะ” (เสียงอกหัก) มันไม่มีคำอธิบายอะไรเลยในวันนั้น

 

หลังจากวันนั้นเจ๊นิดใช้เวลาอาทิตย์นึงเลยนะคะ ในการปรับความรู้สึกตัวเองกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เคยคิดจะเลิกเชียร์ เลิกรักสโมสรนี้ คิดซะว่า “เอาวะ” ไปเปลี่ยนบรรยากาศ ได้เที่ยวทั่วไทยบ้าง ไปหาประสบการณ์ใหม่ๆในการเชียร์บ้าง พวกกองเชียร์ก็ได้มานั่งคุยกันก็เห็นตรงกันว่า สโมสรไม่ทิ้งเรา เราก็ไม่ทิ้งสโมสร เริ่มต้นกันใหม่และเชียร์ให้หนักกว่าเดิมในรูปแบบที่ผ่อนคลาย ไม่เครียด มีความสุข ได้ท่องเที่ยว มันก็แฮปปี้ไปอีกแบบ ที่สำคัญแฟนบอลของทีมในไทยลีก 2 น่ารักมากๆ ต้อนรับพวกเราดีมาก เลี้ยงข้าว เลี้ยงขนมด้วย ซึ่งเราก็เชียร์ทุกแมตช์เหมือนเดิม ผู้บริหารของพวกเราก็ให้ความเชื่อมั่นด้วยและเป็นกันเองกับแฟนบอลอย่างเราๆ โดยเฉพาะคุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะเดินไปพร้อมกันเหมือนเคย ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ท่านน่ารักมากค่ะ

 

ศรัทธา ความเชื่อมั่น สู่คำที่ลั่นออกจากปาก “บีจีแชมป์แล้วโว้ย”

 

เรามั่นใจ 100% เลยค่ะ ว่าปีเดียวเรากลับมาไทยลีก 1 แน่ เพราะเรื่องของตัวนักเตะที่ตัวหลักยังอยู่ แม้จะเปลี่ยนแปลงในบางจุด แต่ทุกคนยังซัพพอร์ตกันเช่นเดิม ซึ่งการได้แชมป์ไทยลีก 2 ก็ถือเป็นการย้อมใจกันได้บ้าง 

 

พอเลื่อนชั้นขึ้นมาได้ เราก็แอบหวังแหละว่าจะต้องเป็นทีมระดับท็อปของไทยลีก 1 ก็หวังว่าจะติด 1 ใน  3 แต่พอช่วงหลังปิดโควิด เราได้เสริมทีมแบบน่าตื่นตา ก็รู้สึกว่าเป้าหมายมันไม่ใช่แบบเดิมแล้ว เราต้องได้ไป ACL และเป็นแชมป์เท่านั้น 

 

พอสิ้นเสียงนกหวีดที่เราได้แชมป์ คือเราพูดคำเดียวหลายๆครั้งเลยว่า “บีจีแชมป์แล้วโว้ย” มันปลาบปลื้มไปหมด เราได้กวาดสายตาไปรอบๆมันมีแต่ความชื่นมื่น ทุกคนไม่ยอมกลับ เราร้องเพลงร่วมกันกับนักเตะและสตาฟฟ์หลังจบเกม มีความสุขจริงๆค่ะ 

 

“ใช้เงินซื้อความสำเร็จ” คิดอย่างไรกับคำนี้

 

เจอคำนี้เหมือนกันค่ะ แต่รู้สึกเฉยๆ มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ทุกทีมต้องพัฒนาการซื้อขาย ขึ้นอยู่กับแต่ละทีมมากว่าว่าจะวางเป้าหมายอย่างไร ถ้าเป้าหมายสูงก็แน่นอนว่าต้องลงทุนสูง เจ๊นิดมองว่ามันขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ผู้บริหารด้วย ว่าวางเป้าหมายไว้อย่างไร และจะหาวิธีไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร ซึ่งบีจีของพวกเราทำได้ก็แค่นั้นเอง

 

แต่หากถามว่าชอบหรือไม่กับมุมมองที่บีจีเป็นเจ้าบุญทุ่ม ก็รู้สึกเฉยๆอีกนั่นแหละ เราเป็นแฟนบอลเรามีหน้าที่เชียร์ มองว่าเป็นการทำเพื่อแฟนบอลมากกว่า เพราะคงไม่มีอะไรจะเป็นความสุขให้แฟนบอลได้อีกแล้วนอกจากแชมป์ หรือว่าความสำเร็จของสโมสร ก็ต้องขอขอบคุณ คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรของพวกเราด้วยค่ะที่ไม่ทิ้งกัน และตั้งใจมอบของขวัญตอบแทนแฟนบอลด้วยความสำเร็จซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลต้องการมาตลอดและต้องการมานานแล้ว มันช่วยลบล้างความผิดหวังที่เราเคยได้รับมาจากตอนตกชั้นจนหมดเลยค่ะ จนเจ๊นิดลืมไปแล้วว่าเราเคยผิดหวังจากการตกชั้น จริงๆก็ตั้งแต่ตอนได้แชมป์ไทยลีก 2 แล้วด้วย

 

แมตช์ในความทรงจำ และนิยามที่ให้กับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ของ “เจ๊นิด

 

12 ปีที่ผ่านมาก็นานมากนะ แต่ที่ประทับใจคือเมื่อเร็วๆนี้ตอนเลกแรก ศึกชิงจ่าฝูงกับทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต ประเด็นคือตั้งแต่เชียร์มา เวลามาเยือนที่สนามนี้ทีไรไม่เคยชนะเลย มันเหมือนอาถรรพ์ทุกครั้งที่มาเยือนที่นี่ ฝังใจตลอด บอลถ้วย บอลลีก ไม่เคยชนะเลย ไม่รู้เพราะอะไร นี่เจ๊นิดถึงขั้นเอาพวงมาลัยไปเองแล้วแอบไปไปไหว้พญานาคหน้าสนาม ก็ยังไม่สำเร็จ

 

จนมาถึงฤดูกาลนี้ก่อนที่เราจะออกไปเยือนที่นั่น เรามั่นใจแปลกๆว่าจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ซึ่งก็ทำได้จริง เอาชนะทรู แบงค็อกฯ 2-0 ล้างอาถรรพ์สำเร็จ ประทับใจสุดๆเลยค่ะ แต่นัดที่ช้ำใจที่สุดเชื่อว่าแฟนๆทุกคนของบีจีคงคิดเหมือนเจ๊นิด คือนัดที่เราตกชั้น เพราะคงไม่มีอะไรจะน่าผิดหวังไปมากกว่านี้อีกแล้ว

 

การเป็นแฟนบอลบีจีตั้งแต่ปี 2009 ของเจ๊นิดคิดไว้อย่างเดียวเลยว่า ชนะเราเชียร์ เสมอก็เชียร์ แพ้เรายิ่งต้องเชียร์ ยังไงก็เชียร์ ไม่เปลี่ยน ไม่ทิ้ง ไม่ไปไหนจากบีจีแน่นอน

 

วันที่ 20 มีนาคม วันรับแชมป์ เจ๊นิดแซ่บเวอร์ มีอะไรพิเศษบ้างที่สนาม

 

แน่นอนค่ะ วันที่ 20 มีนาคม เราจัดเต็มให้สาวกกระต่ายแก้ว โดยครัวอีสานเจ๊นิดแซ่บเวอร์ มีจัดบูธส้มตำ ขนมจีนน้ำยา กะเพาะปลา ก๊วยเตี๋ยว ที่ตึก Hall of Glass  ขอเชิญแฟนบอลบีจีมาร่วมงานกันด้วยนะคะ รับรองว่าแซ่บสมกับการเป็นแชมป์ของพวกเราแน่นอน


TAG ที่เกี่ยวข้อง

stadium

author

ICE Assist

Changsuek Content Creator

La Vie en Rose