15 มีนาคม 2564
หากพูดถึงจังหวัดบุรีรัมย์ในสมัยก่อนอาจไม่ค่อยมีคนรู้จัก ไม่ใช่ทางผ่าน ไม่มีแหล่งท่องเที่ยว แต่แล้วในปีพ.ศ. 2554 นายเนวิน ชิดชอบ ได้เนรมิตให้จังหวัดเล็กๆ ดินแดนอีสานใต้นี้กลายเป็นอาณาจักรกีฬา ศูนย์กลางมหกรรมกีฬาระดับประเทศและระดับโลก ตามเป้าหมายที่เคยประกาศไว้
ไม่ว่าจะเป็นสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีรังเหย้าคือ “ช้าง อารีน่า” ทีมชั้นนำที่มีผลงานโดดเด่น คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 6สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีกคัพ 5 สมัย และโลดเล่นถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในรายการ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก จากนั้นได้สร้างสนามแข่งขันรถยนต์และจักรยานยนต์ทางเรียบ “ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” ที่จัดแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับสูงสุดของโลก อย่าง โมโตจีพี (MotoGP) หรือ ฟอร์มูล่าวัน (Formula 1 / F1) ได้ และล่าสุดกับการเปิดตัว “บุรีรัมย์ มาราธอน” สนามแข่งขันมาราธอนระดับโลกของคนไทยที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพื่อให้นักวิ่งมาราธอนจากทั่วทุกมุมโลกหวังมาพิชิตเป็นฟินิชเชอร์
มาตรฐาน Silver Label มาราธอนแรกของไทย
IAAF Label Road Race คือใบรับรองมาตรฐานการจัดงานวิ่งถนน ที่ทาง สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (International Association of Athletics Federations (IAAF) ออกให้กับการแข่งขันวิ่งทั่วโลกตั้งแต่ปี 2008 ออกเป็น Platinum Lable (เพิ่มในปี พ.ศ. 2563), Gold Label, Silver Label, Bronze Label โดยสนามที่ขอยื่น Label ใหม่ต้องเริ่มจาก Bronze Label ซึ่งทาง บุรีรัมย์ มาราธอน ทำสำเร็จในปี พ.ศ. 2563 (ระยะมาราธอน) โดยมีอายุ 1ปี และต้องยื่นขอต่ออายุ หรืออัพเกรดไป Label ที่สูงกว่าทุกปี โดยในปี พ.ศ. 2564 นี้ บุรีรัมย์ มาราธอน สามารถคว้า Silver Label มาครองได้สำเร็จในระยะมาราธอน ถือเป็นสนามมาราธอนแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย (ณ ขณะนี้) ที่ทำได้
ซึ่งการที่จะผ่านข้อกำหนด กฎเกณฑ์ต่างๆ ของ IAAF ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของคุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และประธานสนามช้าง อินเตอร์แนชั่นแนล เซอร์กิต ไม่ว่าจะเป็น การวัดระยะทางการแข่งขันโดย IAAF/AIMS (สมาคมนักจัดงานวิ่งระยะไกล) ให้ตรงกับมาตรฐาน (มีอายุ 5 ปี), การคมนาคม, สนามบิน, การจัดการนักวิ่งทั่วไปและนักวิ่งอีลิท, จำนวนนักวิ่งที่เข้าร่วม, คลาสของนักวิ่งอีลิท, การรักษาความปลอดภัยในบริเวณแข่งขัน, การปิดถนน, ชิปไทม์จับเวลา, ทีมแพทย์ปฐมพยาบาล, การถ่ายทอดสดตลอดการแข่งขัน, เงินรางวัล ฯลฯ
โดยในการแข่งขัน บุรีรัมย์ มาราธอน 2020 ได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม มีนักวิ่งเข้าร่วมมากถึง 30,120 คน และในปีนี้แม้การแข่งขันต้องเลื่อนจากวันที่ 23-24 มกราคม 2564เป็น 27-28 มีนาคม 2564และระยะฟันรันในวันที่ 12เมษายน เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 แต่บุรีรัมย์ มาราธอน ก็ยังคงยืนหนึ่งสนามมาราธอนที่หลายคนใฝ่ฝันและอยากไปพิชิตเช่นเคย
กองเชียร์ มนต์เสน่ห์ชาวบ้านที่คุณต้องตะลึง
การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของ บุรีรัมย์ มาราธอน 2017 ได้สร้างคลื่นยักษ์ที่กระเพื่อมสั่นสะเทือนวงการวิ่งระยะไกลในไทย ทั้งการที่นักวิ่งได้วิ่งในสนามแข่งรถ F1 การปิดเส้นทางแข่งขันแบบ 100%ชนิดสุนัขสักตัวก็ไม่ให้เห็น เงินรางวัลสุดเย้ายวน เหรียญงดงาม แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับการพูดถึงมากในหมู่นักวิ่งคือ “ปิดเมืองเชียร์” ที่ตลอดเส้นทางการแข่งขัน โดยเฉพาะในเมือง คุณจะพบกับชาวบ้าน ลูกเด็กเล็กแดง คนเฒ่าคนแก่ ยืนเชียร์ข้างถนนให้กำลังใจกันแบบสุดสวิงแทบถวายหัว พร้อมประเคนของกิน น้ำท่าตลอดเส้นทาง กลายเป็นเสน่ห์อันเย้ายวนให้นักวิ่งหน้าเก่าต้องหวนไปสัมผัส และหน้าใหม่ที่ต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงโควต้าไปวิ่ง แม้ขณะที่วิ่งต้องเผชิญกับแดดแผดเผา กล้ามเนื้ออ่อนล้า ตะคริวกิน แต่แค่พอเห็นกองเชียร์เท่านั้นแหล่ะ มีแรงฮึดวิ่งได้หน้าตาเฉย
Night Run ปิดเมืองวิ่งชมไฟ
การเลื่อนวันแข่งขันจากเดือนมกราคม เป็น มีนาคม ทำให้ช่วงที่ต้องแข่งมีสภาพอากาศร้อน ทางผู้จัดจึงประกาศของเปลี่ยนเวลาการปล่อยตัวจากทั่วไปที่จะเริ่มในเช้าตรู่ช่วงตี 2หรือ ตี 3เป็นช่วงเย็นแทน โดยให้เหตุผลเรื่องอุณหภูมิความร้อน แต่กระนั้นก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิ่งว่าอาจจะร้อนกว่าตอนเช้าเพราะถนนจะคายความร้อนออกมาในตอนเย็น โดยทางผู้จัดการแข่งขันได้เลือกโปรโมต Night Run ด้วยการปิดเมืองติดไฟประดับสว่างไสวตลอดเส้นทางหลายกิโลเมตร โดยแบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่
สำหรับเส้นทางการแข่งขันเป็นแบบ Point to Point คือจุดเริ่มต้นกับเส้นชัยเป็นคนละจุด โดยนักวิ่งทุกระยะจะปล่อยตัวจากสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มุ่งหน้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 ตามเส้นทางของแต่ละระยะ ก่อนเข้าสู่เส้นชัยที่สนาม ช้าง อารีน่า ซึ่งในปีนี้จะต่างจากทุกปี เพราะเป็นการวิ่งในช่วงกลางคืน ตัดตามเวลา Cut-off ที่ผู้จัดกำหนด ความรู้สึกจะแปลกแตกต่างไป
**ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://burirammarathon.com
ครั้งแรกกับการจัดแบบ New Normal
สำหรับนักวิ่งที่ตัดสินใจไปร่วมแข่งขัน บุรีรัมย์ มาราธอน 2021 ต้องผ่านการคัดกรองคน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดจะตรวจวัดอุณหภูมิเมื่อเดินทางเข้าที่พัก พร้อมรับสายรัดข้อมือยืนยันในการเข้าพื้นที่จัดงาน และต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ไทยชนะ ทุกครั้งก่อนเข้าและออกงาน สำหรับนักวิ่งที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดงต้องกักตัว 14 วัน หรือตรวจ Rapid Test (ราคา 600 บาท) ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซึ่งจะทราบผลภายใน 1 ชั่วโมง และปล่อยตัวในโซนแยกเฉพาะจากนักวิ่งที่มาจากจังหวัดพื้นที่สีอื่น มีการเว้นระยะห่าง (social distancing) ณ จุดปล่อยตัว โดยนักวิ่งทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา สามารถถอดออกได้เมื่อวิ่งเท่านั้น
นักวิ่งอีลิทและแนวหน้าประเทศคับคั่ง
ด้วยเงินรางวัลสุดเย้ายวนสูงสุดถึง 100,000 บาท สำหรับที่ 1 Overall ระยะมาราธอน และ 50,000 บาท สำหรับคนไทยที่เข้าเส้นชัยมาราธอนเป็นคนแรกทั้งชาย-หญิง ไม่นับรวมเงินรางวัลที่แจกในแต่ละรุ่นอายุ รุ่นละ 5 อันดับ และเงินรางวัลพิเศษอีก 5,000 บาท สำหรับนักวิ่งที่ทำลายสถิติเดิมในแต่ละกลุ่มอายุของทุกระยะ (ยกเว้นฟันรัน)ได้ดึงดูดนักวิ่งขาแรงทั้งชาวไทยและต่างชาติ นักวิ่งระยะไกลทีมชาติไทยให้มาสับขาหวดจนบุรีรัมย์แทบลุกเป็นไฟ
มาดูสถิติของนักวิ่งปอดเหล็กทีมชาติไทยที่ลงแข่งขันใน บุรีรัมย์ มาราธอน 2020 กัน
“บิ๊ก” ณัฐวุฒิ อินนุ่ม ที่ร่วมแข่งขันตั้งแต่ปี 2017 ได้สร้างเซอร์ไพรส์ทำ 10K Sub30 ด้วยเวลา 29:48 นาที เสียดายที่มีความผิดพลาดเรื่องเส้นทางทำให้เวลาไม่ได้รับการรองรับ ในปี 2019 ไม่ได้ร่วมเพราะป่วย และกลับมาอัพระยะ คว้าแชมป์ฮาล์ฟ มาราธอน ชายไทย ด้วยเวลา 1:07:58 ชั่วโมง (เข้าเป็นอันดับ 3)
“สายฝน” ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์คว้าแชมป์ฮาล์ฟ มาราธอน หญิงไทย ด้วยเวลา 1:24:46 ชั่วโมง
“ปลา” ลินดา จันทะชิต ขาประจำระยะมาราธอน ที่คว้าแชมป์ มาราธอน หญิงไทย 2 สมัยติด ในปี 2019 ทำเวลา 3:03:35และ 2:54:50 ในปี 2020เข้าเป็นอันดับ 8 overall อีกด้วย
“สัญชัย นามเขต” ปอดเหล็กดีกรีเหรียญเงิน มาราธอน ซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ คว้าแชมป์ฮาล์ฟ มาราธอน ชายไทย 3 สมัยซ้อน (2017-2019) และอัพเกรดสู่ระยะมาราธอนเต็มตัวปีแรก สามารถคว้าแชมป์มาราธอน ชายไทย ด้วยเวลา 2:26:54 ชั่วโมง ทำลายสถิติเดิมของรุ่นพี่ บุญถึง ศรีสังข์ ที่ทำไว้เมื่อปี 2019 ด้วยเวลา 2:36:03 ชั่วโมง ซึ่งในปี 2021 ที่จะถึงนี้ถือว่าเป็นนักวิ่งที่น่าจับตามองมาก เพราะเขาพึ่งระเบิดพลังคว้าแชมป์ BANGSAEN42 ด้วยเวลา 2:22:26 ทำลายสถิติตัวเองและสถิติมาราธอนที่เร็วที่สุดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แน่นอนว่าครั้งนี้เขาเต็มที่เช่นเคย
แม้จะเผชิญกับอุปสรรคและเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่ทางผู้จัดการพยายามดำเนินการและหาทางออกเพื่อให้นักวิ่งที่ตั้งใจอยากมาเป็นส่วนหนึ่งของสนามมาราธอนระดับโลกนี้ไม่ผิดหวังกลับไป แถมเติมเต็มพลังและไฟในการวิ่งให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง ที่ๆ ทุกย่างก้าวของการวิ่งคือมิตรภาพและผู้คนที่เราอาจไม่รู้จักเลยก็ตาม
และนี่คือสิ่งที่ เนวิน ชิดชอบ ได้สร้างบุรีรัมย์
ให้เป็นเมืองที่มากกว่า “บุรีรัมย์”
ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบงานวิ่ง เรามีอีกหนึ่งงานวิ่งระดับประเทศ กับงานวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ 1,000,000 กิโลเมตร “Flag of Nation Virtual Run” กิจกรรมการวิ่งสะสมระยะทางที่คุณสามารถวิ่งที่ใดก็ได้ เพียงส่งบันทึกผลการวิ่งเข้าระบบให้ครบตามระยะทางที่กำหนด คุณก็จะได้รับของรางวัลสุดพิเศษสำหรับคนรักการวิ่ง แถมยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนันสนุนให้กับเหล่าทัพนักกีฬาไทย ไปสู้ศึกโอลิมปิกครั้งที่ 32 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
.
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ที่ : https://bit.ly/webcheckraceOlympic2020
TAG ที่เกี่ยวข้อง