19 มกราคม 2564
“หนูดีใจมากที่ได้มาอยู่และฝึกซ้อมที่เดียวกับ พี่เมย์ รัชนก เพราะพี่เมย์เป็นไอดอลของหนู แล้วก็รู้สึกดีใจที่ได้ฉายา “น้องเมย์สอง” ซึ่งมันเป็นกำลังใจที่ดี ที่จะทำให้หนูเดินตามฝัน คือ การได้แชมป์โอลิมปิค และ การเป็นมือหนึ่งของโลก
นี่คือประโยคสำคัญของ “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมือ 28 ของโลก ซึ่งกล้าที่จะเดินออกจากบ้านเกิดที่ จ.ลำปาง มาตามหาความฝันในการเป็นนักแบดมินตันที่ โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ซึ่งเป็นที่ที่เธอเองจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดไอดอลอย่าง “เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงของไทยที่ประสบความสำเร็จมาอย่างมากมาย ทั้งการเป็นแชมป์โลก และ มือหนึ่งของโลก จนเป็นไอดอลของนักตบลูกขนไก่หลายๆคน รวมถึงตัวของ “จิว” พิทยาภรณ์ ด้
อยากเก่งเหมือนพี่ชาย
“ ตอนเด็กๆ อายุประมาณ 4 ขวบ หนูตามไปดูพี่ชายที่เป็นนักแบดมินตัน (พงศภัค ไชยวรรณ) ทั้งตอนซ้อมและตอนแข่งตลอด ดูไปดูมาก็รู้สึกอยากเล่นบ้าง ก็เลยมาเริ่มตีเล่นๆที่หน้าบ้านกับคุณพ่อ พอตีไปได้ 2-3 เดือน คุณพ่อก็พาไปสนามซ้อมที่เดียวกับพี่ชาย (สนามหนองกระทิง อ.เมือง จ.ลำปาง) ”
“ จากตอนแรกก็ตีแบบสนุกๆ แต่พอได้เล่นทุกวันก็เริ่มรู้สึกชอบ ซ้อมที่คอร์ทเสร็จก็มาตีที่หน้าบ้านต่อ เพราะรู้สึกอยากเล่นมากๆ พอซ้อมมาได้ซักพัก ประมาณ 7 ขวบ ก็เริ่มออกแข่งขัน ตอนนั้นก็ลงแข่งขันในรุ่นอายุ 9 ปี ซึ่งลงแข่งครั้งแรกก็ได้ที่ 3 ”
“ ความรู้สึกตอนนั้นคือดีใจมากๆ เพราะหนูต้องแบกอายุคู่แข่งถึง 2 ปี แต่ก็ได้ที่ 3 ซึ่งได้รางวัล มันเลยกลายเป็นความรู้สึกที่ผลักดันให้เราอยากกลับไปซ้อม และออกมาแข่งขันอีก ”
คู่แข่งที่อยากเอาชนะ
“ หลังจากนั้นหนูก็ออกแข่งตลอด แล้วก็ลงแข่งแบบแบกอายุ จำได้ว่าตอนนั้นเราเป็นเด็กต่างจังหวัด การฝึกซ้อมอาจจะไม่ได้เข้มข้นมาก ตอนนั้นจำได้เลยส่วนใหญ่จะแพ้เด็กจากบ้านทองหยอด มีหลายรายการเลยที่เราไปไม่ถึงฝันเพราะแพ้เด็กบ้านทองหยอด”
“ หลังจากนั้นหนูก็กลับมาตั้งใจฝึกซ้อมต่อ จนมีรายการแข่งขันที่ จ.นครสวรรค์ ไปเจอเด็กบ้านทองหยอดคนเดิมที่เราเคยแพ้มาก่อนหน้านี้ และหนูไปเจอเขาในรอบชิงฯ ซึ่งหนูล้างแค้นได้ เอาชนะแล้วก็ได้แชมป์”
“ ซึ่งพอเริ่มได้แชมป์ มันก็เหมือนเรามั่นใจมากขึ้น จากที่แพ้เป็นส่วนใหญ่ กลับมาเป็นการชนะบ้าง จำได้ว่ามีรายการแข่งที่ จ.เชียงใหม่ หนูได้แชมป์ และฟอร์มก็ไปเข้าตาทั้ง “อาปุก” กมลา ทองกร และ “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข ที่ตามไปดูเด็กบ้านทองหยอดแข่ง หลังจากนั้นทางบ้านทองหยอด ก็เลยโทรหาโค้ชหนูที่ลำปางซึ่งเป็นศิษย์เก่าของบ้านทองหยอด เพื่อทาบทามหนูให้ไปฝึกที่บ้านทองหยอด”
ฝันที่เป็นจริง
“ หนูใช้เวลาตัดสินใจเร็วมาก” ในตอนนั้นยังเป็นเด็ก ในใจก็คิดแค่ว่าอยากไปอยู่บ้านทองหยอด ที่มีแต่คนเก่งๆ และตอนนั้นเริ่มรู้จัก “พี่เมย์” รัชนก ที่เป็นดาวรุ่งฟอร์มแรงมากๆ มันยิ่งทำให้หนูตัดสินใจได้ไม่ยากเลยที่จะตอบตกลง
“ พอไปถึงแม่ก็บอกว่าลองมาอยู่แค่ซัมเมอร์ไหม ซึ่งหนูก็ตอบว่าโอเค” “แต่พอมาอยู่แล้วได้ฝึกซ้อมทุกวัน ได้เจโค้ชที่เก่งๆ ได้อยู่กับแบดมินตันทั้งวัน และที่สำคัญที่สุด คือ การได้ฝึกซ้อมและอยู่ร่วมกับพี่เมย์ จากจะอยู่แค่ซัมเมอร์ กลายเป็นว่าหนูขอมาอยู่ที่นี่ยาวๆเลย ”
“จิว” พิทยาภรณ์ ในวัย 9 ขวบ เลือกที่จะมาอยู่ที่บ้านทองหยอด และในหัวมีเพียงเรื่องเดียว คือ อยากจะเก่งขึ้น อยากจะพัฒนา และ อยากจะเอาดีกับการเป็นนักแบดมินตัน ด้วยการได้อยู่ใกล้ชิดกับ “รัชนก อินทนนท์” รุ่นพี่วัย 14 ปี ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง หลังจากคว้าแชมป์ประเทศไทยด้วยวัยเพียงแค่ 14 ปี
“ ไปถึงบ้านทองหยอดวันแรก หนูเปลี่ยนรองเท้าซ้อมทันทีเลย จำได้ว่าวันนั้นก็ได้เจอ พี่เมย์ เลย ในใจหนู คือ ตื่นเต้นมาก แต่ด้วยความที่หนูเป็นคนไม่ค่อยแสดงอาการ หน้าก็จะนื่งๆ แต่ในใจ คือ ตื่นเต้นมากๆ ”
“ การได้มาอยู่บ้านทองหยอด แตกต่างจากการซ้อมที่ ลำปาง ทั้งเรื่องโค้ช ที่มีหลายคน ที่คอยสอนทั้งเรื่องเทคนิค เรื่องการพัฒนาร่างกาย ซึ่งหนูเองก็พยายามเรียนรูุ้ทุกอย่าง โค้ชบอกให้ทำอะไรก็ตั้งใจทำตาม ตอนนั้นคือรู้สึกดีมากๆ ที่เราได้อยู่กับแบดมินตันแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ”
ลีลา ท่าทาง และการที่มีฝีมือ่เก่งเกินเด็ก ทำให้หลายคนต่างจับมองและมอบฉายา “เมย์ รัชนก 2” ให้กับเธอ เช่นเดียวกันกับบ้านทองหยอด ที่ก็หมายมั่นปั้นมือด้วยการทำโปรแกรมฝึกซ้อมที่ลองผิดลองถูกกับ “เมย์” รัชนก มาให้เธอฝึกซ้อมเพื่อเดินรอยตาม
“ พอรู้ว่ามีคนตั้งฉายานี้ให้ หนูก็รู้สึกดีใจ เพราะ พี่เมย์ คือ ไอดอลของหนูในการเล่นแบดมินตัน มันทำให้หนูมีกำลังใจในการฝึกซ้อม อยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งเหมือนพี่เมย์ ”
“ ในตอนนี้สิ่งที่หนูคิด ก็คือการอยากจะเดินไปตามฝันไปด้วยตัวเอง เพราะตอนนี้หนูก็รู้สึกดีใจมากๆที่เดินมาได้จนถึงตรงนี้ แต่หนูเชื่อว่าก็ยังมีอะไรที่ต้องพัฒนาอีก หนูยังไปได้ไกลกว่านี้ ”
หลังจากที่ย้ายมาเป็นนักกีฬาสังกัดสโมสรบ้านทองหยอด ชื่อของ “จิว” พิทยาภรณ์ ก็เริ่มปรากฏในทำเนียบความสำเร็จในเวทีแข่งขันระดับเยาวชนของประเทศไทย เธอเองเดินหน้ากวาดแชมป์อย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นมาเป็นนักแบดมินตันเยาวชนทีมชาติไทย โดยผลงานเด่นๆ คือ การคว้าเหรียญทองแดงในยูธ โอลิมปิกเกมส์ 2018 , รองแชมป์เยาวชนชิงแชมป์โลก 2019 รวมไปถึงการคว้าแชมป์เยาวชนโลกในประเภททีมในปี 2019
“ เป้าหมายของหนูตอนนี้ คือ การตั้งใจจะไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2024 ให้ได้ และตอนนี้ก็เป็นปีแรกที่หนูต้องขยับขึ้นมาลงเล่นในรุ่นทั่วไป ความเข้มข้น ความกดดันของการเจอคู่แข่ง มันต่างจากรุ่นเยาวชน แต่มันก็ทำให้หนูได้เรียนรู้หลายอย่าง ทั้งเรื่องการวางแผนในการเล่น ที่ต้องละเอียดมากขึ้น ”
“ การเจอรุ่นพี่มันเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว และการที่เราแพ้ ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเรา เพราะมันจะยิ่งทำให้เราได้เจอจุดอ่อนของตัวเอง ได้กลับไปแก้ไข ได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น หลังจากนี้หนูก็จะทำให้ดีที่สุดเพื่อขีดเส้นทางของตัวเอง โดยมีแรงบันดาลใจจากไอดอลอย่าง “พี่เมย์ รัชนก” และหากทำได้สำเร็จ ก็หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆกล้าที่จะเดินออกมาตามฝันตัวเองให้ได้ ”
TAG ที่เกี่ยวข้อง