12 มกราคม 2564
#แบกเป้ดูบอลไทย By #เก้นนิติพงษ์
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “นักกีฬาอาชีพ” แน่นอนว่าการฝึกซ้อมคือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่สามารถพาพวกเขาไปสู่ “เป้าหมาย” หรือใกล้เคียงกับคำว่า “ความสำเร็จ” ได้มากกว่าสิ่งใด
เพราะการฝึกซ้อมที่ดี จะทำให้คุณมีความพร้อมเกินร้อยทั้งกาย และใจ จนสามารถขึดเค้นความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวของเราให้พุ่งพล่านออกมาระหว่างการแข่งขันได้อย่างน่าเชยชม
เช่นเดียวกับนักกีฬาฟุตบอลที่ล้วนแต่มองว่า “การฝึกซ้อม” เท่านั้นที่จะสามารถนำทีมไปสู่ “ชัยชนะ” ทั้งเทคนิก พละกำลัง ความฟิต ตลอดจนความเป็นทีมเวิร์คที่ควานหาจากร้านสะดวกซื้อไม่ได้
และสถานที่เดียวที่จะให้คำตอบนั้นได้ก็คือ “สนามซ้อม” เท่านั้น
หากแต่โลก ณ ปัจจุบันในยุคโควิด-19 ที่ได้พลิกเอาทุกวิถีชีวิตเดิมๆ ทิ้งใหม่ หลายๆ อย่างถูกแทนที่ด้วยธรรมเนียม และแนวทางการใช้ชีวิตใหม่ แน่นอนว่า ฟุตบอล คืออีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับผลกระทบไปแบบเต็มๆ ไม่เว้นแม้แต่การฝึกซ้อม
มาถึงบรรทัดนี้ หลายคนตั้งคำถามกลับทันทีว่า หากไม่ให้นักฟุตบอลฝึกซ้อมที่สนาม แล้วสถานที่ใดกันที่เหล่าแข้งพันล้านเหล่านี้จะใช้เป็นสถานที่ในการลับคมฝีเท้า เทคนิกต่างๆ ตลอดจนความฟิตเพื่อ 90 นาทีในสนาม ?
คำตอบคือ “บ้าน” ครับ
อย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีว่า นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง สิ้นเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา ฟุตบอลไทยต้องพบเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีลีกฟุตบอลอาชีพเลยก็ว่าได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ลุกลามไปทุกพื้นที่ของโลก อีกทั้งยังไม่มีวัคซีนที่สามารถป้องกัน หรือยุติการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสดังกล่าวได้อย่าง 100% ดังนั้น หนทางที่ทุกฝ่ายต่างออกมารณรงค์เพื่อปิดกันโอกาสในการลุกลามของเชื้อร้ายนี่ก็คือ “การอยู่บ้าน”
แม้ฟุตบอลจะเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความเข้าใจจากการเล่นเป็นทีม หากแต่เพื่อเป็นการร่วมแรงร่วมใจไม่ให้เชื้อร้ายแพร่กระจายไปมากกว่านี้ ทำให้แต่ละสโมสรต่างต้องออกแบบโปรแกรมการฝึกซ้อมใหม่ โดยให้นักเตะปฏิบัติตามอยู่ที่บ้าน เพิ่มเติมคือวินัยส่วนตัวที่ทุกคนต้องมีอย่างเคร่งครัด จริงจัง เพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่คุณแทบจะต้องลงฝึกซ้อมตามลำพัง วินัย ทัศนคติ และสภาพจิตใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการฝึกซ้อมที่บ้าน
โปรแกรมการฝึกซ้อมที่บ้านส่วนใหญ่แล้วจะเน้นในเรื่องการเสริมความแข็งแรง และความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อส่วนขา หรือช่วงล่าง เพื่อเป็นการคงสภาพของกล้ามเนื้อให้พร้อมมากที่สุดก่อนที่จะกลับมาฝึกซ้อมร่วมกันที่สนาม โดยใช้พื้นที่ต่อการฝึกไม่มาก เนื่องด้วยข้อจำกัดของสถานที่ และความสะดวกซึ่งบางคนต้องฝึกในห้อง หรือ คอนโด ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ส่วนใหญ่จะมีแค่แผ่นโฟม หรือแผ่นยางปูพื้นเท่านั้น หรือหากใครที่มีอุปกรณ์เวทเทรนนิ่ง กรวยเล็กๆ หรือ Speed Ladder ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
แต่สำหรับใครที่มีพื้นที่ อาจจะเป็นสวนเล็กๆ บริเวณบ้าน แน่นอนว่าโปรแกรมที่สโมสรได้จัดให้คงจะหนีไม่พ้นตระกูล Speed & Agility Drills ที่เน้นให้ทุกคนรักษาสปีด และความคล่องตัวในระยะเวลาที่ไม่นาน แต่เน้นประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าโปรแกรมซ้อมที่บ้านบางอย่างช่วยให้คุณได้เรียกเหงื่อ และความฟิตในระดับที่ใกล้เคียงกับการลงฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมเลยทีเดียว
อีกหนึ่งโปรแกรมที่เหล่านักฟุตบอลอาชีพคงหนีไม่พ้นในยุคของ “Training Home” นั่นก็คือ “Bodyweight” หรือการออกกำลังกายโดยไม่ใช้อุปกรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวนี้จะใช้เวลาต่อครั้งราวๆ 20 นาที สำหรับผู้ที่สนใจอยากรู้ว่านักกีฬา หรือนักเตะอาชีพฝึกซ้อม Bodyweight อย่างไร ผมแนะนำให้ลองเซิร์ชด้วยคีย์เวิร์ดว่า “Full Body Workout For Football Player” แล้วคุณจะได้รู้ว่า 20 นาทีของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันจริงๆ (ฮา)
นี่คือยุคที่นักฟุตบอลต้องฝึกซ้อมที่บ้านพอๆ กับสนามกีฬา ในเมื่อโลกใบนี้ยังมีเงื่อนไขที่ทำให้วิถีชีวิตของทุกๆ คนเปลี่ยนไป ฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดก็คือ “เข้าใจ” “ยอมรับ” ว่าโลกที่เราใช้ชีวิตกันอยู่ทุกวันนั้นมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว และ “การปรับตัว” เท่านั้นคือสิ่งที่จะทำให้เรายังคงสิ่งที่เรารักต่อไปได้...
ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัย เราจะผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้ไปด้วยกัน แล้วพบกันเร็วๆ นี้นะ “ฟุตบอลไทย”
#เก้น #นิติพงษ์ยวนตระกูล ผู้จัดการสื่อสารการตลาด & มีเดีย หนุ่มเมืองเหนือไฟแรง : ผู้บรรยายฟุตบอล และบรรณาธิการกีฬา ที่คลั่งไคล้มนต์เสน่ห์ลูกหนังอย่างจริงจังโดยเฉพาะฟุตบอลไทย จนตัดสินใจยกหัวใจให้ “เกมลูกหนัง” เป็นตัวนำทางชีวิต
TAG ที่เกี่ยวข้อง