4 มกราคม 2564
ทีมดาวรุ่งฟุตซอลไทย ยอดเยี่ยม ประจำปี 2020
#ChangsuekFutsalCorner
ผ่านพ้นปี 2020 ไปอย่างยากลำบาก จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ทำให้ผู้คนทั่วโลก ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง ส่งผลกระทบกับกิจกรรมทุกอย่างทั่วโลก รวมถึงวงการกีฬาด้วยเช่นกัน
ขณะที่ในศึก "ฟุตซอล ไทยลีก" ฟุตซอลลีกอาชีพของเมืองไทย ประจำฤดูกาล 2020 กว่าจะแข่งขันกันจบซีซั่น ก็ต้องเลื่อนโปรแกรมมาแล้วหลายครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็เดินฟาดแข้งที่สนามกลาง จนจบซีซั่น ปีนี้แชมป์ตกเป็นของ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่กลับมาคว้าแชมป์ลีกอีกครั้งในรอบ 3 ปี
ซึ่งวันนี้ทีมงานของเราจะขออาสาจัด "ทีมดาวรุ่งฟุตซอลไทย ยอดเยี่ยม ประจำปี 2020"ที่ผลงานโดดเด่นโดนใจ โดยนักเตะทั้งหมดจะอายุไม่เกิน 23 ปี อย่ารอช้าไปติดตามกันเลย
ผู้รักษาประตู : เจริญพงศ์ ประสานสัตย์ (มอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
เริ่มกันที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู มีหลายตัวเลือกที่น่าสนใจแต่เราของเลือก "แสตมป์" เจริญพงษ์ ประสารสัตย์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี ที่ปีนี้เจ้าตัวในวัย 22 ปี พัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด แม้รูปร่างจะไม่ได้ใหญ่โต แต่มีความคล่องตัวสูง ออกบอลด้วยมือ และเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม และมีลูกยิงไกลที่แม่นยำเป็นทีเด็ด เติมเกมขึ้นไปทำสกอร์ได้ถึง 4 ประตู ช่วย มอภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รอดตกชั้นได้แบบไม่ยาก
ตัวรับ : รณชัย จูงวงษ์สุข (พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี)
ขยับมาที่ตำแหน่งตัวรับ ต้องยกให้ "แม็ค" รณชัย จูงวงษ์สุข แข้งร่างโย่งแกนหลักของทีมชาติไทย และสโมสรพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ซึ่งปีนี้มาตรฐานการเล่นของศิษย์เก่าโรงเรียนกีฬานครนนท์วิทยา 6 ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งความนิ่ง การอ่านเกม เข้าบอดเด็ดขาด ตีบอลชัวร์แทบจะไม่เสียเลย แม้จะเล่นตัวรับแต่ยิงไปถึง 9 ประตู ช่วยทัพฉลามพลังเพลิง กลับมาคว้าแชมป์ลีก ได้อีกครั้งในรอบ 3 ปี พร้อมเป็นแกนหลักของทีมชาติไทย ไปแล้วในปัจจุบัน
ริมเส้น : อธิปพงศ์ มุ่นพลาย (ราชภัฏเพชรบุรี)
มาต่อกันที่ตำแหน่งริมเส้น ทีมงานของเราของเลือก "ก้อง" อธิปพงศ์ มุ่นพลาย จากสโมสรราชภัฏเพชรบุรี วัย 22 ปี ที่แม้จะลงเล่นลีกสูงสุดครั้งแรกในชีวิต แต่เจ้าตัวกลับโชว์ฟอร์มนิ่งเกินวัย ทั้งความจี๊ดจ๊าด สปีดความเร็วที่หาตัวจับยาก เล่นงานใส่คู่แข่งจนปวดหัว ยิงไป 8 ประตู พาทีมน้องใหม่ ราชภัฏเพชรบุรี รอดตกชั้นได้แบบหักปากกาเซียน
ริมเส้น : ธราดล ห่วงวิเชียร (เกษมบัณฑิต เอฟซี)
อีกหนึ่งริมเส้นที่ทำผลงานได้โดดเด่น คงต้องมีชื่อของ "ซีน" ธราดล ห่วงวิเชียร จากสโมสรเกษมบัณฑิต เอฟซี ด้วยวัยเพียง 19 ปี แต่เล่นได้เกินอายุ จังหวะเลี้ยงกินตัว 1-1 บวกกับความสามารถเฉพาะตัวที่หลากหลาย และมีความเร็ว ทำให้เจ้าตัวก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของสิงห์ร่มเกล้า พร้อมมีชื่อบนสกอร์บอร์ดยิงไปไม่มากไม่น้อย 6 ประตู พา เกษมบัณฑิต เอฟซี จบอันดับ 10 รอดตกชั้นมาได้แบบไม่ยากเย็น
หน้าเป้า : มูฮัมหมัด อุสมานมูซา (พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี)
ตำแหน่งหน้าเป้าคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "เหม็ด" มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ดาวเตะลูกครึ่งกาน่า-ไทย ที่ย้ายมาเล่นกับ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ทำให้เจ้าตัวเล่นได้แบบมั่นใจลงตัวยิ่งขึ้น ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนเหล็ก จังหวะจบสกอร์ที่ฉียบคมยิงไปถึง 23 ประตู เป็นเดอะแบกคนใหม่ของทัพฉลามพลังเพลิง พาทีมกลับมาคว้าแชมป์ลีกในรอบ 3 ปี และเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกในชีวิตเจ้าตัว และคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม MVP ของศึก "ฟุตซอล ไทยลีก 2020" มาครองได้อีกรางวัล
สำรอง
ผู้รักษาประตู : ธนวิทย์ ทองชูศรี (ราชภัฏเพชรบุรี)
อีกหนึ่งผู็รักษาประตูที่โชว์ผลงานได้ดีเช่นกันก็คือ "ไนซ์" ธนวิทย์ ทองชูศรี มือกาวมาดกวนที่ปีนี้ลงเล่นให้กับสองสโมสร เลกแรก กับ สิงห์ สมุทรสาคร ช่วยทีมรั้งอยู่ที่ 8 และเลกสอง กับ ราชภัฎเพชรบุรี ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างดี โดยเฉพาะจังหวะเซฟลูกยากๆ ฟอร์มที่ดีเสมอต้นเสมอปลาย แถมมีทีเด็ดจากลูกยิงไกลมีชื่อบนสกอร์บอร์ดถึง 2 ประตู พา ราชภัฎเพชรบุรี ที่จมบ๊วยในช่วงเลกแรก รอดตกชั้นได้อย่างเหลือเชื่อ
ตัวรับ : สาโรจน์ โฮกอ่อน (แคท เอฟซี)
แนวรับร่างโย่งชาวจังหวัดนครปฐม พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด เป็นแกนหลักของ สโมสรแคท เอฟซี โดดเด่นทั้งเกมรับที่เจ้าตัวถนัด การประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมอย่างรู้ใจ บวกกับจังหวะจบสกอร์ที่กลายมาเป็นทีเด็ดของ "เจ้าฟรอย" สาโรจน์ โฮกอ่อน แม้จะเล่นตำแหน่งตัวรับแต่ยิงไปถึง 3 ประตู พาทีมน้องใหม่อย่าง แคท เอฟซี พลิกโผจบอันดับที่ 3 เป็นรองแค่สองทีมยักษ์ใหญ่ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี กับ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม เท่านั้น
ริมเส้น : ศิวกร จงกลฐากร (สิงห์ สมุทรสาคร)
ต่อกันที่ตำแหน่งริมเส้นชื่อของ "เกมส์" ศิวกร จงกลฐากร แข้งจอมพลิ้วของสโมสรสิงห์ สมุทรสาคร เอฟซี ต้องติดเข้ามาแบบไม่ต้องสงสัย ด้วยความทุ่มเทเกินร้อย แม้อายุยังน้อยแต่เล่นแบบไม่มีตื่นสนาม แม้รูปร่างจะเป็นรอง แต่วิ่งฟัด เล่นเพื่อทีมที่รัก ยิงไปตลอดฤดูกาล 8 ประตู แต่ด้วยปัญหาหลายๆ อย่างทำให้ สิงห์ สมุทรสาคร เอฟซี ต้องหล่นชั้นไปอย่างน่าเสียดาย
ริมเส้น : จรูญเดช หมื่นเที่ยง (ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน)
ริมเส้นอีกคนที่ติดเข้ามาคือ "เจ้าหม่ำ" จรูญเดช หมื่นเที่ยง จากธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน ที่ยังคงเป็นแกนหลักของทีมเช่นเดิม เป็นนักเตะจอมเทคนิค ออกบอลแม่นยำ เรียกได้ว่าเป็นบอลระบบตัวจริงอีกคนของทีม ปีนี้ยิงไป 5 ประตู สุดท้ายพา ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน จบอันดับที่ 7 ซึ่งถือเป็นอับดับที่ดีที่สุดของสโมสรด้วย ส่วนในนามทีมชาติไทย ติดทัพช้างศึก ชุดบี มาโดยตลอด ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีเลยทีเดียว
หน้าเป้า : ณัฐศักดิ์ โพธิ (ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน)
ปิดท้ายกันที่ตำแหน่งหน้าเป้า ซึ่งหลายคนคงสงสัยว่าเราเลือกผิดหรือไม่ เพราะตามจริงแล้ว"เจ้ายักษ์" ณัฐศักดิ์ โพธิ ของสโมสรธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน เล่นตำแหน่งตัวรับ แต่ในปีนี้ศิษย์เก่าโรงเรียนปทุมคงคา สมุทรปราการ ถูกดันไปเล่นตำแหน่งหน้าเป้า ช่วงแรกอาจจะดูไม่เข้าที่เข้าทาง แต่หลังปรับตัวได้ก็ทำได้ดี เข้าตากรรมการเลยทีเดียว ทั้งจังหวะเก็บบอลบังบอล ยิงไปถึง 9 ประตู พาต้สังกัดจบอันดับที่ 7 และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทีมชาติ กับทัพช้างศึก ชุดบี มาโดยตลอด
TAG ที่เกี่ยวข้อง