stadium

เรื่อง (ไม่) ลับของ “เอเยนต์ฟุตบอล”

26 ธันวาคม 2563

นอกจาก ประธานสโมสร โค้ช สตาฟฟ์ ทีมแพทย์ และ นักเตะ ของแต่ละสโมสรแล้ว อีกองค์ประกอบหลักที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับวงการฟุตบอลไทยในปัจจุบันนั่นคือ เอเยนต์ นั่นเองครับ แฟนฟุตบอลไทยหลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องของเอเยนต์มาก่อน แต่คงยังไม่เคยรู้เรื่องรายละเอียดหน้าที่จริงๆของเอเยนต์นักฟุตบอล พวกเขามีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง? มีเป้าหมายการทำงานอะไร ? และต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะถึงจุดนี้ ? 

 

วันนี้ #ChangsuekOutField จะพาแฟนๆไปพูดคุยสุด Exclusive กับผู้ก่อตั้ง Fair Play Sports (FPS) Management & Consulting อย่างคุณ Benni Lohwasser กับ เอเยนต์คนไทยที่เคยผ่านการค้าแข้งกับสโมสรชั้นนำในไทยหลายทีมอย่าง “ดอย” ธฤติ โนนศรีชัย โดยทั้งคู่มีหลากหลายประเด็นรวมถึงประสบการณ์ในวงการเอเยนต์นักฟุตบอลที่น่าสนใจมากฝากกันครับ

 

ในฐานะ “เอเยนต์” คุณมีมุมมองต่อวงการฟุตบอลไทยอย่างไรบ้างครับ ?

 

Benni : ผมมองว่าวงการฟุตบอลไทยอยู่ในจุดที่กำลังพัฒนาและมีศักยภาพที่จะดีได้มากกว่านี้ ผมมองว่าเรื่องการพัฒนานักเตะในระดับเยาวชนต้องดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ผมอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ในอนาคต เช่นการให้คนที่มีความรู้เรื่องการพัฒนาระบบอะคาเดมี่จากต่างประเทศได้เข้ามาทำงานและให้ความรู้กับคนไทยมากขึ้น ส่วนเรื่องการถ่ายทอดสดและการตลาดของลีก ผมก็คิดว่ายังทำได้ดีกว่านี้เพื่อที่จะให้ไทยลีก เป็นที่รู้จักในสายตาของลีกทั่วโลก ผมก็ต้องชื่นชมคุณ เบนจามิน ตัน ที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะพัฒนาในส่วนนี้ 

 

ดอย ธฤติ : สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าวงการฟุตบอลไทยพัฒนามาถึงจุดที่น่าพอใจ แต่ก็ควรที่จะพัฒนาได้ดีกว่านี้อีก โดยในภาพรวมใหญ่ผมคิดว่าฟุตบอลไทยขึ้นมาเป็นที่หนึ่งของอาเซียนแล้ว แต่คิดว่าผลงานในระดับเอเชียควรที่จะดีกว่านี้ครับ หลายๆสโมสรก็พยายามดันตัวเองขึ้นมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ผมยังมองว่าเราควรที่จะมีโมเดลตามลีกชั้นนำระดับโลกให้ชัดเจนมากกว่านี้ 

ทำไมถึงเลือกที่จะมาเป็น Agent นักฟุตบอล ?

 

Benni : จริงๆ แล้วตอนผมเด็กๆผมไม่ได้คิดว่าจะเป็นเอเยนต์เลยนะ ผมเริ่มบริษัท Fair Play Sports (FPS) เมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเป้าหมายตอนนั้นคือผมต้องการที่จะโฟกัสตลาดนักเตะในทวีปเอเชีย พอทำไปทำมาสักพักก็ได้มารู้จักกับ ดอย ธฤติ โนนศรีชัย ซึ่งแขวนสตั๊ดพอดี จึงชวนเขามาร่วมงานด้วย ซึ่งตอนนี้เราก็ได้มาเปิดออฟฟิศในประเทศไทยครับ โดยทีมงานทั้งหมดของ FPS ตอนนี้มีอยู่ 15 คนทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น เอเชีย ยุโรป รวมถึง อเมริกาใต้ด้วย

 

ดอย ธฤติ : สำหรับช่วงปลายๆ อาชีพการค้าแข้งของผม ทางเบนนี่ได้เข้ามาเริ่มชวนและเสนอไอเดียให้มาร่วมทีม ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องการเป็นเอเยนต์เลย ผมจึงยังไม่ได้สนใจอะไรมากและคิดที่อยากจะไปเรียนโค้ชเพื่อที่จะมีไลเซนส์ แต่คำถามที่เป็นจุดเปลี่ยนก็คือการที่เบนนี่ถามผมว่า ‘ในหนึ่งปีมีโค้ชที่เรียน C - ไลเซนส์ กี่คน? โค้ชที่มี C - ไลเซนส์ อยู่แล้วในตอนนี้มีกี่คน? และสำคัญที่สุด มีโค้ช C - ไลเซนส์ กี่คนที่มีเงินเดือนเกิน 5 หมื่นบาทในไทย ?’ ทั้งหมดนี้เลยสะกิดใจเรา และทำให้มุมมองผมเปลี่ยนไป ผมเลยตัดสินใจมาเป็นเอเยนต์ และต้องขอบคุณเบนนี่ที่เขาเห็นศักยภาพในตัวผมที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวผมมี 

 

มีหลายคนที่สนใจว่า เอเยนต์ ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง ?

 

Benni : อาชีพการเป็นเอเยนต์หลักๆแล้วคือการสนับสนุนนักฟุตบอลและสโมสรฟุตบอลในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทั้งในและนอกสนาม เรามีโฟกัสหลักก็คือการช่วยเหลือนักฟุตบอลในทั้งช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่ไม่ดี มีหลายคนที่ต้องการที่จะเป็นเอเยนต์ แต่ในวงการนี้ก็มีแกะดำอยู่หลายตัวที่คอยจะให้ข้อมูลผิดๆ เราต้องร่วมกันกำจัดคนพวกนี้ออกไป ส่วน FPS เรามีความเป็นมืออาชีพ เพราะเราทำตามกฏสากลและมีไลเซนส์การเป็นเอเยนต์ที่ถูกต้อง 

 

ดอย ธฤติ : คนส่วนใหญ่คิดว่าการเป็นเอเยนต์เป็นสิ่งที่ง่ายครับ มันไม่ใช่แค่การเป็นคนดูแลเรื่องการซื้อขายนักเตะ แต่จริงๆแล้วงานของเอเยนต์มีความลับและรายละเอียดยิบย่อยหลายอย่างที่คนทั่วไปอาจไม่รู้ คือตอนเป็นนักบอล เรามีหน้าที่แค่ทำร่างกายและสภาพจิตใจของเราให้พร้อมที่จะลงแข่ง แต่การเป็นเอเยนต์เราก็ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น เพราะตอนนี้เราต้องดูแลชีวิตของนักฟุตบอล เพราะเราต้องดูแลมากกว่าแค่ชีวิตในสนามของเขา ซึ่งทาง FPS เราทำตามกฏสากลอย่างเคร่งครัดและเชื่อว่าเอเยนต์ก็เป็นฟันเฟืองที่สำคัญที่พร้อมจะขับเคลื่อนไปพร้อมๆกับองค์ประกอบอื่นๆของวงการฟุตบอลไทยครับ

ช่วงการซื้อ-ขายนักเตะ เอเยนต์ต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง ? 

 

ดอย ธฤติ : อย่างแรกก็คือการคุยกับต้นสังกัดของนักเตะครับ ถ้าทีมมีความสนใจที่จะปล่อยนักเตะ และนักเตะต้องการจะย้ายด้วย เราก็มีหน้าที่ดูแลเรื่องสัญญาที่นักเตะมีกับสโมสรต่อ เมื่อเสร็จแล้ว ก็สามารถหาทีมใหม่ที่สนใจนักเตะคนนั้นและคุยเรื่องรายละเอียดของสัญญาใหม่ได้เลย โดยเมื่อทีมใหม่ยื่นสัญญามา และทางเรากับนักเตะโอเค ทุกฝ่ายก็ไปคุยกันและสามารถเซ็น Pre-Contract เพื่อที่จะให้นักเตะได้ไปตรวจร่างกาย ถ้านักเตะผ่านการตรวจร่างกาย เราก็จะสามารถเซ็นสัญญาจริงได้ 

 

ทางเอเยนต์ก็มีหน้าที่ในการอยู่กับนักเตะตลอดตั้งแต่เริ่มจนจบการเจรจาครับ เราต้องช่วยเรื่องการหาที่อยู่ของนักเตะ เรื่องครอบครัวของเขา รวมถึงการช่วยเหลือเรื่องการใช้ชีวิตนอกสนามทุกอย่างของเขา ทาง FPS ให้ความสำคัญกับนักเตะทุกคน เราพร้อมจะอยู่กับเขาเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน 

มีนักเตะไทยหลายคนที่เลือกที่จะมาอยู่กับ FPS คุณสามารถพูดถึงเหล่านักเตะที่อยู่ในสังกัดของคุณได้ไหมว่ามีใครบ้าง ? 

 

Benni : คำถามนี้เป็นคำถามที่สำหรับผมแล้วตอบค่อนข้างยาก เพราะ FPS เราให้ความสำคัญกับนักเตะของเราทุกคน แต่ในเมื่อคุณถามมา ผมภูมิใจมากที่ เจ ชนาธิป ได้มาร่วมงานกับเราอีกครั้ง เพราะจริงๆแล้วเราเคยได้ร่วมงานกันมาก่อน แต่เพราะปัญหาบางเรื่องเลยทำให้เราต้องแยกกัน แต่ก็ดีใจมากที่เราได้มาร่วมงานกับเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาเป็นนักเตะที่เก่งมากและเราก็ดีใจที่เขามั่นใจใน FPS และเลือกที่จะมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับเรา ผมชอบทัศนคติของ เจ มากๆครับ ผมอยากให้มีนักเตะไทยที่ใจสู้และมีความมุ่งมั่นเหมือนเขาอีกหลายๆคน 

 

อีกคนที่ผมภูมิใจมากก็คือการเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฝันของ นิว ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เป็นจริงกับการที่เขาได้ไปเล่นที่ เจลีก ตอนนี้เขาเป็นกองกลางที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย 

 

ส่วนคนอื่นๆ ที่ผมอยากพูดถึงก็คือ ตัง สารัช อยู่เย็น ที่กลับมาฟอร์มดีอีกครั้งกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แล้วก็มี เอเลียส ดอเลาะ ที่ได้รับโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่ รวมถึงดาวรุ่งสองคนอย่าง กานต์รินทร์ ถาวรศักดิ์ กับ ฉัตรมงคล ทองคีรี ที่กำลังพัฒนาฟอร์มการเล่นได้อย่างน่าประทับใจครับ 

การส่งออกนักเตะไทยไปลีกที่ดีกว่าอย่าง ญี่ปุ่น หรือ เกาหลีใต้ มีอุปสรรคสำคัญอะไรบ้าง ?

 

ดอย ธฤติ : ผมคิดว่าจังหวะ โอกาส และ ความต้องการเป็นสิ่งสำคัญครับ การจะไปเล่นในลีกต่างประเทศได้ สิ่งเหล่านี้ต้องครบ สำหรับผมแล้วทัศนคติกับเป้าหมายของนักฟุตบอลไทยเป็นสิ่งสำคัญด้วยครับ ถ้าเรามองภาพใหญ่ เราพร้อมอยู่แล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะผลักดันให้มีนักฟุตบอลไทยไปเล่นในลีกชั้นนำทั่วโลก แต่ตัวนักฟุตบอลเองก็ต้องส่องกระจกดูตัวเองด้วยว่าพร้อมหรือยังที่จะไปเล่นต่างประเทศ ถ้านักฟุตบอลพร้อมที่จะออกไปสู้ และเรามองว่าเขาพร้อมเหมือนกัน เราในฐานะเอเยนต์ก็พร้อมที่จะสนับสนุนและเดินไปข้างหน้ากับเขาครับ 

เป้าหมายในการทำ FPS คืออะไรครับ ?

 

Benni : สำหรับผมแล้ว เป้าหมายและวิสัยทัศน์ของเราไม่ได้ต้องการที่จะเซ็นนักเตะให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้มาอยู่กับ FPS แต่ผมมองว่าเราโฟกัสไปที่คุณภาพของนักเตะมากกว่าที่เราอยากให้มาอยู่กับเรา นอกจากเรื่องนี้แล้วผมก็มองไปที่เรื่องของการทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้วงการฟุตบอลไทยเป็นที่รู้จักในระดับโลกครับ ผมอยากให้บอลไทยมีนักเตะระดับท็อปๆมาค้าแข้ง และต้องการที่จะให้นักบอลไทยได้โอกาสไปพัฒนาฝีเท้าในต่างแดนด้วย ผมก็จะทำงานหนักเพื่อให้ทั้งหมดนี้เป็นจริงครับ 


stadium

author

Ta Lao

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose