กัปตัน 7 เซียน วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ ผู้อุทิศทั้งชีวิตให้วอลเลย์บอล

11 ตุลาคม 2565

** บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกวันที่ 13 เมษายน 2021

ตัดสินใจสร้างครอบครัวแล้วกำลังจะมีเบบี๋อีกในไม่ช้านี้ แต่เชื่อว่าคนไทยคงไม่มีใครลืมผลงานของ วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์ ที่ได้เคยฝากไว้ให้กับวงการวอลเลย์บอลไทย ในสมัยที่ยังโลดแล่นอยู่ในคอร์ท “กัปตันกิ๊ฟ” นั้นคือผู้นำของทีมยุค 7 เซียนที่ใครๆ ต่างก็ให้การยอมรับ วันนี้ StadiumTH ขอพานำทุกคนย้อนกลับดูเรื่องราวของเธออีกครั้ง

กว่าจะมาเป็น “กัปตันกิ๊ฟ”

จุดเริ่มต้นของ วิลาวัณย์ กับการเล่นวอลเลย์บอลเกิดขึ้นตั้งแต่สมัย ป.2 ซึ่งไม่ต่างจากนักกีฬาคนอื่นๆ โดยคนที่มีส่วนสำคัญมากที่สุดในการผลักดันให้ “กัปตันกิ๊ฟ” เข้าไปใกล้ชิดและสนิทสนมกับวอลเลย์บอล ก่อนจะกลายเป็นเงาตามตัวกันจนถึงทุกวันนี้คือ “พี่สาว” เพราะว่าในอดีตที่ผ่านมา วิลาวัณย์ มักจะไปไหนมาไหนกับพี่สาวเป็นประจำแทบทุกวัน เพราะว่า “พ่อ-แม่” ต้องทำงานเป็นครูและด้วยความที่พี่สาวเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลอยู่ก่อนแล้ว “กัปตันกิ๊ฟ” จึงค่อยๆซึบซับไปเรื่อยๆ และก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาแบบเต็มตัวในที่สุด

วิลาวัณย์ จบการศึกษาระดับมัธยม ที่โรงเรียนสุรนารีวิทยา และเข้าเรียนต่อระดับปริญญา (ตรี-โท) สาขาบริหารธุรกิจบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “ทีมชาติไทย” ครั้งแรกเมื่อปี 1997 ก่อนจะติดธงรับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน

เส้นทางสาย “ลูกยางอาชีพ”

วิลาวัณย์ อาจไม่ใช่ผู้เล่นคนแรกที่เดินทางไปเปิดตลาดในลีกต่างประเทศแต่เอาจริงๆ แล้วก็คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ผ่านการลงเล่นในลีกต่างประเทศมาอย่างโชกโชนเหมือน วิลาวัณย์ และ เพื่อนๆ ในกลุ่ม “7 เซียน” ซึ่งทั้งหมดกลายเป็นดาวตบระดับตำนานของวงการลูกยางไทยในปัจจุบัน

เวียดนาม, ตุรกี, สเปน และ อาเซอร์ไบจาน คือรายชื่อประเทศที่ วิลาวัณย์ เคยไปฝากผลงานชิ้นโบว์แดงเอาไว้กับการลงเล่นระดับสโมสร ไฮไลต์สำคัญคือในฤดูกาล 2011-2012 “กัปตันกิ๊ฟ” ลงเล่นกับสโมสร กว่างตง เอเวอร์แกรนด์ ในเวทีไชนีส ซูเปอร์ลีก ประเทศจีน ก่อนจะช่วยทีมจบเป็นอันดับที่ 2 ในลีก ซึ่งถือเป็นผลงานดีที่สุดของสโมสรในตอนนั้น (ปีต่อมา กว่างตงฯ คว้าแชมป์ ไชนีส ซูเปอร์ลีก)

นอกจากจะช่วยทีมประสบความสำเร็จแล้ว วิลาวัณย์ ยังได้รับประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากมายจาก กว่างตงฯ เพราะว่าได้มีโอกาสร่วมงานกับ หลาง ผิง ยอดโค้ชหญิงหมายเลข 1 ของโลก ผู้ที่พา “ตบลูกยางสาวจีน” คว้าแชมป์โอลิมปิก 2016 มาครองได้สำเร็จ รวมทั้งยังมีโอกาสลงเล่นเคียงข้างสตาร์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น เฝิง คุณ เซตเตอร์ระดับตำนานของจีนดีกรีแชมป์โอลิมปิก, โลแกน ทอม ยอดดาวตบชาวสหรัฐฯ เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 2 สมัยและ โยวาน่า บราโกเซวิช สตาร์วัยรุ่นทีมชาติเซอร์เบีย ที่ก้าวขึ้นมาเป็นรองแชมป์โอลิมปิกเมื่อปี 2016

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

วิลาวัณย์ เปรียบดั่ง “สัญลักษณ์” ของทีมลูกยางสาว นครราชสีมาฯ เพราะว่า เจ้าตัว เป็นคนที่เกิดและเติบโตที่นั่น รวมทั้งนับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพครั้งแรกในชีวิต นครราชสีมาฯ คือทีมเดียวในเมืองไทยที่ “กัปตันกิ๊ฟ” ลงสนามรับใช้มาโดยตลอด แต่แล้ววันหนึ่ง วิลาวัณย์ก็ตัดสินใจเดินหน้าชนกับความท้าทายครั้งใหม่ นั่นก็คือการย้ายร่วมทัพ เจนเนอราลี่ สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค

วิลาวัณย์ แบกรับความกดดันมหาศาลไว้บนบ่า เพราะว่าเจ้าตัวต้องช่วยพาทีมโลมาสีชมพูก้าวขึ้นมาติดลมบน และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่สโมสรวางไว้ เพราะว่าพวกเขาเป็นทีมเก่าแก่ที่ยังไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกของแชมป์เลยสักครั้ง ..... แต่ว่าทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพราะ “กัปตันทีม” ที่มีชื่อว่า วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์

5 ฤดูกาลของ วิลาวัณย์ ในสีเสื้อของ “โลมาสีชมพู” ถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ใครเลยจะคิดว่า ทีมเก่าแก่ที่ไม่เคยรู้จักกับคำว่า “แชมป์” จะเดินหน้ากวาดโทรฟี่เข้ามาประดับตู้โชว์ของสโมสรได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งการคว้าแชมป์ไทยแลนด์ลีกในฤดูกาล 2019-20 ของ เจนเนอราลี่ สุพรีมฯ นับว่าเป็นแชมป์ทางการใบที่ 8 ในประวัติศาสตร์สโมสร (แชมป์ไทยแลนด์ลีก 3 สมัย, แชมป์ซูเปอร์ลีก 3 สมัย และ แชมป์สโมสรเอเชีย 2 สมัย) รวมทั้งยังเป็นทีมอาชีพทีมแรกของไทย (ไม่นับทีมเฉพาะกิจ) ที่สามารถคว้าแชมป์สโมสรเอเชีย มาครองได้ 2 สมัย (บางกอกกล๊าสฯ 1 สมัย)

ความยิ่งใหญ่ในนามทีมชาติไทย

วิลาวัณย์ คือสมาชิกคนหนึ่งของ “ตบสาวไทย” ชุดประวัติศาสตร์ ที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่า “ 7 เชียน” ทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้น ทุกปรากฏการณ์ที่ถูกพูดถึง ทุกรอยยิ้มที่คนไทยเกือบทุกคนมีร่วมกัน และ ทุกหยดน้ำตาที่คนไทยเกือบทุกคนหลั่งออกมาพร้อมๆกัน ล้วนแล้วแต่มาจากฝีไม้ลายมือของ วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์ และ เพื่อนๆทุกคน

แชมป์ซีเกมส์ 10 สมัย, เหรียญเงินเอเชียนเกมส์, แชมป์เอเชีย 2 สมัย, แชมป์เอวีซีคัพ 1 สมัย และการเข้าร่วมแข่งขันใน “รายการระดับโลก” ทุกๆรายการที่ผ่านมา รวมทั้งผลงานประทับใจมากมายที่ฝากเอาไว้ของ “ตบสาวไทย” ไม่ว่าจะเป็นการการล้ม บราซิล, อิตาลี, ตุรกี, เนเธอร์แลนด์, รัสเซีย, สหรัฐฯ หรือแม้แต่ “บิ๊กเนม” ทีมอื่นๆทั่วโลก แทบทุกแมตช์ล้วนมีชื่อของ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ ยืนอยู่ในสนามทั้งนั้น