"จับตา 5 แข้งไทยฟอร์มแรง" ที่พร้อมฉายแววต่อเนื่อง ไทยลีก 2020 เลกสอง

#แบกเป้ดูบอลไทย 

"จับตา 5 แข้งไทยฟอร์มแรง" ที่พร้อมฉายแววต่อเนื่อง ไทยลีก 2020 เลกสอง

ยังคงเต็มไปด้วยความดุเดือด และเข้มข้นสมกับเป็นลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในภูมิภาคอาเซียน สำหรับศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 ที่ผ่านมาเกือบๆ ครึ่งทางของฤดูกาล แม้ว่าก่อนหน้านี้จะต้องพักเบรคไปเฉียดๆ ครึ่งปี แต่ความมันส์ของฟุตบอลไทยลีกก็ไม่ได้หาย หรือเลือนลางไปแต่อย่างใด

หนำซ้ำ ในซีซั่นนี้ หลายๆ ทีมในลีกต่างมีการขยับปรับทัพในเรื่องของตัวผู้เล่นระดับ “บิ๊กดีล” กันเป็นว่าเล่น ไล่มาตั้งแต่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มีทั้ง อันเดรส ตูเญซ, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, มิตสึรุ มารุโอกะ และกำลังจะมีชื่อของเทพเจ้าไทยลีกอย่าง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต มาผนึกกำลังร่วมกับแข้งไทยระดับท๊อปทั้ง สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และสุมัญญา ปุริสาย

ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็มีข่าวว่าเตรียมยกเครื่อง 4 แข่งต่างชาติอีกครั้งในเลกที่สอง แน่นอนว่าเป้าหมายของการยกเครื่องในครั้งนี้คงตอกย้ำเป้าหมายของการไล่ล่าความสำเร็จภายใต้การนำของกุนซือสมองเพชรอย่าง อเล็กซานเดร กาม่า พร้อมๆ กับยึดแกนหลักด้วยแข้งไทยในทีมไม่มีเปลี่ยน

แม้จะอินโทรเริ่มต้นด้วยแข้งคีย์แมนต่างชาติของสองทีมใหญ่ในลีก แต่สิ่งสำคัญที่เราจะโฟกัสในวันนี้ไม่ใช่เป็นนักเตะต่างชาติครับ เพราะเรากำลังจะพูดถึง “นักเตะไทย” ที่กำลังทำผลงานได้ดีในเลกแรก และเราเชื่อว่าพวกเขาเหล่านี้จะยังสามารถรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองต่อไปได้ในเลกที่สอง

ทั้งๆ ที่บางคนเพิ่งจะผงาดขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงของทีมทั้งๆ ที่ขึ้นชุดใหญ่ของทีมเป็นปีแรกเท่านั้น บางคนผ่านเรื่องราวดราม่ามามากมายก่อนจะสวมบทยิงกระจายทั้งๆ ที่เป็นวิงแบ็ก บางคนก้าวขึ้นมาแบกทีมทั้งๆ ที่อายุเพิ่งจะผ่านหลัก 22-23 ปี มาไม่นาน บางคนก้มหน้าก้มตาทำงานหนักจนพาทีมรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงด้วยผลงาน 3 ประตู 2 แอสซิสต์ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราจะพูดกันกันว่า 5 แข้งไทยฟอร์มแรงเหล่านี้มีใครกันบ้าง...

#เจริญศักดิ์วงษ์กรณ์

“เท่ห์” ถือเป็นหนึ่งในแข้งที่มาแรงที่สุดของวงการฟุตบอลบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่นให้กับต้นสังกัดอย่าง สมุทรปราการ ซิตี้ หลังแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูไปถึง 5 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับสามของลีก รวมถึงเส้นทางในสีเสื้อทัพ “ช้างศึก” ชุดใหญ่ ที่ดูสดใสเหลือเกิน

จุดเด่นที่เห็นได้อย่างชัดเจนของเจ้าตัวก็คือ “การเลี้ยงหลบคู่แข่ง” ตามที่ #ChangsuekAI ได้วิเคราะห์เอาไว้ก็คือ เจริญศักดิ์ คือนักเตะไทยที่มีอัตราการเลี้ยงหลบคู่แข่งสำเร็จมากที่สุดในลีก คิดเป็นตัวเลขสูงถึง 60.34 % นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคู่แข่งที่อยู่ตรงข้างหน้า สมุทปราการ ซิตี้ หรือทีมชาติไทยจะเป็นใคร หากแต่ถ้าในสนามมี “เจ้าเท่ห์” ประจำการอยู่ทางริมเส้น คุณมั่นใจได้เลยว่า สตาร์วัย 23 ปีรายนี้ก็พร้อมจะสวมบทพ่อมดเพื่อเนรมิตความมหัศจรรย์บนผืนฟลอร์หญ้าตอบแทนแฟนบอลทันที 

#สุภโชคสารชาติ

หากจะถามว่าใครคือนักเตะไทยที่โชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวาที่สุดตลอด 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ สุภโชค สารชาติ ติดอยู่ในท๊อปลิสต์อย่างแน่นอน เพราะด้วยมันสมอง เซนส์บอลอันชาญฉลาด ความกล้าได้กล้าเสีย ความเร็ว และการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมเกินวัย ทำให้ “เจ้าเช็ค” ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะตัวหลังของทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นที่เรียบร้อย และด้วยมาตรฐานที่เจ้าตัวยังรักษา และพัฒนาฝีเท้าขึ้นตลอด เชื่อว่าชื่อ “สุภโชค” จะยังคงติดอยู่บนแผ่นหลังเสื้อทีมชาติไทยไปอีกอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ

ในศึกไทยลีก 2020 เลกแรก จริงอยู่ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาจจะออกสตาร์ทได้ไม่ดีนักจนนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง หากแต่ผลงานของแนวรุกรายนี้ก็ยังเป็นตัวชูโรงของทีมได้เสมอ หลังกดไปแล้ว 5 ประตู และเชื่อว่าสถิติดังกล่าวจะไม่หยุดแค่เพียงเท่านี้อย่างแน่นอน !!!

#ฟิลิปโรลเลอร์

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ณ ขณะนี้ ฟิลิป โรลเลอร์ คือนักเตะไทยที่ทำประตูในศึกไทยลีก 2020 ได้มากที่สุด ด้วยจำนวน 7 ประตู ทั้งๆ ที่ตำแหน่งโดยธรรมชาติของเจ้าตัวคือ วิงแบ็ก หรือตัวริมเส้นเท่านั้น !!!

แต่ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน และเปี่ยมไปดวยแพสชั่นของความทุ่มเท ความเป็นผู้นำ และกล้าที่จะพาบอลตะลุยไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัวใคร เจ้าตัวช่วยให้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ยกระดับทีมขึ้นมาได้อย่างน่ากลัว จนสามารถผงาดขึ้นมาอยู่ในพื้นที่ได้ลุ้นตั๋ว เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นคือความฝันของเหล่าสาวก “ราชันมังกร” ที่วิงแบ็กรายนี้ต้องทำให้ได้ในฐานะ “กัปตันทีม” ในช่วงอีกไม่กี่นัดก่อนที่จะจบเลกแรก

แน่นอนว่า ฟิลิป โรลเลอร์ พัฒนาตัวเองขึ้นมามาก ทั้งในแง่ของสภาพร่างกาย สภาพจิตใจ และความนิ่ง ที่หล่อหลอมจากประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต จนในที่สุด วิงแบ็กทีมชาติไทยรายนี้ได้กลายร่างมาเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี จะขาดไปไม่ได้อีกแล้ว นี่คือผลตอบแทนจากความตั้งใจ และทุ่มเทอย่างหนัก ซึ่งเราเชื่อว่า ฟิลิป โรลเลอร์ คนนี้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ทัพ “ราชันมังกร” ไปไกลถึงเวทีระดับเอเชีย หรืออาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ในช่วงท้ายซีซั่นก็เป็นได้ 

#โชติภัทรพุ่มแก้ว

หากเปรียบสเตตัสของ “จ็อบ” ณ ปัจจุบัน เจ้าตัวก็คงไม่ต่างไปจาก “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ก้าวข้ามคำว่าดาวรุ่ง สู่คำว่า “แข้งตัวหลัก” ของ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้อย่างงดงาม เหนียวแน่น มั่นคง และแข็งแกร่ง ด้วยสไตล์การเล่นที่เต็มไปด้วยวินัยทั้งเกมรุก และรับ ความหลากหลายในการยืนประจำการทั้งแบ็กขวา และ ริมเส้นฝั่งขวา บวกกับความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า “อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข” ทำให้ชื่อของ โชติภัทร ผงาดขึ้นมาอยู่ในสายตาของแฟนบอลบ้านเราในฐานะ คนสำคัญของทัพ “กว่างโซ้งมหาภัย”

3 ประตู 2 แอสซิสต์ คือความยอดเยี่ยมที่ โชติภัทร ฝากไว้ทั้งๆ ที่ยังไม่จบเลกแรก แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ “จ็อบ” เดินหน้าทำผลงานอย่างเต็มที่ต่อไป เพราะอย่าลืมว่านี่คือการก้าวขึ้นมาจากทีมอคาเดมี สู่ทีมชุดใหญ่ ด้วยศักดิ์ศรีแชมป์เก่าไทยลีก บวกกับความผูกพัน และต้องการตอบแทนความไว้วางใจของต้นสังกัด เชื่อว่าดาวเตะสารพัดประโยชน์รายนี้ก็พร้อมจะทุ่มเทเกินร้อยไม่มีเปลี่ยน เพื่อสีส้มที่อยู่บนเสื้อ, ตรากว่างโซ้งฯ ที่ปักลงตรงอกซ้าย และสำคัญที่สุดคือ เพื่อโอกาสได้สวมชุดเกราะทัพ “ช้างศึก” เคียงข้างลูกหม้ออคาเดมีเจียงฮายด้วยกันอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา นั่นเอง

#ณัฐวุฒิสุขสุ่ม

“เบียว” ละอ่อนเหนือจากรั้ว ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด คือตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของคำว่า “ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา” และเขาเชื่อว่า “ฟุตบอล” จะสามารถเปลี่ยนชีวิตตัวเองได้ จากเด็กน้อยในครอบครัวที่ยากจน สู่การใช้ฟุตบอลเป็นตัวพลิกชีวิต การผจญภัยในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความเหงาทั้งๆ มีมีคนนับล้าน ความอดทนเพื่อโอกาสกับทัพ “แข้งเทพ” กระทั่งการได้เห็น ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม ในสีเสื้อทีมชาติไทยชุดใหญ่ เราจึงเข้าใจว่า ความมุ่งมั่น และตั้งใจเท่านั้น ที่เปรียบเสมือนกุญแจสำคัญที่ทำให้เจ้าตัวมาถึงจุดนี้ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

5 ประตูจาก 12 นัดพร้อมกับการก้าวมาเป็นดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลนี้ คือความยอดเยี่ยมที่ผลิดอกออกผลจากการไปฟูมฟักเก็บประสบการณ์กับ เอฟซี โตเกียว U23 มาร่วมปี แน่นอนว่าการเดินทางไป ญี่ปุ่น ในครั้งนั้นได้ทำให้ “เจ้าเบียว” แข็งแกร่งขึ้นทั้งร่างกาย และจิตใจ จนสามารถต่อกรกับแนวรับระดับเขี้ยวลากดินในไทยลีกได้อย่างสนุก

เจ้าตัวมีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือการจบสกอร์ที่เด็ดขาด และมีทีเด็ดจากลูกกลางอากาศที่แทบจะเลือนหายไปจากสัญชาตญาณของศูนย์หน้าชาวไทย แน่นอนว่า ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม จะเป็นทั้งปัจจุบัน และอนาคตของวงการฟุตบอลไทย และทีมชาติไทย ชุดใหญ่อย่างแน่นอน เพียงแค่เจ้าตัวไม่ยอมเป็นน้ำที่เต็มแก้ว และพร้อมจะพัฒนาฝีเท้าเพื่อก้าวไปอยู่ในจุดที่ ธีรศิลป์ แดงดา ฝากเอาไว้

ช่วงเวลาที่เหลือต่อจากนี้ไปจบจบฤดูกาล จะเป็นเครื่องพิสูจนชั้นดีว่า ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม จะสามารถทำลายกำแพงคำว่า “ดาวรุ่ง” สู่การเป็น “ศูนย์หน้าตัวความหวัง” ของวงการฟุตบอลบ้านเราในวันที่หลายๆ ทีมเลือกใช้แต่แข้งต่างชาติได้หรือไม่ ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่ง มั่นใจ และขอเอาใจช่วยให้ “เบียว” ฝ่าด่านหินนั้นไปให้ได้ ด้วยประตูเป็นกอบเป็นกำ !!! 

นอกเหนือจากห้าคนนี้ ยังมีแข้งไทยอีกหลายรายที่รักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น จักรพันธ์ แก้วพรม จอมทัพเจ้าของฉายา เจ้าชายไทยลีกที่แอสซิสต์ไปถึง 6 ครั้ง มากที่สุดในฐานะแข้งไทยในไทยลีก บวกกับ สุมัญญา ปุริสาย และสามสหายจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อย่าง สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, เจนรบ สำเภาดี ที่ดีวันดีคืนมากขึ้นเรื่อยๆ จนพาทัพ “บีจีพียู” ติดลมบนอยู่ ณ ขณะนี้ ทั้งหมดนี้คือความน่าสนใจของฟุตบอลไทยลีก 2020 ที่รอคุณอยู่ในเลกที่สอง รับรองได้ว่ายังคงเต็มไปด้วยความเข้มข้น ระอุ และถึงใจคอบอลบ้านเราอย่างแน่นอน

เพราะบอลนอกแค่สะใจ แต่บอลไทยอยู่ในสายเลือด !!!