stadium

พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน ? : ขุนพลโต๊ะเล็กไทย ชุดคว้าชัยนัดประวัติศาสตร์ฟุตซอลโลก 2004

25 ตุลาคม 2563

พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน ? : ขุนพลโต๊ะเล็กไทย ชุดคว้าชัยนัดประวัติศาสตร์ฟุตซอลโลก 2004

 

หากจะเอ่ยถึง ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ที่สร้างชื่อบนเวทีโลก ให้กับวงการโต๊ะเล็กจากแดนสยาม หลายคนคงนึกถึง ขุนพลโต๊ะเล็กช้างศึก ชุดลุยเวิลด์คัพ ปี 2004 ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งแข้งจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเก็บชัยชนะกลับมาฝากพี่น้องชาวไทย ได้เป็นครั้งแรก

 

ซึ่งถือเป็นชัยชนะนัดประวัติศาสตร์เกมแรกของ ขุนพลโต๊ะเล็กช้างศึก บนเวทีฟุตซอลโลก โดยเอาชนะ ออสเตรเลีย ทีมแแกร่งจากโซนโอเชียเนีย ที่ก่อนหน้านี้เข้ารอบสุดท้ายฟุตซอลโลก มาแล้วถึง 5 สมัย ด้วยผลงานจบเกม 40 นาที ไทย เอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-2

 

วันนี้ทีมงานของเรา จะพาแฟนคลับโต๊ะเล็กไทย ทั้งรุ่นเก่า และใหม่ ไปทำความรู้จัก ขุนพล "ช้างศึกโต๊ะเล็ก" ทีมชาติไทย ชุดฟุตซอลโลก 2004 ที่ฝากผลงานน่าประทับใจ ด้วยผลงาน แพ้ สาธารณรัฐเช็ก1-2, แพ้ บราซิล 1-9, ชนะ ออสเตรเลีย 3-2 พวกเขาทำอะไร? อยู่ที่ไหนกันบ้าง? ไปดูกันเลย

 

-----------------------------------------------------------------------

 

ผู้รักษาประตู  

 

เศรษฐกรชัย(สมคิด) ชื่นตา  

 

นายทวารจอมลีลาอย่าง เศรษฐกรชัย หรือชื่อเดิม สมคิด  ชื่นตา ที่ตอนนั้นไปลุยศึกเวิลด์คัพ เป็นครั้งแรกในชีวิต ด้วยอายุ 26 ปี พร้อมได้ลงเฝ้าเสาลงสนามเป็นตัวจริงทุกเกมให้ทัพโต๊ะเล็กไทย พร้อมโชว์ฟอร์มเซฟกระจาย แม้จะโดนแนวรุกบราซิล ทีมแกร่งของโลก เล่นงานจนอ่วม โดยเฉพาะลูกยิงเหนือชั้นของ ฟัลเกา ราชาโต๊ะเล็กโลก แต่ผลงานโดยรวมถือว่าสอบผ่าน

 

หลังจากนั้น เศรษฐกรชัย ชื่นตา ยังคงได้โอกาสไปลุยเวิลด์คัพ อีกสมัยในปี 2008 บวกกับคว้าอันดับที่ 4 ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก 2002 พร้อมโลดแล่นบนลีกอาชีพมาอย่างยาวนาน เริ่มจับงานโค้ชกับ ศรีปทุม ปัจจุบันทำงานร่วมกับฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตซอลลีก และรับงานโค้ช ทีมฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย พาทีมคว้าแชมป์อาเซียน 2019 มาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อีกด้วย  

 

-----------------------------------------------------------------------

 

ปริญญา ปั้นดี

 

ผู้รักษาประตูดาวรุ่งอนาคตไกลของวงการฟุตซอลไทย อย่าง "เบียร์" ปริญญา ปั้นดี ที่ได้รับโอกาสไปลุยฟุตซอลโลก ตั้งแต่อายุเพียง 20 ปีเท่านั้น แต่ด้วยฟอร์มที่ดีสม่ำเสมอของรุ่นพี่อย่าง เศรษฐกรชัย(สมคิด) ชื่นตา ทำให้เจ้าตัวไม่ได้รับลงการลงไปสัมผัสเกมในศึกเวิลด์คัพ 2004

 

ต่อมาในปี 2008 เจ้าตัวมีชื่อลุยฟุตซอลโลก เป็นหนที่สองในชีวิต แต่ต้องตกเป็นตัวเลือกลำดับที่สาม ต่อจากนายด่านรุ่นพี่ในทีมอย่าง สุรพงศ์ ทมพา และ เศรษฐกรชัย(สมคิด) ชื่นตา หลังจากนั้น ปริญญา ปั้นดี ลงคงเล่นในลีกอาชีพมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2019 ก้าวไปติดทีมฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย ด้วย ล่าสุด หันไปจับงานโค้ชผู้รักษาประตูกับ สโมสร บีเคซี ปราจีนบุรี ไฮเวย์ ในฤดูกาล 2020

 

-----------------------------------------------------------------------

 

ตัวรับ  

 

พัทยา เปี่ยมคุ้ม

 

“กัปตันเอ๋” พัทยา เปี่ยมคุ้ม อดีตแข้งเยาวชนฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ครั้งนี้ได้ลุยเวิลด์คัพเป็นหนที่สอง พร้อมสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมนำทัพโต๊ะเล็กไทย ลงสนามครบทั้ง 3 นัด เป็นกัปตันทีมชาติไทย คนแรกที่พาทีมเก็บชัยชนะได้ในฟุตซอลโลก หลังเอาชนะ ออสเตรเลีย 3-2 ซึ่งเกมดังกล่าวเจ้าตัวยิงไป 1 ประตู ซึ่งก่อนหน้านี้ “กัปตันเอ๋” จารึกชื่อเป็นนักเตะไทย คนแรกที่ทำประตูในเวทีเวิลด์คัพ เมื่อปี 2000 ได้อีกด้วย  

 

หลังเลิกเล่น พัทยา เปี่ยมคุ้ม หันมาเอาดีด้านงานโค้ช และประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ รับงานคุมทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ทั้งหญิงและชาย ย้ายไปเป็นกุนซือทีมชาติเวียดนาม, สิงคโปร์ ส่วนในระดับสโมสร พา ชลบุรี บลูเวฟ คว้าแชมป์ ฟุตซอล ไทยลีก ครั้งที่ 1 ปัจจุบันคุมทีมสโมสรห้องเย็นท่าข้าม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้องๆ ทั้งในฐานะผู้เล่น และโค้ช พร้อมเป็นผู้ช่วยวิทยากรอบรมโค้ชฟุตซอลของ AFC ควบคู่ไปด้วย

 

-----------------------------------------------------------------------

 

อนุพงษ์ พลศักดิ์

 

ดาวเตะจอมแกร่งอย่าง "หนึ่ง" อนุพงษ์ พลศักดิ์ ที่ได้โอกาสลุยฟุตซอลโลก ครั้งแรกในชีวิต ในวัย 31 ปี หลังสร้างชื่อพาทีมชาติไทย คว้าอันดับที่ 4 ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2002 พร้อมเป็นพี่น้องคู่แรกของไทย กับ พี่ชาย ยุทธนา พลศักดิ์ ที่ได้ลุยศึกฟุตซอลโลก ในรอบสุดท้าย  

 

หลังจากนั้นเจ้าตัวยังคงลงเล่นในฟุตบอลลีกอาชีพกับ สโมสรราชประชา พร้อมไปฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก อีกครั้ง ปี 2005 ก่อนหันมาเอาดีด้านงานโค้ชผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนฟุตซอล ระดับสูงสุด หลักสูตร AFC Level 3 พร้อมบรรจุทำงานที่ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.)  แม้วัยจะเข้าสู่วัย 47 ปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีไฟลงเล่นฟุตซอลรัฐวิสาหกิจให้กับต้นสังกัด และพาทีมคว้าแชมป์มาครองถึง 2 สมัย

 

-----------------------------------------------------------------------

 

ยุทธนา พลศักดิ์  

 

ดาวเตะแกนหลักของทีมฟุตซอลไทย อย่าง "พี่ยุทธ" ยุทธนา พลศักดิ์ ดาวเตะจากจังหวัดหนองคาย ในวัย 34 ปี ที่ได้โอกาสลุยฟุตซอลโลก เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน ด้วยความมีระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำสูง และทักษะฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม ทำให้ ยุทธนา พลศักดิ์ ลงสนามช่วยทีมชาติไทย ครบทั้ง 3 เกม พร้อมยิงไป 1 ประตู เกมเอาชนะ ออสเตรเลีย 3-2  

 

ยุทธนา พลศักดิ์ ถือเป็นผู้เล่นระดับตำนานที่ใครจะมาลบสถิติได้ยาก ติดทีมชาติไทย ทั้ง 3 ประเภท ฟุตบอล, ฟุตซอล(ชุดชิงแชมป์โลกปี 2000,2004) และฟุตบอลชายหาด(ชุดได้ที่4 ในรายการชิงแชมป์โลก 2002, 2005) หลังจากเลิกเล่นหันมาจับงานโค้ชผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนฟุตซอล หลักสูตร AFC Level 3 เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย หลายชุด พร้อมเป็นคอมเมนเตเตอร์ฟุตซอลทางหน้าจอทีวี และทำงานประจำที่ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ควบคู่ไปด้วย  

 

-----------------------------------------------------------------------

 

ณรงค์ศักดิ์ คงแก้ว

 

ดาวเตะมาดนิ่งจอมเทคนิค วัย 25 ปี ถือเป็นแกนหลักในเกมรับของทีมชาติไทย อย่างแท้จริง ลงเล่นฟุตซอลโลก เป็นสมัยที่สอง พร้อมมีชื่อออกสตาร์ทเป็นตัวจริงถึง 2 จาก 3 เกม โดนไป 1 ใบเหลือง เกมชนะ ออสเตรเลีย 3-2 จากนั้นยังได้ลุยเวิลด์คัพอีกครั้ง เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2000, 2004 และ 2008  

 

หลังจากนั้นหันมาจับงานโค้ชกับหลายทีมทั้ง พัทยา, แคท เอฟซี, อยุธยา ซิตี้ ปัจจุบัน "โค้ชน้อย" ณรงค์ศักดิ์ คงแก้ว เปิดอาคาเดมี่ สอนฟุตบอลเล็กๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นอย่าง nnk khongkaew football academy  ล่าสุดคุมทีม คงสมบูรณ์ สปอร์ตคลับ ในทีมฟุตซอลลีกหญิง ฤดูกาล 2020

 

-----------------------------------------------------------------------

 

ริมเส้น

 

ภานุวัฒน์ จันทา  

 

"บัว" ภานุวัฒน์ จันทา แข้งซ้ายธรรมชาติที่ดีที่สุดคนนึงของทีมชาติไทย ในวัย 25 ปี อีกหนึ่งแข้งประวัติศาสตร์ของวงการฟุตซอลไทย ในทัวร์นาเมนต์นี้ เจ้าตัวเป็นแกนหลักลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมพบ แพ้ สาธารณรัฐเช็ก 1-2 และเกมแพ้ บราซิล 1-9 ก่อนโดนใบแดงในเกมพบขุนพลแซมบ้า ทำให้พลาดลงสนามในเกมชนะ ออสเตรเลีย 3-2 ไปอย่างน่าเสียดาย  

 

ภายหลังจบฟุตซอลโลก 2004 ภานุวัฒน์ จันทา ยังได้ลุยศึกฟุตซอลโลก เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันตั้งแต่ปี 2000, 2004 และ 2008 พร้อมสวมปลอกแขนกัปตันทีมด้วย ปัจจุบันดาวเตะจอมแกร่งชาวจังหวัดจันทบุรี ในวัย 42 ปี ยังคงรักษาสภาพร่างกายโลดแล่นบนลีกอาชีพกับนักเตะรุ่นน้องสบายๆ กับสโมสรแบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด ในลีกดิวิชั่น1 พร้อมพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดในตำแหน่งรองแชมป์ ซึ่งเจ้าตัวเริ่มเรียนรู้งานโค้ชบ้างแล้ว

 

-----------------------------------------------------------------------

 

สมพงษ์ พึ่งผูก

 

ดาวเตะอัจฉริยะฟุตซอลยุคแรกของเมืองไทย อย่าง "หอย" สมพงษ์ พึ่งผูก ในวัย 34 ปี ที่แจ้งเกิดมาจากฟุตบอลเดินสาย ยังคงได้รับความไว้วางใจให้ไปลุยเวิลด์คัพ เป็นหนที่สองต่อจากปี 2000 ซึ่งเจ้าตัวแม้ได้รับโอกาสลงสนามไม่เยอะ หลังจบทัวร์นาเมนต์ฟุตซอลโลก สมพงษ์ พึ่งผูก โลดแล่นในฟุตซอลลีกกับ ไอแอมสปอร์ต ในยุคตั้งไข่ปี 2006

 

ก่อนหันมาจับงานโค้ชทั้งฟุตบอล และฟุตซอล ไม่ว่าจะเป็น ร.ร.สตรีวิทยา(เยาวชนสโมสรรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด) พร้อมรับบทโค้ชแอนด์เพลย์เยอร์ของทีมปันหยี ลงเล่นในศึกแคท ริจินนอล ฟุตซอลทัวนาเมนต์ 2011 ปัจจุบันเปิดสอนฟุตบอลสำหรับเด็ก5-15 ปี ที่จังหวัดสมุทรปราการ "JW Academy" ผู้ปกครองท่านใดส่งลูกหลานไปเรียนสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 092-6699987  

 

-----------------------------------------------------------------------

 

โจ้ เนื่องเกิด

 

ดาวเตะมากความสามารถอีกรายของทีมฟุตซอลไทย อย่าง โจ้ เนื่องเกิด ดาวเตะในวัย 26 ปี ได้รับโอกาสลุยฟุตซอลโลก หนแรกในชีวิต พร้อมยึดแกนหลักเป็นตัวจริงให้ทีมโต๊ะเล็กไทย ครบทั้ง 3 เกม ซึ่งผลงานส่วนตัวถือว่าทำได้ดีมากๆ  

 

หลังจากนั้นเจ้าตัวยังคงโลดแล่นในเวทีฟุตซอลลีกอาชีพมาอย่างยาวกับหลายสโมสร อาทิ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, แคทเทเลคอม​ ,เมืองพัทยา​, ​ปราจีน​ ฟุตซอลคลับ, แคท​ เอฟซี, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค​, นนทบุรี, แคท​ เอฟซี​ พร้อมเรียนรู้งานโค้ชกับหลายทีมล่าสุดในวัย 42 ปี คุมทัพ สโมสรแบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด พาทีมคว้ารองแชมป์ลีกดิวิชั่น1 เลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดได้อีกด้วย พร้อมทำงานกับต้นสังกัด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ควบคู่ไปด้วย  

 

-----------------------------------------------------------------------

 

เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว

 

"โจ้" เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว ในวัย 23 ปี ซึ่งในตอนนั้นถูกจับมาเล่นตัวรุกเพราะมีลูกยิงที่เฉียบคม เล่นลูกนิ่งได้หลากหลาย ได้ไปทัวร์นาเมนต์ระดับโลก หนแรกของชีวิต ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 1 นัด ลงเล่นครบทั้ง 3 เกม หลังจากนั้นอีก 4 ปี เจ้าตัวได้โอกาสลุยฟุตซอลโลก 2008 ที่บราซิล อีกครั้ง พร้อมมีชื่อทำ 1 ประตูในเกมที่ ไทย เอาชนะ สหรัฐอเมริกา 5-3  

 

ปัจจุบัน "โจ้" เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว ดาวเตะจากจังหวัดอ่างทอง ในวัย 39 ปี หันมาจับงานโค้ชกับหลายทีมทั้ง ศรีปทุม และระดับอุดมศึกษากับ มรภ.พระนคร ก่อนเข้ามาคุมทีม แบงค็อก บีทีเอส ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบัน พร้อมรับราชการทหาร ควบคู่กันไปด้วย  

 

-----------------------------------------------------------------------

 

จเด็จ พูนเพิ่ม

 

ดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการฟุตซอลไทย ในตอนนั้นอย่าง "เบิร์ด" จเด็จ พูนเพิ่ม แข้งพรสวรรค์สูงจาก รร.ลานสักวิทยา จากจังหวัดอุทัยธานี ที่โชว์ฟอร์มเก่งเกินวัย ทั้งในเรื่องของฝีเท้าที่จี๊ดจ๊าดหาตัวจับยาก จนถูกใส่ชื่อลงเล่นฟุตซอลโลก 2004 ในวัยเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น ทำสถิติอายุน้อยที่สุดที่เล่นเวิลด์คัพให้กับทีมชาติไทย มีชื่อติด 1 ใน 10 ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของโลก ปี 2004 รวมทั้งการได้เป็นกัปตันทีมชาติไทยชุดชิงแชมป์อาเซียน (ใช้ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี) และพาทีมคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

 

หลังจากนั้นยังโลดแล่นในวงการฟุตซอลไทย กับหลายทีม พร้อมเป็น 1 ในแข้งชุดประวัติศาสตร์เอาชนะ สเปน 1-0 ในศึก ฟุตซอลชิงแชมป์มหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 13 ที่ประเทศโปรตุเกส หลังจากนั้นหันมาจับงานโค้ชอยู่นานกับ โรงเรียนสวนกุหลาบ (จิรประวัติ) ล่าสุดกลับมาเล่นฟุตบอลชายหาดอาชีพกับ บีคิว โอกาเนะ พร้อมช่วยทีมคว้าแชมป์ได้อีกสมัย และลงเล่นฟุตซอลเดินสายกับหลายทีมทั้งฟุตบอล และฟุตซอล  

 

-----------------------------------------------------------------------

 

ประเสริฐ อินนุ้ย

 

"หรั่ง" ประเสริฐ อินนุ้ย แข้งวัยสดที่มีทีเด็ดจากลูกยิงที่หนักหน่วงในวัย 26 ปี ที่ลงเล่นฟุตซอลโลก ครั้งแรก แต่สามารถยึดตัวหลักของทีมได้ทันที พร้อมซัลโวประตูให้ ไทย ขึ้นนำ สาธารณรัฐเช็ก 1-0 แต่สุดท้ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 หลังจากนั้นเจ้าตัวยังได้ไปลุยศึกเวิลด์คัพอีกครั้ง ปี 2008 ลงสนามครบทั้ง 4 เกม พร้อมซัลโวไป 1 ประตูใส่ อเมริกา  

 

หลังจากนั้น 2 ปี เจ้าตัวหันมาจับงานโค้ชกับ แบงค็อก ในปี 2010 ย้ายไปคุมทีมต่างแดนกับ ซานา คานห์ ฮัว ในลีกเวียดนาม กลับมาทำทีม สุราษฏร์ธานี ปี 2012 ก่อนย้ายไปเวียดนาม อีกครั้งกับ ซานวิเนสท์ ซานาทค คานห์ฮัว คุมทีมยาว 6 ปี ล่าสุดกลับมารับงานในเมืองไทย กับ "กุ้งสายฟ้า" เป็นหนที่สอง ซึ่งถือเป็นงานที่ท้าทาย "โค้ชหรั่ง" มากๆ

 

-----------------------------------------------------------------------

 

หน้าเป้า  

 

เลิศชาย อิสราสุวิภากร

 

"เลิศ" เลิศชาย อิศราสุวิภากร ดาวเตะศิษย์เก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ ในวัย 22 ปี ได้โอกาสลงเล่นฟุตซอลโลก หนแรกในชีวิต ซึ่งเจ้าตัวเป็นนักเตะที่เล่นเกมรับ และรุกได้ดี ลงเล่นเป็นตัวจริงทุกนัดให้กับทัพโต๊ะเล็กไทย พร้อมซัลโวใส่ บราซิล ในเกมที่แพ้ไป 1-9 หลังจากนั้นเจ้าตัวยังได้ไปฟุตซอลโลกอีกถึง 2 ครั้ง ในปี 2008 กับ ปี 2016  

 

โดย เลิศชาย ถือเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในชีวิตค้าแข้ง กวาดแชมป์ทุกรายการในระดับสโมสร กับ ทีม ชลบุรี บลูเวฟ และ การท่าเรือ ปัจจุบันแข้งชาวจังหวัดอุบลราชธานี ในวัย 38 ปี ยังคงมีไฟลงสนามหวดแข้งกับน้องๆ ในลีกอาชีพเหมือนเคย พร้อมจับงานโค้ชมาเรื่อยๆ ในบทบาทผู้ช่วยโค้ช การท่าเรือ เอเอสเอ็ม และบรรจุเป็นพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อย  

 

-----------------------------------------------------------------------

 

อนุชา มั่นเจริญ

 

ยอดแข้งโต๊ะเล็กตลอดกาลของวงการฟุตซอลไทย อย่าง  “เจ้าบัง” อนุชา มั่นเจริญ ยังคงได้ไปเวิลด์คัพ เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน โดยยึดตัวหลักของทัพช้างศึก ซัลโวไป 1 ประตูในเกมชนะ ออสเตรเลีย 3-2 หลังจากนั้นได้ไปฟุตซอลโลก หนที่สาม ในปี 2008 ที่บราซิล  

 

โดย พ่อมดฟุตซอลเมืองไทย ถูกยกให้เป็นเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ผ่านการติดทีมชาติไทย มากที่สุด 117 นัด ประสบความสำเร็จมากมายทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติไทย ปัจจุบันเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมชิงแชมป์เอเชีย ปี 2002  หันมาจับงานโค้ชแบบเต็มตัว ทั้งเป็นผู้ช่วยโค้ชสโมสรพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ดูแลในส่วนของเยาวชน และเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลชายหาดหญิงทีมชาติไทย เตรียมทีมลุ้นแชมป์เอเชียนบีชเกมส์ ในปีหน้า  

 

-----------------------------------------------------------------------

 

หัวหน้าผู้ฝึกสอน  

 

เกลาซิโอ เดอ คาสโตร โอลิเวรา (ผู้ฝึกสอนชาวบราซิล)

 

กุนซือมากฝีมือชาวบราซิล ในวัย 44 ปี ที่เข้ามาคุมทีมชาติไทย เพื่อลุยศึก  เวิลด์ คัพ ที่ไต้หวัน ปี 2004  ซึ่งเจ้าตัวถือเป็นกุนซือ ที่เข้ามาช่วยสร้างระบบการเล่นของทีมชาติไทย อย่างแท้จริง สร้างนักเตะหลายต่อหลายคนขึ้นมาประดับวงการฟุตซอลไทย ต่อมาทำทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ลุยชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 7 ที่ประเทศเวียดนาม ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย และคว้ารองแชมป์ ฟุตซอลเอเชียนอินดอร์เกมส์  

 

แต่สุดท้ายก็มาเกิดเรื่องเศร้า  เมื่อโค้ชทีมชาติไทย มาเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยอาการโรคหัวใจวาย เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. 2549 ที่เมืองฟอตาเรซ่า บ้านเกิดของเขาที่ประเทศบราซิล ทั้งๆ ที่กำลังจะจรดปากกาต่อสัญญาคุมทีมชาติไทยไปอีก 2 ปี สร้างความเสียใจให้กับคนในวงการฟุตซอลไทย เป็นอย่างมาก

 


stadium

author

Futsal Addict

Changsuek Content Creator

La Vie en Rose