stadium

พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน ? : ขุนพลโต๊ะเล็กทีมชาติไทย ชุดฟุตซอลโลก 2008 ที่บราซิล

14 ตุลาคม 2563

#ChangsuekFutsalCorner 

พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน ? : ขุนพลโต๊ะเล็กทีมชาติไทย ชุดฟุตซอลโลก 2008 ที่บราซิล

 

เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง 2 เดือนเต็ม ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ก็จะมีโปรแกรมสำคัญลงแข่งขัน "ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2020" ที่ประเทศคูเวต ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2563 ซึ่ง ทัพโต๊ะเล็กไทย อยู่ในกลุ่มดี ร่วมกับ "แชมป์เก่า" อิหร่าน, เกาหลีใต้ และ ซาอุดีอาระเบีย  

 

โดยทัวร์นาเมนต์ ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 จะคัดเลือก 5 ทีมไปแข่งขัน ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2021 ที่ประเทศลิธัวเนีย ที่ต้องเลื่อนโปรแกรมจากเดิมเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเวิลด์คัพมาแล้ว 5 สมัยติด ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา

 

วันนี้ทีมงานของเรา จะพาแฟนคลับโต๊ะเล็กไทย ทั้งรุ่นเก่า และใหม่ ไปทำความรู้จัก ขุนพล "ช้างศึกโต๊ะเล็ก" ทีมชาติไทย ชุดฟุตซอลโลก 2008 บนแผนดินแซมบ้า ประเทศบราซิล ที่แม้ว่าในครั้งนั้น แข้งจากแดนสยามจะจอดป้ายเพียงแค่รอบแรก แต่ก็ฝากผลงานน่าประทับใจไว้มากมาย ด้วยผลงาน แพ้ อิตาลี 0-1, ชนะ สหรัฐฯ5-3, แพ้ ปารากวัย 0-8, แพ้ โปรตุเกส 2-3 พวกเขาทำอะไร? อยู่ที่ไหนกันบ้าง? ไปดูกันเลย

 

 

ผู้รักษาประตู

 

เศรษฐกรชัย(สมคิด) ชื่นตา : สโมสรอัคโคเบ(คาซัคสถาน)

 

ผู้รักษาประตูระดับตำนานของวงการฟุตซอลไทย อย่าง เศรษฐกรชัย ชื่นตา ที่ตอนนั้นไปลุยศึกเวิลด์คัพ เป็นสมัยที่สอง ในชื่อเดิม สมคิด ชื่นตา ในวัย 30 ปี จาก สโมสรอัคโคเบ ทีมฟุตซอลลีกคาซัคสถาน ได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงและโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้สุดท้าย ไทย จะพ่าย โปรตุเกส 2-3

 

หลังจากนั้น ก็ยังคงโลดแล่นบนลีกอาชีพมาอย่างยาวนาน พร้อมรับงานโค้ชกับ ศรีปทุม ปัจจุบันทำงานร่วมกับฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตซอลลีก และรับงานโค้ช ทีมฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย พาทีมคว้าแชมป์อาเซียน 2019 มาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อีกด้วย

เศรษฐกรชัย(สมคิด) ชื่นตา (คนกลาง)

 

สุรพงศ์ ทมพา : สโมสรราชนาวี

 

นายด่านจอมหนึบจากสโมสรราชนาวี ที่ทำผลงานได้ดีต่อเนื่องจนขยับขึ้นมายึดมือหนึ่งของ ทีมชาติไทย ในศึกฟุตซอลโลก 2008 ฟอร์มโชว์ฟอร์มเซฟกระจายสร้างชื่อไปทั่วโลก จากจังหวะป้องกันประตูยากๆ ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงใน 3 เกมแรก แม้สุดท้าย ไทย จะจอดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่ม แต่ก็ถือเป็นผลงานที่แฟนฟุตซอลไทย ต้องยกนิ้วให้

 

หลังจากนั้น นายด่านจอมเก๋า วัย 34 ปี เป็นนักเตะหนึ่งเดียวในชุดปี 2008 ที่ได้ลุยฟุตซอลโลก 2012 ที่ประเทศไทย ปัจจุบันนายด่านจอมหนึบ ประกาศเลิกเล่นไปแล้ว หันมาจับงานโค้ชสอนฟุตซอล ฟุตบอล พร้อมช่วยต้นสังกัด สโมสรฟุตซอลราชนาวี และรับราชการสังกัดกองทัพเรือ ติดยศเรือเอก ควบคู่ไปด้วย

สุรพงศ์ ทมพา

 

ปริญญา ปั้นดี : สโมสรทีโอที

 

"เบียร์" ปริญญา ปั้นดี ถือเป็นผู้รักษาประตูที่อยู่คู่กับวงการฟุตซอลไทย มาอย่างยาวนาน ในตอนนั้นในวัยเพียง 24 ปี เจ้าตัวมีชื่อลุยฟุตซอลโลก เป็นหนที่สองในชีวิต แต่ต้องตกเป็นตัวเลือกลำดับที่สาม ต่อจากนายด่านรุ่นพี่ในทีมอย่าง สุรพงศ์ ทมพา และ เศรษฐกรชัย(สมคิด) ชื่นตา

 

หลังจบฟุตซอลโลก 2008 เจ้าตัวยังลงเล่นในลีกอาชีพมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2019 ก้าวไปติดทีมฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย อีกหนึ่งชุด ล่าสุด ปริญญา ปั้นดี หันไปจับงานโค้ชผู้รักษาประตูกับ สโมสร บีเคซี ปราจีนบุรี ไฮเวย์ ในซีซั่นนี้

ปริญญา ปั้นดี

 

ตัวรับ

 

เลิศชาย อิสราสุวิภากร : สโมสรชลบุรี บลูเวฟ

 

ดาวเตะศิษย์เก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ อย่าง "เลิศ" เลิศชาย อิศราสุวิภากร ในวัย 26 ปี ในศึกฟุตซอลโลก 2008 เจ้าตัวเป็นแกนหลักของทีม ทำหน้าที่ทั้งเกมรับ และรุก อย่างมีวินัย พร้อมมีชื่อทำประตูใส่ สหรัฐอเมริกา ก่อนขุนพลโต๊ะเล็กไทย เก็บชัยไปด้วยสกอร์ 5-3 หลังจากนั้น เลิศชาย อิสราสุวิภากร ยังได้ไปฟุตซอลโลก อีกสมัยเมื่อปี 2016

 

ซึ่งเจ้าตัวในวัย 38 ปี เป็นแบบอย่างชั้นยอดของคนวงการฟุตซอลไทย ทั้งในสนาม และนอกสนาม ประสบความสำเร็จอย่างมากในชีวิตค้าแข้ง กวาดแชมป์ทุกรายการในระดับสโมสร กับ ทีม ชลบุรี บลูเวฟ และ การท่าเรือ ฟุตซอลคลับ ปัจจุบันแข้งชาวจังหวัดอุบลราชธานี ยังคงมีไฟลงสนามหวดแข้งกับน้องๆ ในลีกอาชีพเหมือนเคย พร้อมจับงานโค้ชมาเรื่อยๆ ในบทบาทผู้ช่วยโค้ช การท่าเรือ เอเอสเอ็ม และบรรจุเป็นพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อย 

เลิศชาย อิสราสุวิภากร

 

ณรงค์ศักดิ์ คงแก้ว : สโมสรแคท เทเลคอม

 

แข้งจอมเก๋าในวัย 29 ปี ยังคงได้รับโอกาสลุยฟุตซอลโลก เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2000, 2004 และ 2008 ด้วยสไตล์การเล่นที่นิ่ง เนียนตา ใช้ประสบการณ์ช่วยทีมในเกมรับ ทำหน้าที่ของตัวเองได้ตามที่โค้ชสั่ง

 

ปัจจุบัน "โค้ชน้อย" ณรงค์ศักดิ์ คงแก้ว หันมาจับงานโค้ช เปิดอาคาเดมี่ สอนฟุตบอลเล็กๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นอย่าง nnk khongkaew football academy พร้อมขาย หมู,เนื้อ แดดเดียว "จ่าน้อยร้อยขา" ออกมาจำหน่าย ล่าสุดคุมทีม คงสมบูรณ์ สปอร์ตคลับ ในทีมฟุตซอลลีกหญิง ฤดูกาล 2020

ณรงค์ศักดิ์ คงแก้ว

 

เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว : สโมสรทีโอที

 

แข้งตัวหลักของทีมชาติไทย อย่าง "โจ้" เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว ในวัย 27 ปี แนวรับที่มีทีเด็ดจากลูกยิงที่เฉียบคม เล่นลูกนิ่งได้หลากหลาย เป็นบอลระบบตัวจริงที่โค้ชบอกแบบไหนก็เล่นได้หมด คอยคุมจังหวะของเกม ลงสนามช่วยทีมชาติไทย พร้อมมีชื่อทำ 1 ประตูในเกมที่ ไทย เอาชนะ สหรัฐอเมริกา 5-3 แต่มาโดนใบแดงในเกมพบกับ ปารากวัย

 

ปัจจุบัน "โจ้" เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว ดาวเตะจากจังหวัดอ่างทอง ในวัย 39 ปี หันมาจับงานโค้ชกับหลายทีมทั้ง ศรีปทุม และระดับอุดมศึกษากับ มรภ.พระนคร ก่อนเข้ามาคุมทีม แบงค็อก บีทีเอส ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบัน พร้อมรับราชการทหาร ควบคู่กันไปด้วย

เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว

 

ณัฐพล สุทธิโรจน์ : สโมสรชลบุรี บลูเวฟ

 

"เจ้าซี" ณัฐพล สุทธิโรจน์ หรือ ปรือที่เพื่อนๆ เรียกกัน ในวัย 25 ปี ถือเป็นนักเตะดาวรุ่งอีกรายที่ติดทีมชาติไทย ในชุดนี้ และได้โอกาสมาลุยเวิลด์คัพหนแรกในชีวิต แต่ได้รับโอกาสลงสนาม 3 นัด(โดนแบนนัดสุดท้าย) ด้วยลูกขยันทั้งเกมรับ เกมรุก ช่วยทีมต่อกรกับทีมระดับโลก ได้อย่างสูสี

 

หลังจากนั้น “อาจารย์ซี” แข้งจากแฟลตดินแดง ยังคงทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัด พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ก่อนประกาศเลิกเล่นไปหลังจบฤดูกาล 2019 และ สโมสรพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ยกเลิกเบอร์เสื้อหมายเลข 3 เป็นเกียรติให้กับ ณัฐพล สุทธิโรจน์ ที่อยู่ช่วยทีมมาอย่ทงยาวนาน 13 ปี ลงเล่นให้กับต้นสังกัด ไปมากกว่า 100 นัด แต่ยังคงลงเล่นในรายการเดินสาย และหันมาจับงานโค้ชบ้างแล้ว

ณัฐพล สุทธิโรจน์

 

ริมเส้น

 

เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง : สโมสรชลบุรี บลูเวฟ

 

แข้งดาวรุ่งจากจังหวัดยะลา เจ้าของฉายาแฝดนรก อย่าง "เจ้าบอย" เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับต้นสังกัดจนติดทีมมาลุยฟุตซอลโลก 2008 พร้อมระเบิดฟอร์มเก่งลงสนามเป็นแกนหลักให้กับทีมครบทั้ง 4 นัด ทำได้ 2 ประตู ในเกมทีมขุนพลโต๊ะเล็กไทย ชนะ สหรัฐฯ 5-3 และเกมพ่าย โปรตุเกส ไปแบบสุดมันส์ 2-3

 

หลังจากนั้น เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง พร้อมแฝดพี่ เอกพันธ์ สุรัตน์สว่าง ยังออกไปค้าแข้งต่างแดนทั้งกับ สโมสรอัคโทเบ (คาซัคสถาน) ปี 2008, สโมสรอีเล็กทริกซ์(อินโดนีเซีย) ปี 2015 และสโมสรในเมืองไทย อีกหลายทีม ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เจ้าตัวย้ายไปเล่นกับ เอ็มไอยู เอฟซี ช่วยทีมเถลิงแชมป์ลีกเมียนมา อย่างยิ่งใหญ่ และยังคงไล่หวดลูกฟุตบอลกับ "กุ้งสายฟ้า" สุราษฏร์ธานี ในปัจจุบัน แม้อายุจะเข้าสู่วัย 34 ปี แล้วก็ตาม

 

เอกพันธ์ สุรัตน์สว่าง : สโมสรชลบุรี บลูเวฟ

 

แฝดผู้พี่อย่าง "บอล" เอกพันธ์ สุรัตน์สว่าง ในวัย 22 ปี ที่มีดีต่างจากน้องชายที่เกมรับมีวินัย และมีจังหวะทะลุทะลวงไปกับบอลได้ดี ติดทีมไปลุยฟุตซอลโลก หนแรกและหนเดียวในชีวิต พร้อมลงสนามช่วยทีมชาติไทย

 

ปัจจุบัน "บอล" เอกพันธ์ สุรัตน์สว่าง ประกาศเลิกเล่นไปตั้งแต่ปี 2017 เดินหน้าทำธุรกิจแพอาหารทะเล ที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช แบบเต็มตัว พร้อมส่งออเดอร์อาหารทะเลไปทั่วประเทศ รายได้ก้อนโตแต่ละเดือนหลักหลายแสนบาท กลายเป็นเสี่ยบอล ไปแล้ว

เอกพงษ์-เอกพันธ์ สุรัตน์สว่าง

 

ภานุวัฒน์ จันทา : สโมสรชลบุรี บลูเวฟ

 

"กัปตันบัว" ภานุวัฒน์ จันทา แข้งซ้ายธรรมชาติที่ดีที่สุดคนนึงของทีมชาติไทย ในวัย 29 ปี ได้ลุยศึกฟุตซอลโลก เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันตั้งแต่ปี 2000, 2004 และ 2008 ด้วยความเป็นผู้นำสูง เข้าบอลถึงลูกถึงคน และมีทีเด็ดจากลูกยิงไกลด้วยเท้าซ้ายอันทรงพลัง พร้อมสวมปลอกแขนกัปตันทีมนำน้องลงสนามไปบู๊กับคู่แข่งระดับโลก ทำได้ 2 ประตู ในเกมทีมขุนพลโต๊ะเล็กไทย ชนะ สหรัฐฯ 5-3 และเกมแพ้ โปรตุเกส 2-3

 

ซึ่งปัจจุบันดาวเตะจอมแกร่งชาวจังหวัดจันทบุรี ในวัย 42 ปี ยังคงรักษาสภาพร่างกายโลดแล่นบนลีกอาชีพกับนักเตะรุ่นน้องสบายๆ กับสโมสรแบล็คเพิร์ล ยูไนเต็ด ในลีกดิวิชั่น1 พร้อมเริ่มเรียนรู้งานโค้ชบ้างแล้วในตอนนี้

ภานุวัฒน์ จันทา

 

ธนาธร สันทนาประสิทธิ์ : การท่าเรือแห่งประเทศไทย

 

เจ้าโอ ธนาธร สันทนาประสิทธิ์ เจ้าของฉายา “เจ็ท ลี เมืองไทย” ในวัย 29 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดในปี 2007 พา การท่าเรือ คว้าแชมป์ลีก พร้อมตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยม พร้อมเป็นแกนหลักของทีมชาติไทย ในศึกเวิลด์คัพ 2008

 

หลังจากนั้นย้ายมาประสบความสำเร็จกับ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี เถลิงแชมป์เอเชีย 2 สมัย ในปี 2013, 2017 ก่อนประกาศเลิกเล่นไปเมื่อปี 2017 พร้อมขยับรับบทโค้ชอะคาเดมีบลูเวฟ ต่อดวล ศรีปทุม และพา พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ทีมหญิงคว้าแชมป์ลีกมาครองอย่างยิ่งใหญ่ ปัจจุบันคุมทีม บีเคซี ปราจีนบุรี ไฮเวย์ ในลีกสูงสุด พร้อมรับงานผู้ช่วยโค้ชทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติไทยด้วย

ธนาธร สันทนาประสิทธิ์

 

พนมกรณ์ สายสอน : สโมสรทีโอที

 

"จ่าป็อก" พนมกรณ์ สายสอน ดาวเตะจอมขยันวัย 27 ปี ที่เล่นได้ดีทั้งฟุตบอล และฟุตซอล ติดทีมชาติไทย มาลุยฟุตซอลโลก 2008 ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท มักจะได้รับโอกาสลงสนามอยู่เสมอ พร้อมทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีตามคำสั่งโค้ช แต่โชคร้ายที่โดนใบแดงตั้งแต่เกมนัดแรก

 

ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปเอาที่เล่นบอลสนามใหญ่กับหลายทีมทั้ง เพื่อนตำรวจ, ทีโอที และ จามจุรี ยูไนเต็ด ปัจจุบัน พนมกรณ์ สายสอน ในวัย 39 ปี ยังคงรับราชการตำรวจ ติดยศ ร.ต.อ. ตำแหน่งรอง สว.ฝ่ายประเมินบุคคล ทพ พร้อมจับงานโค้ชให้กับต้นสังกัด โปลิศ H3 ไทย-เทค ในลีกพระรองปีนี้

พนมกรณ์ สายสอน

 

หน้าเป้า

 

อนุชา มั่นเจริญ : สโมสรแคท เทเลคอม

 

ดาวยิงความหวังสูงสุดของทีมโต๊ะเล็กไทย ในชุดนั้นอย่าง “เจ้าบัง” อนุชา มั่นเจริญ ในวัย 29 ปี ผ่านเวทีฟุตซอลโลก ถึง 3 สมัย ปี 2000,2004,2008 แต่พ่อมดฟุตซอลคนเเรกของเมืองไทย ลงช่วยทีมได้ไม่มากนักหลังมีอาการบาดเจ็บติดตัวมารบกวน

 

หลังจากนั้นอดีตแข้งเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ยังโลดแล่นบนลีกอาชีพอีกหลายปี พร้อมเป็นเจ้าของสถิติติดทีมชาติไทย สูงสุด 117 นัด ปัจจุบันเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมชิงแชมป์เอเชีย ปี 2002 หันมาจับงานโค้ชแบบเต็มตัว ทั้งเป็นผู้ช่วยโค้ชสโมสรพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ดูแลในส่วนของเยาวชน และเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลชายหาดหญิงทีมชาติไทยด้วย

อนุชา มั่นเจริญ

 

ประเสริฐ อินนุ้ย : สโมสรชลบุรี บลูเวฟ

 

ดาวยิงตัวเก๋าของทีมชุดนั้นอย่าง "หรั่ง" ประเสริฐ อินนุ้ย แข้งอายุเยอะสุดในทีมชุดดังกล่าววัย 30 ปี ที่ลงเล่นฟุตซอลโลก เป็นสมัยที่สอง ต่อจากปี 2004 ถือเป็นแกนหลักให้กับทีมชาติไทย ครบทั้ง 4 เกม พร้อมซัลโวไป 1 ประตูใส่ อเมริกา และเกือบยิงตีเสมอให้ไทย ได้ในเกมพ่าย อิตาลี 0-1 แต่เจ้าตัวยิงจุดโทษจุดที่สอง ไปติดโดนโคนเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย

 

หลังจากนั้น 2 ปี เจ้าตัวหันมาจับงานโค้ชกับ แบงค็อก ในปี 2010 ย้ายไปคุมทีมต่างแดนกับ ซานา คานห์ ฮัว ในลีกเวียดนาม กลับมาทำทีม สุราษฏร์ธานี ปี 2012 ก่อนย้ายไปเวียดนาม อีกครั้งกับ ซานวิเนสท์ ซานาทค คานห์ฮัว คุมทีมยาว 6 ปี ล่าสุดกลับมารับงานในเมืองไทย กับ "กุ้งสายฟ้า" เป็นหนที่สอง

ประเสริฐ อินนุ้ย

 

หัวหน้าผู้ฝึกสอน

 

โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส "ปูลปิส"

 

กุนซือหนุ่มไฟแรงจากแดนกระทิงดุ เข้ามารับงานคุมทีมชาติไทย ด้วยวัยเพียง 34 ปีเท่านั้น พาทีมชาติไทย เข้าชิงชนะเลิศกับ อิหร่าน ในศึกชิงแชมป์เอเชีย 2008 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ก่อนจะพ่าย 0-4 แต่ก็ได้สิทธิ์เข้าไปเล่นเวิลด์ คัพ ปี 2008 ที่บราซิล แม้ในรอบสุดท้ายจะอยู่ในสายแข็ง กลุ่มบี ร่วมกับ "รองแชมป์เก่า" อิตาลี, ปารากวัย, โปรตุเกส, และสหรัฐอเมริกา

 

แต่กลับพา ขุนพลช้างศึก ต่อกรกับทีมระดับโลก แบบไม่เป็นรอง ได้ลุ้นเข้ารอบสอง สร้างความประทับใจให้ชาวไทยทั้งประเทศ หลังจากนั้นพา ไทย คว้ารองแชมป์เอเชียน อินดอร์เกมส์ 2009 ที่เวียดนาม, ตกรอบ 8 ทีมชิงแชมป์เอเชีย 2010 ที่อุซเบกิสถาน ก่อนย้ายไปรับงานคุมทีมชาติอุซเบกิสถาน ถึงสองรอบ ปี 2011-2012 และปี 2014-2017 ร่วมถึงได้คุมทีมระดับสโมสร พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ปี 2012-2014

 

ปัจจุบัน เฮดโค้ชจมเฮี้ยบ กลับมาคุมทีมชาติไทย อีกครั้งตั้งแต่ปี 2017 พาทีมชาติไทย เถลิงแชมป์อาเซียน 3 สมัย ปี 2017,2018,2019 แชมป์ซีเกมส์ ปี 2017 ปัจจุบันกำลังเตรียม ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย ลงแข่งขัน "ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2020" ที่ประเทศคูเวต ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2563

โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส "ปูลปิส"

stadium

author

Futsal Addict

Changsuek Content Creator

โฆษณา