11 ตุลาคม 2563
#ChangsuekOutField
“นักเตะหน้าใหม่ติดทีมชาติ 12 คน” แน่นอนว่าทำให้แฟนบอลเซอร์ไพร์สและมีคำถามเกิดขึ้นว่า 12 คนที่ติดเข้ามามีอะไรดีบ้าง และจะช่วยยกระดับทีมชาติไทยได้ดีแค่ไหน ซึ่งผลการแข่งขันจากนัดกระชับมิตรระหว่างนครปฐม ยูไนเต็ด กับ ทีมชาติไทย ก็พอจะได้เห็นแล้วว่าแต่ละคนจะสามารถเข้ามาสอดแทรกในบทบาทไหนให้กับทัพช้างศึกได้บ้าง โดยเราได้โอกาสพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของผู้เล่นหน้าใหม่ทั้ง 12 คนผ่านมุมมองผู้ช่วยของกุนซืออากิระ นิชิโนะ อย่าง “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน
อย่างที่ทราบกันว่าผู้เล่นจาก 4 สโมสร (ทรู แบงค็อกฯ, บีจี ปทุม, ราชบุรี มิตรผลฯ , บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ไม่ได้ถูกเรียกเข้ามาเก็บตัวในครั้งนี้เนื่องจากติดการแข่งขันนัดตกค้างของศึกไทยลีก1 ทำให้การคัดเลือกผู้เล่นเข้าสู่แคมป์ทีมชาติครั้งนี้ต้องเปลี่ยนไปจากเดิม
“เราต้องมองที่ปัจจัยหลายๆอย่าง ทีมหัวแถวติดโปรแกรมนัดตกค้าง รวมถึงผู้เล่นในต่างประเทศด้วย ที่ไม่สามารถมาเก็บตัวได้ ซึ่งนโยบายของอากิระ นิชิโนะ วางไว้ว่าต้องการหาผู้เล่นหน้าใหม่ๆ และมันก็ประจวบเหมาะพอดี พวกเราจึงหาผู้เล่นหน้าใหม่ๆเพื่อเข้ามาซึมซับบรรยากาศในทีมชาติไทย ทั้งการเล่น การฝึกซ้อม และเพื่อเป็นการช่วยให้เราสามารถเลือกผู้เล่นในลีกได้มากขึ้น เพราะถือว่าพวกเขาถูกคัดมาแล้วว่าใครมีสไตล์ไหนที่เหมาะสมกับทีมบ้างและมีทัศนคติที่ดีกับการเล่น” โค้ชแบนเริ่มกล่าวถึงการเลือกผู้เล่นหน้าใหม่ๆของทัพช้างศึก พร้อมกล่าวต่อว่า
“นั่นทำให้เราพุ่งเป้าไปตรงที่การมองหานักเตะใหม่ที่โชว์ฟอร์มได้ดี ไม่ว่าจะเป็นใครถ้าหากฟอร์มดีก็มีโอกาสติดทีมชาติได้ ถ้าสามารถรักษาฟอร์มได้ดี โชว์ฟอร์มเตะตา และได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง”
ทีมชาติไทยชุดนี้มีผู้เล่นหน้าใหม่ติดเข้ามา 12 คน (จากเดิม 13 คน สิทธิโชค ภาโส บาดเจ็บจนต้องถอนตัว) ซึ่งหลายคนแฟนบอลไทยยังไม่คุ้นชื่อนัก รวมถึงยังไม่รู้ถึงจุดเด่นที่จะเข้ามาช่วยทีมชาติไทยว่าสามารถเข้ามาเติมเต็มในส่วนไหนบ้าง ซึ่งโค้ชแบน ที่เป็นหนึ่งในผู้ช่วยกุนซือใหญ่ชาวญี่ปุ่นและมีส่วนในการมองหานักเตะเข้าสู่ทีมชาติได้วิเคราะห์ให้เราฟังว่า 12 แข้งช้างศึกที่มาใหม่นั้น มีจุดเด่นและจะมีบทบาทอย่างไรในทีมชาติไทย
1.พีระพงษ์ เรือนนินทร์ (ผู้รักษาประตู สโมสรสุโขทัย เอฟซี)
“เขาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่เราต้องการอยู่แล้ว เราต้องการผู้รักษาประตูที่รูปร่างดี และพีระพงษ์ก็มีในสิ่งที่เราต้องการ โดยฟอร์มของเขากับสุโขทัยเรื่องการเซฟ ปฏิกิริยา เขาทำได้ดี มีความสม่ำเสมอโดยเฉพาะตั้งแต่รีสตาร์ทไทยลีกมา ซึ่งเตะตานิชิโนะที่กำลังมองหาผู้รักษาประตูดาวรุ่งหน้าใหม่ด้วย”
2.กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ (กองกลาง สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี)
“กษิดิ์เดช โชว์ฟอร์มดีมาตั้งแต่เปิดฤดูกาลช่วงต้นปี ทำประตูได้ มีความสามารถเฉพาะตัวที่ดีในการเลี้ยงกินตัว ก็ทำให้เขาอยู่ในบทบาทที่ทีมชาติไทยต้องการ”
3.ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (กองหลัง สโมสรสมุทรปราการ ซิตี้)
“เรามองศุภนันท์ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลแล้ว รวมถึงในหลายๆครั้งที่ผ่านมา แต่อย่างปีที่แล้วมีอาการบาดเจ็บบ้างเลยทำให้ส่งผลมาถึงต้นฤดูกาลนี้ ที่เรายังตามดูฟอร์มเขาอยู่ ซึ่งโค้ชนิชิโนะก็อยากลองดูกับตัวของศุภนันท์ โดยจุดเด่นของเขาคือเป็นแบ็คที่วิ่งขึ้นลงเติมเกมรุกและลงมาเล่นเกมรับได้ตลอด 90 นาที”
4.สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ (กองหลัง สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
“เขาทำผลงานได้ดีทั้งเกมรุกและรับ อาจจะไม่ใช่สไตล์เดียวกันกับศุภนันท์ที่เติมเกมรุกได้เร็ว แต่เขามีความฉลาดในการเล่น การออกบอล และยังเล่นเกมรับได้ดีด้วย กับสโมสรก็ได้ลงต่อเนื่องและเราเองก็จับตาดูเขาอยู่ตลอด”
5.ทิตาวีร์ อักษรศรี (กองหลัง สโมสรการท่าเรือ เอฟซี)
“ทิตาวีร์ ได้ลงในช่วง 2-3 นัดหลัง หลังจากที่การท่าเรือไม่ได้ใส่ชื่อดาบิด โรเชล่าในไทยลีก เขาเป็นเด็กในชุด U23 ที่คุ้นเคยกับระบบของนิชิโนะอยู่แล้ว ฉะนั้นเราก็ต้องการสร้างความต่อเนื่อง จึงทำให้ทิตาวีร์มีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ เพราะเราไม่อยากไปหาคนใหม่ๆที่ไม่ตรงกับคาแรคเตอร์ที่เราต้องการ”
6.นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ (กองหลัง สโมสรสุโขทัย เอฟซี)
“เราได้ประชุมกันเพื่อมองหากองหลังที่น่าสนใจที่จะเป็นตัวเลือกที่ดีในอนาคต และสุโขทัยของโค้ชอั๋น สุรพงษ์ คงเทพ ทำผลงานได้ดี เราจึงไปดูว่ากองหลังไทยของสุโขทัยมีใครที่ทำผลงานได้ดีและมีความสม่ำเสมอ แล้วก็พบว่าเป็นนุกูลกิจ คือคนที่โชว์ฟอร์มได้ดีตลอดในช่วงที่ผ่านมา ที่สำคัญนุกูลกิจเป็นกองหลังที่พิเศษกว่าคนอื่นในเรื่องของการออกบอล การพาบอลขึ้นมาเล่นเกมรุก ซึ่งประสิทธิภาพค่อนข้างโดดเด่น”
7.สรวิทย์ พานทอง (กองกลาง สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
“เขาก็เป็นหนึ่งในชุด U23 ที่สามารถต่อยอดไปในอนาคตได้ แม้ว่าช่วงแรกในไทยลีกเขาจะไม่ได้ลงบ้าง แต่โค้ชนิชิโนะก็ต้องการสร้างความต่อเนื่องเพื่ออนาคตในการต่อยอด เป็นการให้โอกาสผู้เล่นเก่าๆก่อนในบรรดาดาวรุ่งที่ขึ้นมา ซึ่งสรวิทย์ก็โชว์ฟอร์มได้ดีตอนศึก U23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ผ่านมาอยู่แล้ว นอกจากนี้สรวิทย์สามารถเล่นในบทบาทของตัวรุกด้านขวา หรือกองกลางตำแหน่งหมายเลข 6 ที่คอยเซตบอลแบบเดียวกันกับสารัช อยู่เย็น ในระบบของนิชิโนะด้วย”
8.วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (กองกลาง สโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
“วีระเทพ เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง ซึ่งนิชิโนะเป็นคนที่บอกเองว่าน่าสนใจ เพราะเขาไปชมเกมนัดที่เมืองทองฯแข่ง ก็เลยให้พวกเราช่วยติดตามดูฟอร์มเด็กคนนี้ โดยวีระเทพก็ได้ลงสนามต่อเนื่อง และมีจุดเด่นในเรื่องของการจ่ายบอล คือจ่ายบอลได้ฉลาดและแม่นยำ ครองบอลก็เหนียวแน่น เรียกได้ว่าเป็นตำแหน่งที่เรากำลังมองหาด้วยครับ”
9.ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (กองกลาง สโมสรโปลิศ เทโร เอฟซี)
“จริงๆปฐมพลโดดเด่นตั้งแต่ปีที่แล้วที่เล่นให้กับโปลิศ เทโร ในไทยลีก2 พอขึ้นมาในไทยลีก1 ผลงานของทีมก็ดีผลงานของตัวเขาเองก็ดีด้วย และเป็นผู้เล่นที่มีคาแรคเตอร์ตามที่เราหา คือมันหายากในไทยที่จะมีผู้เล่นเลี้ยงกินตัวเก่งๆ เอาชนะแบบ 1 ต่อ 1 สามารถตีโซนคู่ต่อสู้ได้ นอกจากนี้เขาขยันด้วยและยังยิงประตูได้ดี”
10.กนกพล ปุษปาคม (กองกลาง สโมสรโปลิศ เทโร เอฟซี)
“ฟอร์มของเขาดีพอๆกับปฐมพลเลย ในการเล่นกับ โปลิศ เทโร ตั้งแต่ปีที่แล้วในไทยลีก2 พอขึ้นมาไทยลีก1 ก็ยังทำผลงานได้โดดเด่น เขามีบทบาทในเรื่องของการลงมาเชื่อมเกม พาบอลขึ้นมาเล่น หรือมีส่วนร่วมกับเกมรุกก็ทำได้ต่อเนื่องและสมูทดี นอกจากนี้กนกพลก็ยังมีฟอร์มที่สม่ำเสมอดีด้วยครับ”
11.กฤษดา กาแมน (กองกลาง สโมสรชลบุรี เอฟซี)
“กฤษดา มาจากชุด U23 ซึ่งเราต้องการที่จะต่อยอดให้บรรดาดาวรุ่งจากชุดนั้นได้ซึมซับสิ่งต่างๆของทีมชาติ รวมถึงดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นว่าเขาสามารถพัฒนาไปได้แค่ไหน เป็นการให้โอกาสเขาก่อนในการเป็นตัวเลือกของทีมชาติไทยที่จะต่อยอดต่อไป”
12.ภานุพงศ์ พลซา (กองกลาง สโมสรชลบุรี เอฟซี)
“จริงๆเขาเป็นผู้เล่นที่เรามองว่าโดดเด่นตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้ทำหน้ที่ในหลายๆตำแหน่งให้กับชลบุรี เอฟซี ซึ่งโดดเด่นที่สุดคือตัวริมเส้นด้านขวา และปีนี้ก็ยังทำผลงานได้ดีด้วย มันก็มีโอกาสที่เขาจะต่อยอดต่อไป รวมถึงเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ตามที่เรากำลังเฟ้นหาด้วย นับว่าตอบโจทย์ของเราพอดี”
ทั้ง 12 คนที่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ แน่นอนว่าโอกาสครั้งต่อไปไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะมีผู้เล่นตัวหลักเก่าๆของ 4 สโมสรกลับมาอีกครั้ง สิ่งสำคัญคือการพัฒนาตัวเองและรักษาความสม่ำเสมอไว้เพื่อโอกาสในการติดทีมชาติไทยครั้งต่อไป ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“โอกาสครั้งต่อไปของ 12 ผู้เล่นหน้าใหม่ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง ว่าเขาจะสามารถแสดงศักยภาพออกมาให้โค้ชนิชิโนะได้ประทับใจมากแค่ไหน ซึ่งมันมีผลกับครั้งต่อไปในการเรียกกลับมาอย่างแน่นอน รวมถึงพวกเขาต้องกลับไปทำผลงานกับสโมสรให้ดีอย่างต่อเนื่องอีกด้วย เพราะการแข่งขันของทีมชาติชุดใหญ่ค่อนข้างสูง” โค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย กล่าวปิดท้ายเป็นการฝากถึงบรรดาผู้เล่นหน้าใหม่ทั้ง 12 คน
TAG ที่เกี่ยวข้อง