เสาหลัก 3 ต้น อนาคตวงการวอลเลย์บอลหญิงไทย

ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย เริ่มเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่สมัย “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ได้สร้างชื่อตำนาน 7 เซียนขึ้น ก่อนที่จะอำลาวงการกันแล้ว

จนกระทั่งปัจจุบันเหลือที่เล่นอยู่ 5 เหลือที่เรียกกันว่า 5 เซียน ปลื้มจิตร์ ถินขาว , อรอุมา สิทธิรัก , วิลาวัลย์ อภิญญาพงศ์ , นุศรา ต้อมคำ และ มลิกา กันทอง ทั้งหมดนี้เป็นเสาหลักของทีมมาโดยตลอด ยังยืนระยะอยู่เพื่อรอเวลาให้น้องๆรุ่นถัดมาก้าวเข้ามาแทนที่

โดยเฉพาะในยุคของ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ในระยะเวลา 2-3 ปีหลัง เราจะเริ่มเห็นได้ว่านักกีฬารุ่นใหม่สามารถทดเเทนรุ่นพี่ได้อย่างยอดเยี่ยม หลายๆครั้งที่ถูกส่งลงสนามก็มักทำได้ดีไม่เเพ้กับตัวหลัก รวมทั้งบางคนยังก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงได้เเล้ว

ความจริงไม่ใช่ว่าจะเพิ่งเกิดขึ้น เพราะถ้าย้อนกลับไปดูในรายการใหญ่ๆที่ผ่านมา ดาวตบรุ่นพี่บางคน ก็เริ่มจะถูกลดบทบาทลงมา กลายเป็นกำลังเสริมที่ลงมาช่วยอุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้นในระหว่างเกม เเละปล่อยให้ผู้เล่นรุ่นใหม่ได้ลุยได้ใส่กันอย่างสุดความสามารถ 

อัจฉราพร คงยศ , พิมพิชยา ก๊กรัมย์ และ ชัชชุอร โมกศรี คือ "ผู้เล่นรุ่นใหม่" ที่ก้าวขึ้นมาเป็นเสาหลัก 3 ต้นที่เเข็งเเกร่งของ "ตบสาวไทย" ในยุคสมัยใหม่ ทำแต้มสูงสุดให้กับทีมได้บ่อยครั้งในเเต่ละนัด 

ความแล้วจริงยังมี "นักกีฬารุ่นใหม่" อีกหลายที่พร้อมจะสอดแทรกขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น ทัดดาว นึกเเจ้ง, หัตถยา บำรุงสุข เเต่เพราะอาการบาดเจ็บเเละสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์เต็มร้อย ทำให้หลายๆคนมาๆไปๆเเละยังไม่สามารถลงสนามรับใช้ "ตบสาวไทย" ได้อย่างถาวร   

อัจฉราพร คงยศ

ถูกขนานนามว่าเป็น "ดาวรุ่งมหัศจรรย์" ที่ก้าวขึ้นมาติด ทีมชาติชุดใหญ่ ด้วยวัยเพียงเเค่ 18 ปีเท่านั้น เจ้าตัว เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ "ตบสาวไทย" ตั้งเเต่เมื่อปี 2012 เเละผ่านการลงเล่น รอบคัดเลือก "โอลิมปิกเกมส์" มาเเล้วทั้งหมด 2 ครั้ง ในปี 2012 เเละ 2016 รวมทั้งเป็น 1 ในผู้เล่นชุด "เเชมป์เอเชีย 2013" ที่จังหวัดนครราชสีมา

แน่นอนในช่วงเเรกของ อัจฉราพร กับการติดธงรับใช้ชาติ เจ้าตัว ออกสตาร์ทเป็นเพียงเเค่ตัวสำรองเท่านั้น เพราะด้วยวัยเพียงเเค่ 18-19 ปี ประสบการณ์ในระดับนานาชาติเเทบจะเรียกได้ว่าน้อยนิด บวกกับรุ่นพี่เเต่ละคนต่างก็ยังอยู่ในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม จึงไม่น่าแปลกใจที่จะต้องก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้รับโอกาส

อัจฉราพร ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกเเรกๆของ "ทีมสาวไทย" เพราะนอกจากต้องเบียดเเย่งตำแหน่งกับรุ่นพี่เเล้ว เจ้าตัว ยังต้องพยายามสร้างผลงานเเข่งกับ นักกีฬารุ่นใหม่ อีกหลายต่อหลายคน ที่ฟอร์มโดดเด่นขึ้นมาในช่วงนั้น เเต่ว่าท้ายที่สุด อัจฉราพร ก็สามารถทำได้สำเร็จ จากที่มีโอกาสลงเล่นมากขึ้น ก็เริ่มขยับขึ้นมาเป็นตัวจริงบ้างในบางเกม เเละค่อยๆสอดแทรกขึ้นมาจนเป็นตัวหลักของทีมในปัจจุบัน(ถ้าไม่เจ็บ) 

ชัชชุอร โมกศรี

เติบโตขึ้นมาจาก โรงเรียนเทศบาลวัดไชนาวาส เดินสายเเข่งขันรายการต่างๆมากมาย เเพ้บ้าง ชนะบ้าง สลับสับเปลี่ยนกันไป จนกระทั่งมาโด่งดังเป็นพลุเเตก ในการเเข่งขันวอลเลย์บอล "ไทยเเลนด์ลีก" กับสโมสร อยุธยา ATCC ภายใต้การดูเเลของ 2 โค้ชดนดัง จรัล เนียมทับทิม เเละ ชำนาญ ดอกไม้ ผลงานของ "บุ๋มบิ๋ม" กับสโมสร อยุธยาฯ ค่อยๆดีวันดีคืน เเละกลายเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้นในชื่อ “บุ๋มบิ๋ม” ดาวรุ่งอนาคตไกล วัยเพียง 14 ปี 

ชัชชุอร อาจไม่ประสบความสำเร็จมากนักในระดับสโมสร เพราะว่ายุคนั้น อยุธยาฯ เป็นทีมที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง เเต่ก็สามารถจบเป็นอันดับสูงๆในลีกได้เกือบตลอด จนกระทั่งฝากผลงานชิ้นโบว์แดงเอาไว้ในการเเข่งขัน ซูเปอร์ลีก 2014 ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ เจ้าตัว สามารถนำทัพ อยุธยาฯ ผงาดคว้าเเชมป์มาครองได้สำเร็จ โดยสามารถพลิกเอาชนะ นครราชสีมา ได้เเบบเหนือความคาดหมาย ทั้งที่ในเวลานั้น "สาวโคราช" มีทั้ง อรอุมา สิทธิรักษ์ เเละ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ เป็นกำลังหลักของทีม วันเวลาผ่านไป ชัชชุอร เติบโตขึ้นเรื่อยๆพร้อมสั่งสมประสบการณ์จนเเข็งเเกร่ง กลายเป็นตัวหลักสำคัญของ นครราชสีมา เเละยังเคยย้ายไปเล่นกับ พีเอฟยู บลูแคทส์ ในประเทศญี่ปุ่น มาแล้ว

ณ เวลานี้ เราคงตอบไม่ได้ว่า ชัชชุอร โมกศรี เเละ อัจฉราพร คงยศ จะประสบความสำเร็จมากน้อยเเค่ไหนในอนาคต เเละไม่มีใครรู้เช่นกันว่าพวกเขาจะช่วย "ตบสาวไทย" ลอยขึ้นไปติดลมบนได้อีกครั้งหรือเปล่า เเต่คำถามทั้งหมดจะถูกลบทิ้งไปจากความรู้สึกทันที หากว่าทั้ง 2 คนพา "ตบสาวไทย" คว้าตั๋วลุย "โอลิมปิกเกมส์ 2020" มาครองได้สำเร็จ ในวันที่ 12 มกราคมนี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

 

พิมพิชยา ก๊กรัมย์

เป็นอีก 1 ดาวเด่นที่โชว์ฟอร์มเยี่ยม ในการเเข่งขัน "โอลิมปิกเกมส์ 2020" รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เเละฝากผลงานยอดเยี่ยมให้กับ "แฟนลูกยาง" ได้เห็นกับตากันมาเเล้วหลายต่อหลายครั้ง เเต่ว่าก่อนหน้านี้ เจ้าตัว อาจจะหายหน้าหายตาไปพักใหญ่ๆ เพราะว่าสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์

พิมพิชยา เป็นผลผลิตจาก โรงเรียนกีฬานครนนท์วิทยา 6 ภายใต้การดูเเลขัดเกลาของ "โค้ชเอ็ม" ธนกฤต อินเลี้ยง ฟอร์มสะดุดตาจนถูกเรียกติดธงรับใช้ ทีมชาติไทย ในการเเข่งขันวอลเลย์บอลเยาวชนหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่ไต้หวัน ก่อนจะลงสนามต่อเนื่องในศึกวอลเลย์บอลยุวชนหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2014 ที่จ.นครราชสีมา เจ้าตัว เป็นกำลังสำคัญช่วย "ทีมสาวไทย" เอาชนะ ทีมชาติเกาหลีใต้ ได้สำเร็จในรอบตัดเชือก ก่อนจะเข้าไปพ่ายต่อ ทีมชาติญี่ปุ่น ในรอบชิงฯ นอกจากนี้ พิมพิชยา ยังได้รับรางวัล "ตัวตบตรงข้ามตัวเซ็ตยอดเยี่ยม" หรือว่า "บีหลังยอดเยี่ยม"

ด้วยวัยเพียงเเค่ 17 ปีเท่านั้น พิมพิชยา ถูกเรียกเข้าเเคมป์เก็บตัวร่วมกับ ทีมชาติชุดใหญ่ เป็นครั้งเเรก เเละกลายเป็น 1 ในดาวรุ่งที่น่าจับตามองของ "ทีมตบสาวไทย" ก่อนจะค่อยๆได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น เเละกลายเป็นอีก 1 ตัวเลือกที่น่าสนใจของ ทีมชาติไทย ในยุคปัจจุบัน ตัวหลักของทีมมาจนถึงปัจจุบัน