stadium

กว่าจะเป็น 7 เซียน อรอุมา สิทธิรักษ์ ชีวิตนี้ดีได้เพราะวอลเลย์บอล

19 ตุลาคม 2565

นักกีฬาวอลเลย์บอลไทยในยุคหลัง ต่างพาเหรดกันไปโกยเงินเยน ในการแข่งขันวอลเลย์บอลอาชีพ “วี-ลีก” ประเทศญี่ปุ่นกันมากมาย ซึ่งเมื่อลองย้อนกลับไปดูในอดีต “นักกีฬาไทย” เคยเดินทางไปโชว์ผลงานใน “ลีกปลาดิบ” มาแล้วหลายคน  “ตบสาวไทย” ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด และผงาดคว้าแชมป์ “ลีกปลาดิบ” มาครองได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ คือ แก้วกัลยา กมุลทะลา ส่วนคนที่สามารถแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมคงหนีไม่พ้น อรอุมา สิทธิรักษ์ “ดาวตบสาวแดนใต้” 

 

อรอุมา คือผู้เล่นที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพราะว่า เจ้าตัว เป็นกำลังสำคัญของ “ทีมตบสาวไทย” ในยุคเฟื่องฟูสุดขีด และช่วยทีมคว้าแชมป์มาครองมากมาย รวมทั้งได้รับเลือกเป็น “ผู้เล่นทรงคุณค่า” ในการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชีย 2009 ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งนับเป็น “แชมป์เอเชีย” ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ “ตบสาวไทย” 

 

 

เมื่อคนกรีดยาง ไม่อยากกรีดยาง

 

อรอุมา สิทธิรักษ์ ลืมตาดูโลกเมื่อปี 2529 และใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่ที่ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ครอบครัวของ อรอุมา มีความเป็นอยู่คล้ายๆกับคนอื่นๆในพื้นที่ คุณพ่อและคุณแม่ เป็นลูกจ้างรับกรีดยางพารา โดยปกติในช่วงเช้า อรอุมา และ พี่สาว กับ น้องสาว(พี่น้อง 3 คน) จะตื่นตั้งแต่ “ตีสี่” เพื่อไปช่วยพ่อแม่รับจ้างเก็บน้ำยางพาราก่อนจะไปโรงเรียน ส่วนในช่วงวันหยุด เจ้าตัว ก็จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัว โดยไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อย 

 

อรอุมา มีความฝันในวัยเด็กว่าอยากจะเป็น ครู, หมอ, พยาบาล, ทหาร หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ “คนกรีดยาง” เพราะด้วยความลำบากที่ต้องเผชิญในวัยเด็ก เจ้าตัว จึงต้องการความมั่นคงในชีวิตวันข้างหน้า และที่สำคัญคืออยากมีรายได้มากพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวในอนาคต  

 

“เวลาที่เริ่มรู้สึกท้อจะมองย้อนกลับไปดูตัวเองในอดีตที่เคยลำบาก เห็นพ่อแม่รับจ้างกรีดยางมาตั้งแต่เด็กๆ เราเลยรู้วิธีการทำหมด เก็บน้ำยางได้ ทำทุกอย่างได้หมด แต่เราป็นคนเดียวในบ้านที่กรีดยางไม่เป็น และออนก็บอกแม่ว่า สิ่งเดียวที่จะไม่ฝึกและจะไม่ทำเด็ดขาดคือกรีดยาง เพราะถ้าออนกรีดยางได้ เวลาที่รู้สึกท้อแท้ก็จะคิดว่าเลิกเล่นแล้วกลับมากรีดยางที่บ้านก็ได้ เลยจะไม่ยอมกรีดยาง ถ้าทำไม่ได้ก็จะได้ไม่ท้อ ออนจะคิดเสมอเวลาท้อแท้ว่า เราอยากจะกลับไปลำบากแบบนั้นอีกเหรอ” (บางช่วงบางตอนจาก หนังสือหกเส้นทางหนึ่งความฝัน

 

 

จากสนามวิ่ง สู่สนามวอลเลย์ฯ

 

อรอุมา เดินเข้าสู่วงการกีฬาครั้งแรกในบทบาท “นักวิ่ง” หลังจากที่ เจ้าตัว เห็นคนอื่นๆซ้อมกันอย่างสนุกสนานในโรงเรียน เจ้าตัว ใช้เวลาฝึกซ้อมไม่นานก็ได้รับโอกาสลงแข่งขันในรายการต่างๆ รวมทั้งยังประสบความสำเร็จและคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้มากมาย และกลายเป็น “นักวิ่ง” ตัวแทนโรงเรียนบ้านควนสามัคคี 

 

คนที่มีพรสวรรค์ด้านกีฬา ไม่ว่าจะเล่นอะไรก็มักทำได้ดี อรอุมา เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน ระหว่างที่เรียนอยู่ป.5 เจ้าตัว เริ่มหันมาสนใจการเล่น “วอลเลย์บอล” เพราะมักได้เดินทางไปแข่งขันนอกโรงเรียน ใจแรกอยากเล่นเพราะจะได้ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ 

 

ส่วนอีกใจก็หวังจะต่อยอดไปให้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ เพราะว่าการแข่งขัน “วิ่ง” มักจะหยุดอยู่ที่ระดับอำเภอเท่านั้น แต่ถ้าหันไปเอาดีกับการ “ตบลูกยาง” อย่างน้อยก็มีโอกาสเดินทางไปแข่งขันในระดับจังหวัด ซึ่งถือเป็น “ความท้าทาย” ครั้งสำคัญในชีวิตนักกีฬารุ่นเยาว์ .... ก่อนสุดท้ายแล้ว “เด็กคนนั้น” จะก้าวขึ้นมาเป็น “อรอุมา” ที่ทุกคนรู้จักในทุกวันนี้

 

 

 

อรอุมา สิทธิรักษ์ เป็นอีกคนในยุค “7 เซียน” ที่เดินทางไปเล่นอยู่ใน “ลีกต่างแดน” ตั้งแต่สมัยเยาวชน ตุรกี, เวียดนาม, สวิตเซอร์แลนด์, อาเซอร์ไบจาน และ ญี่ปุ่น คือประเทศที่ อรอุมา เคยไปโลดแล่นมาแล้วทั้งหมด แต่ไฮไลท์สำคัญที่ยังถูกพูดถึงอยู่ทุกวันนี้ ช่วงเวลาที่ เจ้าตัว ไปเล่นกับสโมสร ดินาโม คาซาน(รัสเซีย) เมื่อฤดูกาล 2010-2011

 

การได้ลงเล่น “ลีกรัสเซีย” ถือว่าเป็นที่สุดในชีวิตของ นักกีฬาคนหนึ่ง เพราะว่าที่นั่นคือ “ลีกอาชีพ” ที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ที่น่าจดจำยิ่งไปกว่านั้นคือ “เพื่อนร่วมทีม” เพราะว่า อรอุมา ได้ลงเล่นร่วมกับ เหล่าดาวตบสาวรัสเซีย ที่เข้าๆออกๆทีมชาติอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้ง 2 ผู้เล่นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “สตาร์ระดับโลก” เอคาเทริน่า กาโมว่า ตำนานดาวตบทีมชาติรัสเซีย และ จอร์แดน ลาร์สัน กัปตันคนเก่งของทีมชาติสหรัฐฯ

 

 

อาละวาดแดนปลาดิบ

 

ย้อนกลับไปตามที่เกริ่นไว้ช่วงแรก อรอุมา คือคนที่เคยไปฝากผลงานชิ้นโบว์แดงมาแล้ว ในการแข่งขันวอลเลย์บอล “วี-ลีก” ประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะไม่ใช่คนแรกที่ย้ายไปเปิดตลาดโกยเงินเยน แต่ว่า เจ้าตัว น่าจะเป็น “ตบสาวไทย” ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ตลอดระยะเวลา 3 ฤดูกาลในการโลดแล่นบน “แดนปลาดิบ”

 

มาร์เวลัส ตัดสินใจคว้าตัว อรอุมา ไปช่วยทีมเลื่อนชั้นสู่ “ลีกสูงสุด” และเป็นที่ฮือฮาอย่างมากกับการย้ายทีมครั้งนี้ เพราะว่าสื่อหลายสำนักพากันตีข่าวว่า อรอุมา ได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 8 หลัก ซึ่งการทุ่มครั้งนี้ของ มาร์เวลัส ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะว่า อรอุมา สามารถพาทีมเลื่อนชั้นได้ตามเป้าหมายของสโมสร และช่วยทีมจบเป็น อันดับที่ 4 ในลีกสูงสุด (2017)

 


stadium

author

Plug

StadiumTH Content Creator

La Vie en Rose